กรมชลประทาน ประกาศฉบับ 10 เขื่อนเจ้าพระยาจ่อระบายเพิ่ม 2,400 ลบ.ม. เตือน 11 จังหวัดภาคกลางเตรียมรับมือน้ำขึ้น 70 ซม.
วันที่ 5 ตุลาคม 2567 กรมชลประทานได้ออกประกาศแจ้งเตือนฉบับที่ 10 ไปยัง 11 จังหวัดลุ่มน้ำภาคกลางประกอบด้วย อุทัยธานี, นครสวรรค์, ชัยนาท, ลพบุรี, สิงห์บุรี, อ่างทอง, พระนครศรีอยุธยา, ปทุมธานี, นนทบุรี, สุพรรณบุรี และกรุงเทพมหานคร ว่าใน 1-7 วันข้างหน้าคาดว่าจะมีปริมาณน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ ลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ในอัตรา 2,200 - 2,500 ลบ.ม./วิ (ลูกบาศเมตรต่อวินาที) และมวลน้ำสมทบจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาอีกประมาร 300 ลบ.ม./วิ รวม 2,800 ลบ.ม./วิ
ทำให้จำเป็นต้องมีการพิจารณาปรับแผนการระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อลดผลกระทบทั้งด้านเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน โดยจะปรับอัตราการระบายน้ำแบบขั้นบันได้ขึ้นไปที่เกณฑ์ 2,400 ลบ.ม./วิ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น 60-70 ซม. จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ล่าสุดสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเเจ้าพระยา กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ลุ่มภาคกลาง ได้คงอัตราการระบายเพื่อรองรับมวลน้ำเหนือ และพบว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลลงเขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องล่าสุด (00.00 น.) วัดได้ 2,342 ลบ.ม./วิ ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบาย ไว้ที่ 1,999 ลบ.ม./วิ เพื่อลดผลกระทบกับพื้นที่เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน รวมทั้งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำรองรับปริมาณน้ำเหนือ ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงยกตัวขึ้น 59 ซม. ใน 24 ชม. ล่าสุดวัดได้ 16.52 ม.รทก. (เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง) ขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้น16 ซม. ในรอบ 24 ชม. ล่าสุดวัดได้ 14.50 ม.รทก.
ทั้งนี้ จากการระบายน้ำในเกณฑ์ 2,000 ลบ.ม./วิ จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายเขื่อน ตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไป จ.สิงห์บุรี, อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ ริมคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล บ้านบางหลวงโดด ต.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยระดับน้ำจะเพิ่มขึ้น10-20 ซม. ใน 24 ชม. ข้างหน้า จึงขอให้ประชาชนยกของขึ้นที่สูง และเฝ้าสังเกตความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป
ล่าสุดทีมข่าวลงพื้นที่ท้ายเขื่อนฝั่งตะวันออก พื้นที่ ต.โพนางดำออกและ ต.หาดอาษา ซึ่งอยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่าบ้านเรือประชาชนที่อยู่นอกคักั้นน้ำ ถูกท่วมขังใต้ถุนบ้านสูงประมาณ 30 ซม. โดยระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่ประมาณ1 เมตร เทศบาลตำบลโพนางดำออก และเทศบาลตำบลหาดอาษาจึงได้ติดตั้ง เครื่องสูบน้ำตามจุดเสี่ยง เพื่อใช้แก้ไขปัญหาน้ำท่วมพร้อมเตรียมกระสอบทรายเพื่อก่อแนวกั้นน้ำเอาไว้ด้วย