ครูเบญ ยื่นหนังสือถึงกระทรวงศึกษาธิการตรวจสอบขอความชัดเจน โฆษกฯ เผยอายัดข้อสอบเข้าส่วนกลางหาความจริงแล้ว ทนายรณรงค์ลั่นถ้าผลออกมา สพม.สระแก้ว ไม่ผิด ลุยยื่น ป.ป.ช.
วันที่ 16 ก.ย. 2567 จากกรณีของ น.ส.เบญญาภา เย็นอุดม หรือ ครูเบญ ที่ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อขอความเป็นธรรม หลังสอบติดพนักงานราชการทั่วไปอันดับที่ 1 เอกวิทยาศาสตร์ สพม.สระแก้ว แต่ผ่านไป 3 วัน ชื่อกลับหายไป วันนี้ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมกับ ครูเบญ และครอบครัว เดินทางมาที่กระทรวงศึกษาธิการ ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชินชอบ รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะโฆษก ศธ.เป็นผู้รับเรื่อง
นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะที่กำกับดูแล สพฐ. ก็ให้ความสำคัญ และติดตามเรื่องมาตั้งแต่ที่น้องโพสต์ และเมื่อวันศุกร์ที่ 13 ก.ย.ได้สั่งการให้ เลขา สพฐ. และกพฐ.ไปติดตามเรื่องนี้ รวมถึงได้ส่งนิติกรไปในพื้นที่ สพม.สระแก้ว แล้ว เพื่อไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง และได้ไปเก็บเอกสารชุดข้อสอบและเฉลยคำตอบต่างๆ มาตรวจสอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเรื่องนี้คนผิดต้องถูกลงโทษ และมีการดำเนินการแน่นอน เพียงแค่ความผิดเป็นฐานประมาทหรือตั้งใจทุจริตเท่านั้น โดยยืนยันว่า “ไม่มีมวยล้มแน่นอน ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และกระทรวงจะมีมาตรการในการเยียวยา”
ซึ่งในวันนี้ เจ้าหน้าที่ก็จะดูชุดคำตอบด้วยว่าความเป็นจริงเป็นอย่างไร คะแนนของครูเบญเป็นจริงไปตามที่ประกาศหรือไม่ หากเป็นจริงก็จะหามาตรการเยียวยาที่เหมาะสม โดยจะดูวิธีเยียวยาให้ดีที่สุด
ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า สพฐ.ไปเสนอให้น้องมารับตำแหน่งครูอัตราจ้างในโรงเรียนใกล้บ้าน เป็นแนวทางเบื้องต้นของ สพฐ. พื้นที่ ไม่ใช่การปิดปากของเขตการศึกษาใดๆ และระหว่างที่มีการตรวจสอบก็จะรับครูเบญมาเป็นลูกจ้างก่อน เพราะครูเบญลาออกจากที่เดิมแล้วเพื่อให้ได้ทำงาน และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏก็จะดูวิธีเยียวยาต่อไป หากวิธีนี้ยังไม่เพียงพอ
“นี่เป็นแนวทางเบื้องต้น เพื่อเทียบกับฐานที่ออกมาจากลูกจ้างชั่วคราว จึงจ้างกลับในตำแหน่งที่เท่าเทียมกัน ในระหว่างความจริงยังไม่ปรากฏ แต่หากความจริงปรากฏ ก็ต้องเป็นพนักงานราชการ ก็ต้องเป็นอีกสเต็ป”
และตั้งเป้าว่าจะสอบภายใน 7 วัน จะเร่งให้เร็วที่สุดและไม่ให้ขยายเวลา ทั้งนี้หากผู้เสียหายมีมากกว่า 1 ก็ต้องดำเนินการด้วย ซึ่งหลังจากตรวจสอบเสร็จแล้ว ก็คงจะเชิญน้องเข้ามาเพื่อดูคะแนนให้คลายข้อสงสัย และจะเปิดเผยผลการตรวจสอบให้สาธารณะชนทราบ
ซึ่งหากพบว่าเป็นการตั้งใจทุจริตจริง โทษสูงสุดคือต้องไล่ออก และตอนนี้ ป.ป.ช. ก็เข้ามาสอบแล้ว อยากให้ดูผลว่าเป็นอย่างไร เพราะความจริงมีเพียงอย่างเดียว
ส่วนจะล้มกระดานสอบใหม่หรือไม่ มองว่า ก็คงต้องดูเป็นรายกรณีไป เพราะก็คงไม่เป็นธรรม หากต้องให้สอบใหม่ทั้งหมด พร้อมมองด้วยว่า การตรวจข้อสอบเป็นรื่องเบสิกมาก เรื่องนี้อยู่ที่ความละเอียดถี่ถ้วน ความใส่ใจ ความสนใจมากกว่า
ส่วนกรณีคนที่สอบติดจะต้องไปรายงานตัวในวันพรุ่งนี้นั้น ก็ต้องระงับไว้ก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะเสร็จสิ้น จะไม่มีใครได้ไปรายงานตัวทั้งนั้น
ด้าน ครูเบญ บอกว่า ก่อนหน้านี้มีรอง ผอ.เขตการศึกษาฯ โทรมาแจ้งให้ลบโพสต์ด้วย ส่วนกรณีข้อเสนอที่จะเยียวยาให้เป็นครูอัตราจ้าง มองว่า ถ้าตนเองคะแนนได้ที่ 1 จริง ก็ขอเยียวยาให้เป็นพนักงานราชการ แต่หากคะแนนไม่ได้จริงๆ ก็ยอมรับผลนี้ และตอนนี้อยากได้ความชัดเจน เพราะสิ่งที่ตนเองได้รับมายังไม่มีการอธิบายอะไรที่ชัดเจนเลย
ยอมรับว่า รู้สึกตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกพอชื่อหาย เพราะตอนแรกดีใจมากๆ บอกทุกคนที่บ้านแล้ว เพราะการสอบครั้งนี้ ตนเองตั้งใจอ่านหนังสืออดหลับอดนอนเพื่อมาสอบในครั้งนี้ แล้ววันที่สอบ ยายก็เข้าโรงพยาบาล ตนเองก็นอนเฝ้ายาย แล้วเช้าก็ไปสอบ พอชื่อหายก็เป็นห่วงยายไม่รู้จะรู้สึกอย่างไร
นางสาวเบญญาภา ยังบอกอีกว่า ส่วนตัวก็ยังสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะรอบแรกมีชื่อตนเอง พอผ่านไป 3วัน วันที่ 12 ก.ย. มีการโทรมาแจ้งช่วงบ่าย 3ให้ไปดูประกาศ พอเข้าไปดูชื่อหาย ตนเองก็สงสัยว่าชื่อหายเป็นเพราะอะไร ไม่ได้อธิบายให้ชัดเจน แล้วออกมาแถลงแค่ว่ามีคนร้องเรียนว่าข้อสอบผิดเป็นบางข้อ เลยต้องดำเนินการตรวจใหม่ ทั้งนี้ ส่วนตัวยังไม่ได้มีการขอดูคะแนน และอยากจะขอดูเช่นกัน ซึ่งสำหรับรายชื่ออันดับอื่นๆ ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง มีแค่รายชื่อของตนเอง จึงทำให้สงสัยว่าเป็นเพราะอะไร รวมถึงก็ไม่มีการตอบคำถามเรื่องไม่มีตราประทับในใบประกาศรอบ 2 ด้วย
พร้อมยอมรับด้วยว่า รู้สึกกลัวหาก ผลสอบออกมาแล้ว ตนเองได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ก็กลัวว่าถ้าเข้าไปทำงานแล้วอาจจะถูกกลั่นแกล้ง แต่ก็ยืนยันว่า ยังอยากจะบรรจุเป็นข้าราชครูตามสิทธิที่ควรได้
ขณะที่ นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม บอกด้วยว่า ขณะนี้ส่วนตัวยังไม่เห็นกล้องวงจรปิด และหากผลตรวจออกมา คนที่ได้อันดับ2, 3 ก็ต้องตรวจสอบให้กระจ่างด้วย เพราะลำดับทุกคนเหมือนเดิม ส่วนกรณีที่จะเสนออัตราจ้างแล้วปัดตกไป คนสอบเขาก็เสียกำลังใจหมด
พร้อมบอกอีกว่า สังคมไทยยังมองว่ามีระบบเด็กเส้น ดังนั้นจะต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่างไม่ให้คลุมเครือ หากคุณครูตรวจข้อสอบครูด้วยกันผิดพลาดก็ไม่รู้จะว่ายังไง และยืนยันว่า ตนเองจะเดินหน้าให้ถึงที่สุด หากไม่ได้คำตอบจนกระจ่างว่าผิดพลาดเพราะอะไร
สุดท้ายหากผลออกมาแล้วพบว่า สพม.สระแก้ว ไม่มีความผิด ตนจะพาครูเบญเดินทางเข้าร้องต่อ ป.ป.ช. ต่อไป