ตร.เผยยึดทองในบ้านแม่ตั๊กได้บางส่วน รถหรูยังอยู่ในประเทศ "คนร่วมรีวิว" หนาวๆ ร้อนๆ จ่อเรียกสอบคิวต่อไป
วันที่ 30 กันยายน 2567 กรณีตำรวจควบคุมตัวนางสาวกรกนก สุวรรณบุตร หรือแม่ตั๊ก และนายกานต์พล เรืองอร่าม หรือป๋าเบียร์ เข้ามาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) โดยมีทนายความอยู่ด้วยตลอดเวลา พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 หมายจับ 4 ข้อหา และหมายค้นอีก 2 จุด จนสามารถจับกุมผู้ถูกกล่าวหาไว้ได้ เบื้องต้นทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใดๆ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้เป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้ว่าขณะนี้จะมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์ 2 คน แต่ก็มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้มาร้องทุกข์กับตำรวจ ดังนั้น พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว และคาดว่าจะฝากขังต่อศาลอาญาในวันพรุ่งนี้ และการประกันตัวให้เป็นดุลพินิจของศาล โดยในคืนนี้ทั้ง 2 คนก็จะต้องอยู่ในห้องควบคุมตัวผู้ต้องหา
ส่วนพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากบ้านของแม่ตั๊ก ที่มีทั้งตู้เซฟ และอาวุธปืน 4 กระบอก ตรวจสอบเบื้องต้นเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บรวบรวมหลักฐานเอกสารได้พอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อาจกระทบต่อคดี แต่มีการตรวจยึดทองได้บางส่วน
ขณะที่ทรัพย์สินอื่นๆ เช่นรถหรูหลายคันที่มีกระแสข่าวว่าถูกขนย้ายไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้วนั้น ยืนยันว่าตำรวจได้เฝ้าสังเกตการณ์ ติดตามทรัพย์ตั้งแต่ก่อนที่หมายจับจะออกอยู่แล้ว ตลอดจนมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเทรถหรูออกนอกประเทศ ทั้งนี้ จะรายงานคดีไปยัง ปปง. เพื่อให้สืบเส้นทางการเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เนื่องจากคดีนี้เป็นมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน ส่วนหลักฐานต่างๆ ในความผิดข้อหาฟอกเงิน ตอนนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบ
ส่วนหลังจากนี้ ตำรวจยังอยู่ระหว่างขยายผลบัญชีแถว 2 และ 3 รวมถึงบุคคลที่มาร่วมรีวิว เพื่อออกหมายเรียกมาสอบปากคำว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น การไลฟ์รีวิวร่วมกันเข้าข่ายความผิดร่วมกันโฆษณา โดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนที่ปรากฏภาพตำรวจสนิทสนมกับแม่ตั๊ก ยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากคนไหนมีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญา และยืนยันภาพดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินคดี เพราะผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนการสั่งการให้ดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐานและให้เกิดความเป็นธรรม