"ไพบูลย์" อุบหมัดเด็ดน็อกเพื่อไทยถึงจุดจบ รอพรุ่งนี้ 7 โมงเช้า​ ด้าน "สมคิด" ขำ บอกตื่นมาจิบกาแฟ แล้วทำงานเหมือนเดิม

วันที่ 9 ต.ค. 2567 นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ยังปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดถึงหมัดเด็ดที่จะปล่อย และจะมีผลถึงจุบจบพรรคเพื่อไทย โดยย้ำว่าจะมีคนส่งข้อมูลมาให้วันพรุ่งนี้ (10 ต.ค.) และจะเปิดเผยต่อสื่อมวลชนทันที โดยไม่ได้เป็นผู้ทำเรื่องดังกล่าวเองแต่มีคนส่งมาให้ ซึ่งจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับจุดเริ่มต้นที่น่าจะนำไปสู่จุดจบของพรรคเพื่อไทย

ส่วนจะเป็นการขายหนังเก่าหรือไม่ นายไพบูลย์ ย้ำว่า เดี๋ยวก็รู้ และขอให้ผู้สื่อข่าวรอพูดคุยรายละเอียดวันพรุ่งนี้ 7 โมงเช้า

ด้านนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ให้สัมภาษณ์ตอบโต้นายไพบูลย์ต่อกรณีดังกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยทุกคนไม่ได้กังวลเรื่องนี้เลย แถมขำด้วยซ้ำที่บอกว่าจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีและยุบพรรคเพื่อไทย ตนมองว่าไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้เกิดเรื่องในวันพรุ่งนี้ การให้ข่าวดังกล่าวทำให้ประชาชนเกิดความสับสนมากกว่า

เมื่อถามว่า มีการประเมินหรือไม่ว่าจะมีปัจจัยอะไรที่จะเป็นเหตุให้ยุบพรรคเพื่อไทย นายสมคิด กล่าวว่า หากจะยุบพรรคเพื่อไทยก็เห็นยื่นมาหลายเรื่องแล้ว ซึ่งหากจะยุบพรรคจริง ทุกอย่างมีกระบวนการ เราไม่ได้กังวลว่าจะถูกยุบเพราะมีประสบการณ์เรื่องนี้อยู่

ส่วนที่มีการบอกว่า อาจถึงขั้นมีการเปลี่ยนตัวนายกฯ และเป็นนายกฯ คนนอก โดยเฉพาะมีชื่ออดีตผู้ว่าการธนาคารแแห่งประเทศไทย หรือ ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติด้วยนั้น นายสมคิด กล่าวว่า ตนอยากให้มาเล่นกันในกระบวนการของสภาฯ ดีกว่า เพราะสภาฯ จะเป็นผู้กำหนดนายกรัฐมนตรีซึ่งถูกเลือกโดยสภาฯ แล้วจะมาเลือกจากคนนอกได้อย่างไร ตนไม่เชื่อหรอก เพราะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 88 ยังมีอยู่ ทั้งนายชัยเกษม นิติสิริ, นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคภูมิใจไทย

ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันเป็นองคมนตรี ซึ่งหากจะเปลี่ยนตัวนายกฯ หรืออะไรก็ตาม ก็ต้องอยู่ในกระบวนการ ดังนั้นตนไม่อยากให้ประชาชนเกิดความสับสน ขณะนี้รัฐบาลยังเดินหน้าเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ยังทำงานเหมือนเดิม

"ข่าวบางข่าวก็สร้างเอามันเข้าว่า เอาความสะใจเข้าว่า ผมไม่อยากให้คนในระดับเลขาธิการพรรคมาพูดแบบนี้ เราจะเล่นอะไรอยากให้อยู่ในกระบวนการสภาฯ ดีที่สุด ถ้าท่านหรือใครอยากเป็นนายกฯ ก็ต้องหาเสียงให้เกินครึ่งมาล้มกัน มาว่ากันในสภาฯ ทุกอย่างต้องเอาสภาฯ เป็นตัวตั้ง อย่าเพลิน เล่นกันเพลิน เดี๋ยวจะไม่มีสภาฯ ให้เล่น ต้องเอาสภาฯ เป็นหลัก ใครได้เยอะก็ว่ากันตรงนั้น แต่วันนี้ยังไม่มีเหตุอะไรต้องเปลี่ยนนายกฯ"

เมื่อถามต่อว่า มองว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังมีความหวังที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ใช่หรือไม่ นายสมคิด กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจว่า ที่ นายไพบูลย์ออกมาพูดนั้นจะสื่อว่าต้องการให้ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ หรือไม่ หรือจะหมายถึงใคร แต่วันนี้ยังมีสภาฯ อยู่ และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ก็เพิ่งทำงานได้เดือนกว่า แล้วจะเอาอะไรอีก

นายสมคิด กล่าวต่อว่า สำหรับกระบวนการว่าจะยุบพรรคหรือไม่ตามที่มีการร้องนั้น มันยังอีกยาว เดี๋ยวค่อยว่ากัน เพราะหลายพรรคก็โดนแบบนี้ รัฐบาลโดนร้องหลายประเด็น จนบางครั้งผู้ร้องยังจำไม่ได้ว่าร้องเรื่องอะไรบ้าง และไม่รู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญหรือผู้ตัดสินจะตัดสินตรงไหน ดังนั้นต้องใช้เวลา

"ขอประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกตกใจว่า พรุ่งนี้ 07.00 น. มันจะมีอันเป็นไป ผมว่ามันไม่มีหรอกครับ พรุ่งนี้ตื่นมากินกาแฟ มาทำงานเหมือนเดิม ไม่มีปัญหา"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางพรรคพลังประชารัฐอาจไม่ได้หวังให้ พล.อ.ประวิตร ได้ขึ้นมาเป็นนายกฯ แต่อาจจะหวังแค่ล้มรัฐบาลหรือล้มพรรคเพื่อไทยได้เท่านั้น นายสมคิด กล่าวว่า ล้มแล้วยังไง จะไปอย่างไร เพราะเป็นการยกมือในสภาฯ เป็นหลัก ยังไงเราก็เยอะกว่า

เมื่อถามว่า เป็นการทำให้ระส่ำได้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ถ้าคิดว่าจะทำให้เราระส่ำ ตนว่ามันไม่มีประโยชน์เพราะจะทำให้ประชาชนสับสน เรื่องนี้ตนคุยกับรัฐมนตรีหลายคนต่างก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร และเรื่องนี้นายกรัฐมนตรีก็ไม่ได้กังวลใจใดๆ มีแต่ห่วงม็อบ ขอให้ตนได้คุยและเคลียร์กับม็อบให้รู้เรื่อง ตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าจะคุยยังไงเพราะปกติก็คุยกันไม่ค่อยจะรู้เรื่อง ก็ปล่อยให้เขาอยู่ไป