เงินเข้าแล้ว! รัฐบาลทยอยโอนเงิน 10,000 บาท เข้าบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์ ให้กลุ่มเปราะบาง ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและกลุ่มผู้พิการ

วันที่ 25 ก.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง จะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยมีการเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ให้กับผู้มีสิทธิ์ตั้งแต่เมื่อช่วงเที่ยงคืนที่ผ่านมา โดยทยอยจ่ายกลุ่มแรกรวม 4 วัน คือวันที่ 25,26,27 และวันที่ 30 ก.ย. 67 เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มเปราะบางที่ได้สิทธิในเฟส 1 รวม 14.55 ล้านคน

ล่าสุดบรรยากาศบริเวณหน้าตู้กดเงินธนาคารกรุงไทย สาขาชัยนาท ในตัวเทศบาลเมืองชัยนาท ประชาชนกลุ่มเปราะบางทยอยเดินทางออกจากบ้าน มากดเช็กยอดเงินกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละคนเมื่อรู้ว่ามียอดเงินโอนเข้ามาแล้วต่างก็ดีใจยิ้มจนแก้มปริ

อย่างเช่นคุณป้านันทา หิรัญปาน กับคุณป้า วาสนา กลิ่นกุหลาบ ที่มาช่วยกันทำรายการเช็กยอดเงิน ที่เมื่อรู้ว่ามีเงินเข้ามาแล้ว ก็ต่างคนต่างแสดงความยินดีและดีใจซึ่งกันและกัน โดยทั้ง2ท่าน ได้กดเงินออกมาทีเดียวหมดทั้ง 10,000 บาท โดยท่านแรกคุณป้าวาสนาบอกว่า ตนเองเป็นกลุ่มเปราะบางที่ถือบัตรคนพิการอยู่ เฝ้ากดตรวจสอบผลการตรวจสอบสิทธิ์ตามโครงการในแอปฯทางรัฐ แต่ก็ไม่ทราบผลทำให้ร้อนใจ รอจนเช้าจึงชวนหลานมากดเช็กยอดที่หน้าตู้กดเงิน ทำให้ทราบว่ามีเงินโอนเข้ามาแล้ว ซึ่งเงินจำนวนนี้ ตนจะเก็บไว้ซื้อข้าวของเครื่องใช้ในบ้าน และเป็นค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดูหลานสาวที่กำลังเรียนอยู่ในชั้นประถมศึกษา ซึ่งเงินจำนวน 10,000 บาทนี้สำหรับครอบครัวคนจนอย่างป้า ถือว่ามีค่ามากและน่าจะใช้จ่ายให้ชีวิตดีขึ้นได้หลายเดือน

ด้านคุณป้านันทา บอกว่า ดีใจมากๆ ที่เงินตามโครงการโอนเข้ามาแล้ว เพราะป้าเองหวังไว้มากกับเงิน10000บาทก้อนนี้ เพราะตั้งใจไว้ว่าจะเอามาซื้อของซ่อมแซมบ้าน เพราะบ้านที่อยู่ปัจจุบัน มีสภาพที่ทรุดโทรมมาก เพราะเลี้ยงสุนัขหลายตัว มันกัดแทะจนเป็นรูหลายที่ เลยจะเอาเงินไปซ่อมบ้าน ที่เหลือก็จะซื้อข้าวสารและของใช้ในบ้าน

 

 

ขณะที่ นางเมทินี สุทธะสุริยะ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/5 ตำบลอัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม อาชีพรับซักเสื้อผ้า เปิดเผยในเช้าวันนี้ว่าได้รับเงิน 10,000 บาทจากกลุ่มผู้เปราะบางที่บัตรลงท้ายด้วยหมายเลข 0 ได้รับเงินโอนเข้ามาตั้งแต่เมื่อคืนจำนวน 10,000 บาทแล้ว และบอกว่าจำนวนดังกล่าวที่ร้านโอนให้มาไปจับจ่ายซื้อของใช้ภายในบ้านเช่นซื้อข้าวสาร กะปิน้ำปลาและเงินส่วนหนึ่งก็จะเก็บไว้ใช้สอยภายในบ้านและรู้สึกดีใจที่เงินออกมาก็จะช่วยเหลือชาวบ้านได้ในระดับหนึ่ง เพราะในช่วงนี้ค้าขายก็ไม่ค่อยดีถ้าได้เงินส่วนนี้มาก็สามารถช่วยชาวบ้านได้ในระดับหนึ่ง

 

 

 

และที่ จ.ยะลา นางสาวยาวารี มะมิง อายุ 46 ปี ชาวอำเภอยะหา ได้ให้การสัมภาษณ์ว่า วันนี้ก็ไม่ได้นอนเลย เพราะรอเงิน 10,000 บาทเข้า จะนำเงินจำนวนนี้ไปซ่อมบ้าน ทำประตูบ้าน ดีใจมากๆ เพราะมารอนาน ได้ของบัตรประชารัฐ มีบัตรประชารัฐ 300 เดือนหนึ่ง 300 บาท ขอบคุณนายกฯอิ๊งค์ ขอบคุณทุกคน เงินจำนวนนี้สามารถช่วยได้เยอะ ได้ซื้อข้าวสารให้ลูก และลูกเรียนอีก 5 คน