นายอภิกิต ฉ.โรจน์ประเสริฐ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นประธาน เปิดห้องมั่นคง ที่ใช้เก็บยาเสพติดของกลาง เพื่อตรวจรับและส่งมอบยาเสพติดของกลางที่ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้ว นำไปทำลาย

 

นายอภิกิต เปิดเผยว่า วันนี้สำนักงาน ป.ปส. และตัวแทนจากหลายหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ผู้แทนกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ผู้แทนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ผู้แทนสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ผู้แทนกองบังคับการตำรวจทางหลวง ผู้แทนตำรวจภูธรภาค 1 ผู้แทนมณฑลทหารบกที่ 11 ผู้แทนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้อง จะร่วมกันลำเลียงของกลางยาเสพติดจากการจับกุมยาเสพติดทั่วประเทศในห้วงเดือนมิถุนายน - กันยายน 2567 (3 เดือน) จาก 126 คดี ประกอบด้วยยาบ้า น้ำหนัก 13,313 กก. หรือ 146 ล้านเม็ด ไอซ์ หนัก 6,544 กก. คีตามีน หนัก 634 กก. เฮโรอีน หนัก 537 กก. และยาเสพติดอื่น ๆ น้ำหนักรวมกว่า 25.51 ตัน


ในวันนี้สื่อมวลชนเข้ามาร่วมทำข่าว พร้อมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเป็นการรับประกันว่ายาเสพติดของกลางเหล่านี้ที่จะถูกนำไปทำลายจะไม่รั่วไหลกลับคืนสู่สังคมหรือเข้าถึงประชาชน อย่างไรก็ตาม สำนักงาน ป.ป.ส. ตั้งเป้าหมายดำเนินการทำลายยาเสพติดของกลางอย่างต่อเนื่องทุก 2 เดือน โดยยาเสพติดของกลางล็อตนี้มีกำหนดเผาทำลายในวันที่ 26 ก.ย. เวลา 14.00 น. ณ บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร่วมเป็นประธานในพิธี


นายอภิกิต เผยอีกว่า สำหรับกระบวนการเผาทำลายยาเสพติดของกลางจะใช้ระยะเวลา 2 วันในการดำเนินการ และยาเสพติดเหล่านี้จะถูกเผาทำลายด้วยเครื่องเผาความร้อนสูง 1,200 องศาเซลเซียส จนเม็ดยาเสพติดเหลือเพียงซากฝุ่น และเจ้าหน้าที่จะใช้น้ำฉีดคลุมเพื่อลดการเกิดมลพิษ ซึ่งในการเผาทำลายยาเสพติดของกลางครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 6 ของปีงบประมาณ ทั้งนี้ ในบรรดายาเสพติดของกลางล็อตนี้มีหลายเคสที่เป็นการจับกุมในรายคดีสำคัญ อาทิ การจับกุมยาบ้ามากกว่า 10 ล้านเม็ดในพื้นที่ จ.สระบุรี การจับกุมไอซ์ในพื้นที่ภาคตะวันออกใน จ.จันทบุรี จำนวน 1.5 ตัน เป็นต้น

นายอภิกิต เผยต่อว่า ส่วนระหว่างการลำเลียงยาเสพติดของกลางทั้ง 21 ตันไปเผาทำลายนั้น จะมีเจ้าหน้าที่คอมมานโดของสำนักงาน ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่คอมมานโดของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดจนจบกระบวนการ


สำหรับของกลางยาเสพติดที่บรรจุในกระสอบนั้น จะมีทั้งกระสอบที่บรรจุถุงเม็ดยาเสพติดโดยเฉพาะ กับบางกระสอบที่บรรจุสิ่งห่อหุ้มหีบภัณฑ์ยาเสพติด เพราะสิ่งห่อหุ้มพวกกระดาษสา พวกตรา 999 AAA ก็ถือว่าเป็นของกลางหลักฐานในคดีที่ต้องเผาทำลายเช่นเดียวกัน แต่เวลาชั่งน้ำหนักจะต้องชั่งแยกกัน

ส่วนการขนย้ายในวันนี้ จะใช้รถจำนวน 4 คัน โดยจะมีทั้งรถของ ป.ป.ส. และรถจากเอกชน โดยเมื่อมีการนำของกลางขึ้นรถได้ครบทั้งหมดแล้ว จะมีการนำรถจอดไว้เพื่อลำเลียงไปยังจุดเผาทำลาย โดยจะมีผู้ถือกุญแจเป็นคณะกรรมการระดับสูง พร้อมทั้งยึดกุญแจรถทุกคันไว้ จนกว่าจะมีการเริ่มขบวนการขนย้าย และจะมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษอินทรีย์ เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มกันดูแลรถทุกคน โดยจะสับเปลี่ยนกันเฝ้าตลอด 24 ชั่วโมง


นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ยาเสพติดของกลางที่ทำลายในครั้งนี้เป็นผลการจับกุมยาเสพติดทั่วประเทศและเป็นยาเสพติดของกลางที่ผ่านการพิสูจน์แล้วของสำนักงาน ป.ป.ส. โดยมีคดีที่สำคัญ ดังนี้ คดียาบ้า จำนวนตั้งแต่ 10 ล้านเม็ดขึ้นไป จำนวน 3 คดี ได้แก่ คดีเมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 ตำบลศาลาครุ อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี จำนวน 13,800,000 เม็ด / คดีเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 ตำบลป่าไผ่ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน จำนวน 11,996,800 เม็ด / คดีเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 ตำบลพุคำจาน อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี จำนวน 10,000,000 เม็ด ขณะที่ในส่วนของคดีไอซ์จำนวนตั้งแต่ 1 ตันขึ้นไปมีจำนวน 2 คดีสำคัญ ได้แก่ คดีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.67 ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี จำนวน 1.5 ตัน หรือ 1,500 ถุง และคดีเมื่อวันที่ 10 พ.ค.67 ตำบลพรหมณี อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก จำนวน 1 ตัน หรือ 1,000 ถุง