คนใจบาปขี่มอเตอร์ไซค์นำแมวทั้งพ่อแม่ลูกรวม 7 ตัว ใส่กระสอบ เททิ้งหน้าบ้านชาวบ้าน ย่านตัวเมืองปาดังเบซาร์ เจ้าของบ้านต้องรับเลี้ยงไว้ชั่วคราว วอนผู้ใจบุญรับไปเลี้ยงต่อ

วันที่ 23 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องร้องเรียนถึงพฤติกรรมของคน 2 คน ขณะขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ออโตเมติก สีขาว โดยคนขับขี่เป็นผู้หญิงสวมผ้าคลุมฮิญาบสีดำ ได้ยกกระสอบที่วางอยู่หน้ารถ เทสิ่งที่อยู่ในกระสอบออกมา ซึ่งเป็นแมวทั้งหมด 7 ตัว ไว้ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งภายใน ซ.ศิริมงคล 1 เขตเทศบาลเมืองปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อช่วงประมาณ 2 ทุ่ม ของวันที่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา แล้วเร่งเครื่องออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากนั้น เจ้าของบ้านได้ออกมาพบทำให้ต้องเลี้ยงดูแมวเหล่านี้เอาไว้ที่บ้าน พร้อมกับฝากบอกไปถึงเจ้าของแมวที่เอามาทิ้งให้มาแสดงความรับผิดชอบ และโพสต์เรื่องราวลงในกลุ่มโซเชียลของชาวปาดังเบซาร์ ที่มีสมาชิกอยู่เกือบ 5 หมื่นคน เพื่อหาผู้ใจบุญหรือคนรักแมวให้ช่วยรำไปเลี้ยง เพราะตนเองก็เลี้ยงไม่ไหว

ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของบ้านรายนี้ ทราบชื่อคือ น.ส.เปมิกา หรือกี้ อายุ 42 ปี เล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้อยู่บ้าน แต่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดดู เพราะ คิดว่า เพื่อนจะแวะมาหาที่บ้าน แต่ก็พบว่าในภาพมีคน 2 คน ขับขี่รถจักยานยนต์นำแมวมาปล่อยที่หน้าบ้านของตนเอง พอกลับมาแมวก็ยังวนเวียนอยู่ที่หน้าบ้าน จึงจำเป็นเป็นต้องหาที่ข้างบ้านให้แมวเหล่านี้อยู่ไปก่อน พร้อมหาอาหารและน้ำมาให้กินด้วย

โดยแมวที่ถูกนำมาทิ้งนั้น พบว่าถูกนำมาทิ้งยกคลอกรวม 7 ตัว ทั้งพ่อแม่แมว 2 ตัว และลูกแมวอีก 5 ตัว อายุไม่กี่เดือน มีทั้งที่คล้ายแมวบ้านทั่วไปและบางตัวออกแนวลูกผสมคล้ายแมวเปอร์เซีย มีทั้งสีส้มและสีดำ

คุณกี้ บอกว่า เหตุการณ์ที่คนนำแมวมาทิ้งที่หน้าบ้านนั้นมีบ่อยๆ เพราะแต่ก่อนตนเคยเลี้ยงแมวแต่ได้เลิกเลี้ยงไปนานแล้ว โดยคนทั้งคู่ที่นำแมวมาทิ้งตนเองก็ไม่คุ้นหน้า อาจจะเป็นคนที่อยู่ในย่านอื่น แต่อาจจะพอรู้ว่า ถ้าจะทิ้งแมวต้องนำมาทิ้งแถวนี้ แต่ก็อยากจะฝากไปบอกถึงเจ้าของแมวว่า ถ้าเลี้ยงไม่ไหวก็ควรจะเอาไปให้คนที่มีกำลังที่จะเลี้ยงต่อได้ หรือมูลนิธิช่วยสัตว์เลี้ยงต่างๆ จะดีกว่า ไม่ใช่เอามาปล่อยไว้ที่หน้าบ้านของคนอื่นแบบนี้ มันไม่น่ารักเลย และยังเป็นการผลักภาระให้กับคนอื่นด้วย

คุณกี้ บอกว่า หลังเกิดเหตุได้โพสต์เรื่องราวและคลิปวงจรปิดลงในสื่อโซเชียลของคนปาดังเบซาร์ เพื่อให้เจ้าของแมวได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งหาคนรักแมวหรือผู้ใจบุญช่วยรับแมวเหล่านี้ไปเลี้ยงต่อ เพราะตนเองก็ไม่ได้เลี้ยงแมวมานานแล้ว