"จิราพร" เผย สคบ.เตรียมริบโล่ "ดิไอคอนกรุ๊ป" คืน หลังตรวจสอบแล้วใช้ผิดวัตถุประสงค์ ได้ฤกษ์ตั้งคณะกรรมการสอบปม "เทวดา สคบ."
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีการร้องเรียน บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียง ระบุ มี "เทวดาใน สคบ." เรียก รับผลประโยชน์ ขณะนี้มีการดำเนินการอย่างไรบ้างว่า เพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรมมากที่สุด ในการตรวจสอบประเด็นนี้จะมีการเชิญคนนอกเข้ามาเป็นคณะกรรมการในการตรวจสอบ โดยได้ประสานบุคคลที่มีชื่อเป็นคณะกรรมการครบแล้ว
แต่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหลายอย่างว่า มีการพาดพิงหน่วยงาน และบุคคลภายนอกด้วย เพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพ จึงต้องยกระดับการตรวจสอบ เสนอให้นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งกำกับดูแลสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรวบรวมข้อมูล รวมถึงหน่วยงาน และบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมด้วย
สำหรับชื่อแคนดิเดตเลขาธิการ สคบ.อย่าง พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตรองเลขาธิการ นายสุวิทย์ วิจิตรโสภา ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี จะมีการตรวจสอบอย่างไรบ้าง หลังปรากฏคลิปเสียงและภาพไปพัวพันกับบอสพอล นางสาวจิราพร กล่าวว่า คณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้นข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริง และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการในการตรวจสอบข้อเท็จจริง
สำหรับกรณีปรากฏภาพบอสพอล ถ่ายภาพกับเจ้าหน้าที่ สคบ. จำนวนมาก และยังมีการนำสิ่งของเข้าไปมอบให้ นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า ในส่วนนี้ จะมีการตั้งคณะกรรมการ และนำคนนอกมาสอบสวน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และนำไปสู่การแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยคณะกรรมการชุดนี้จะให้ข้อเสนอแนะ และนโยบาย เพื่อการแก้ปัญหาระยะยาวต่อไป ส่วนกรรมการที่ตั้งขึ้น เราขีดเส้นตรวจสอบไม่เกิน 30 วันจะมีตัวแทนอัยการสูงสุด สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และตัวแทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย
ส่วนกรณีเจ้าหน้าที่รับผลประโยชน์จะมีการสอบสวนในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ นางสาวจิราพร ระบุว่า จะมีการสอบสวนรวมประเด็นทุกอย่างที่เป็นประเด็นที่เกี่ยวเนื่องกัน เนื่องจากคณะกรรมการมีหน้าที่ศึกษาข้อเท็จจริง และจะตรวจสอบทั้งหมด ทั้งเรื่องคลิปเสียง และกรณีอื่นๆ
นางสาวจิราพร เปิดเผยอีกว่า ในเวลา 10.00 น. วันที่ 16 ต.ค.นี้ ทาง สคบ.ได้เรียกผู้บริหารบริษัทและดาราเข้ามาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ข้อมูล ซึ่งผลการสอบจะต้องมีการส่งไปให้ สตช. เพื่อประกอบการพิจารณา
ทั้งนี้ สตช.แจ้งว่า มียอดผู้ร้องทุกข์เข้ามาทะลุพันคน เป็นจำนวนความเสียหาย 380 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน พยานบุคคล วัตถุ เอกสาร เพื่อให้เกิดความรัดกุมที่สุด ในการตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องพระราชบัญญัติขายตรงและตลาดแบบตรง และพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ในประเด็นการโฆษณาต่างๆ
ส่วนกรณีผู้เสียหายบางคนที่กังวลเรื่องการสืบทรัพย์เพื่อเยียวยานั้น นางสาวจิราพร กล่าวว่า ประชาชนสามารถไปที่สถานีตำรวจในส่วนศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์เพื่อให้ข้อมูลกับทางตำรวจ แต่ขั้นตอนหลังจากนั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจ ยืนยันว่า ไม่ต้องกังวลในเรื่องที่จะได้รับการเฉลี่ยทรัพย์ เนื่องจากหากตำรวจได้ข้อเท็จจริง และข้อกล่าวหาที่ชัดเจนแล้ว จะส่งให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่าง ปปง. และหากเกี่ยวข้องกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ก็จะส่งเรื่องต่อไปให้เช่นเดียวกัน ย้ำว่า ทุกหน่วยงานกำลังรวบรวมสรรพกำลังในตอนนี้ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงให้กับประชาชน
นางสาวจิราพร ยังเปิดเผยว่า สำหรับกรณีการมอบโล่ให้กับ The icon Group จากการสืบสวนข้อเท็จจริงของ สคบ. พบว่า มีการใช้ผิดวัตถุประสงค์ ยืนยันว่า โล่นี้ เป็นรางวัลเกี่ยวกับกับสาธารณประโยชน์ ไม่ใช่การประกอบธุรกิจ ดังนั้น พรุ่งนี้ สคบ.จะส่งหนังสือเรียกคืน ส่วนจะมีความผิดหรือบทลงโทษหรือไม่ คณะกรรมการจะสืบสวนข้อเท็จจริงต่อไป