รวบ "เชฟอ้อย" ยักยอกเพชรแฟนคลับ ทำทีเป็นนายหน้าขายเพชรแต่นำไปขายหมุนเงินเพื่อธุรกิจจนเหยื่อ สูญ 2,000,000 ล้าน
เมื่อวันที่ 8 ต.ค. พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท. ผบช.สอท. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. สั่งการให้พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 พ.ต.อ.กฤช กัญชนะ ผกก.2 บก.สอท.1 ร่วมกันจับกุมนางยุวดี (เชฟอ้อย) อายุ 54 ปี ตามหมายจับของศาลแขวงบางบอน ข้อหาความผิดฐานยักยอกทรัพย์ โดยจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านถนนศรีนครินทร์ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจาก ผู้เสียหายรู้จักกับผู้ต้องหาผ่านทางทีวี และเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นเชฟชื่อดัง จึงติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหาร จึงได้พูดคุยจนเกิดความสนิทสนมกัน ผู้ต้องหาเห็นว่าผู้เสียหายต้องการจะขายทองคำเพชร และพระเครื่อง มูลค่ากว่า 2 ล้าน บาท จึงเสนอตัวจะเป็นนายหน้านำทรัพย์สินดังกล่าวไปทำการขายให้ ผู้เสียหายเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นเชฟชื่อดัง และเป็นที่รู้จักในวงการ จึงยอมให้ผู้ต้องหานำทรัพย์สินดังกล่าวไปเพื่อทำการขาย ระยะเวลาผ่านไปหลายเดือนผู้เสียหายทราบภายหลังว่าผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินของตนไปมัดจำเพื่อเปิดร้านอาหาร จึงได้ทวงถามกลับมายังผู้ต้องหา พบว่าเป็นความจริงจึงเข้าร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.บางบอน
ต่อมาชุดสืบสวนได้ทำการแกะรอยจนทราบว่าผู้ต้องหาได้มาอยู่ที่บริเวณห้างดังกล่าวจึงนำกำลังเข้าจับกุม
จากการสอบสวนเบื้องต้น เชฟอ้อย ให้การรับสารภาพว่าได้มีการนำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจริงโดยสาเหตุมาจากหมุนเงินไม่ทัน หลังจากที่ออกรายการชื่อดังอย่างโหนกระแสไปทำให้มีผู้ติดตามลดลงและมีคนซื้อแฟรนไชส์ลดลงด้วยทำให้ประสบปัญหาในเรื่องของธุรกิจจึงตัดสินใจก่อเหตุ
เชฟอ้อย กล่าวว่า ได้นำเพชรจากผู้เสียหายไปขายจริงโดยตนทำหน้าที่นายหน้าเอาไปให้โปรดิวเซอร์รายการทีวีช่องดัง ซึ่งทางนั้นก็ยังไม่ได้จ่ายเงินเรา แต่ช่วงเวลาที่นำเพชรมาครั้งแรกเราได้ควักเงินจ่ายให้กับผู้เสียหายไปก่อน 500,000 บาทแต่ต่อมาภายหลังได้ออกรายการโหนกระแสกรณีที่มีปัญหาเรื่องลูกชิ้น ทำให้ขายไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ขาดสภาพคล่องไม่สามารถผ่อนคืนให้กับทางผู้เสียหายได้ อย่างไรก็ตามตนไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนีหรือไม่จ่ายเงินให้กับทางผู้เสียหายที่ผ่านมาได้พยายามติดต่อผู้เสียหายมาโดยตลอดและพยายามที่จะขอไกล่เกลี่ยเพื่อที่จะชดใช้เงินให้เต็มจำนวน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำส่งพนักงานสอบสวน สน.บางบอน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป