แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์ นอนคุกคืนแรกเครียดหนัก พบโรคประจำตัวทั้งคู่ เปิดเมนูอาหารในเรือนจำ
จากกรณี ศาลอาญาไม่ให้ประกัน น.ส.กรกนก หรือ "แม่ตั๊ก" และ นายกานต์ หรือ "ป๋าเบียร์" ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาในความผิดฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ , ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในคุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด” เนื่องจากความเสียหายเป็นวงกว้าง เกรงผู้ต้องหาจะหลบหนี และเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน กระทบต่อการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดี จึงเห็นสมควรรอฟังผลการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน ยกคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราว
ก่อนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย แยกไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครและทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (1 ต.ค.)
ล่าสุด นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผู้อำนวยการกองทัณฑวิทยา และรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า วานนี้ (1 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์รับตัวผู้ต้องหามายังเรือนจำทั้ง 2 แห่ง ประมาณ 20.00 น. โดยผู้ต้องขังเข้าใหม่จะต้องมีการทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ ตรวจสุขภาพร่างกายและจิตใจพบว่าทั้งคู่มีโรคประจำตัว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่พกยามาเอง ส่วน "แม่ตั๊ก" ได้ขอเพิ่มยาคลายเครียดมาด้วยตามปกติของผู้มีคดี และนอนเรือนจำคืนแรกมีอาการเครียดบ้าง ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ให้ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" พบแพทย์และนักจิตวิทยาประจำเรือนจำ ช่วยให้คำปรึกษาพูดคุยเรื่องการปรับตัวภายในเรือนจำ เพราะอาจมีความกังวลเรื่องครอบครัว หรือหน้าที่การงาน ฯลฯ
ส่วนป๋าเบียร์ พบว่ามีโรคประจำตัวเช่นกัน แต่ขออนุญาตไม่เปิดเผย เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล และได้มีการขออนุญาตนำยารักษาโรคเข้ามาใช้ภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหาคร โดยยาดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและอนุญาตการใช้
จากนี้ก็จะได้พบแพทย์เพื่อพูดคุยและตรวจเรื่องสุขภาพ และพบนักจิตวิทยาเพื่อพูดคุยเรื่องสุขภาพจิตใจเช่นเดียวกัน ส่วนการรับประทานอาหารเมื่อวานนี้รวมถึงเช้าวันนี้ เจ้าตัวรับประทานอาหาร ดื่มน้ำ ดื่มนมได้ปกติ แต่คงต้องให้เวลาการปรับตัวสักระยะ
สำหรับการนอนหลับคืนแรกของป๋าเบียร์ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยว่า เจ้าตัวค่อนข้างนอนหลับสนิท และได้มีการพูดคุยกับผู้ต้องขังเข้าใหม่รายอื่นบ้าง ส่วนข้อกังวลใด ๆ ยังไม่มีแจ้งมา และยังไม่ได้เรียกร้องขอสิ่งใด หรือขอพบบุคคลใด รวมทั้งยังไม่มีอาการเศร้าเท่าแม่ตั๊ก แต่ก็อยู่ในการเฝ้าระวังตามแนวทางการปฏิบัติในการดูแลผู้ต้องขัง
นางกนกวรรณ กล่าวว่า สำหรับผู้ต้องขังทั้งคู่จะอยู่ในแดนกักโรคตามมาตรการป้องกันโควิด ประมาณ 5 วัน ก่อนย้ายเข้าแดนใน แต่ระหว่างนี้ผู้ต้องหาขอพบทนายความได้ ทันทีผ่านระบบออนไลน์ ส่วนการเยี่ยมญาติต้องหลังจากผ่าน 5 วันในการคุมขังแดนกักโรคไปก่อนจึงสามารถเยี่ยมได้ทั้งระบบ online และ onsite
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องขังทั้ง 2 ราย ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ส่วนอาหารมื้อเช้าทัณฑสถานหญิงกลางเป็นต้มจืดฟักใส่ไก่ และเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเป็นต้มจับฉ่าย