ทนายเผย "บอสพอล" พูดไม่ออก หลังถูก ปปง.อายัดทรัพย์ หวังนำเงินก้อนนี้จ่ายผู้เสียหาย ยันเดินหน้าเยียวยาแต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข

วันที่ 16 ต.ค. 2567 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารดิไอคอน กรุ๊ป กล่าวถึงการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากดิไอคอนกรุ๊ปว่า ตอนนี้มีการประชุมกันอยู่ว่าจะมีแนวทางอย่างไร ซึ่งคนที่ขายของไม่ได้ที่เกิดจากการสื่อสารผิดพลาดของตัวแทนบางคนที่ให้ไปหาคนเพิ่ม และกลุ่มคนที่นำเงินก้อนสุดท้ายในชีวิตไปซื้อผลิตภัณฑ์ของเรา โดยไม่ได้ประเมินว่า ตัวเองเหมาะกับการซื้อแบบขายส่ง 25,000 บาท หรือการซื้อแบบดีลเลอร์ 250,000 บาท หรือไม่

ตามที่ตนเห็นในข่าว คนกลุ่มนี้ถึงกับสิ้นเนื้อประดาตัว บางคนโดนภรรยาไล่ออกจากบ้าน ซึ่งทางบริษัทจะออกประกาศแบบมีเงื่อนไข โดยให้มาลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน เพื่อให้เราตรวจสอบว่าเสียหายจริงหรือไม่ ซื้อของแล้วได้รับสินค้าจริงหรือไม่ และจะมีการช่วยเหลือบรรเทาให้

นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึงกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์บอสพอลว่า หากจะพูดจริงๆ ก็กระทบ จะกระทบต่อเงินที่นำมาเยียวยาผู้เสียหาย แต่ก็คงจะต้องหาทางนำทรัพย์สินตรงนี้มาจ่ายให้ผู้เสียหาย ซึ่งตามคำสั่งของ ปปง.ได้อายัดทรัพย์ไว้ 90 วัน ตนก็มีความหวังว่า ให้ผู้เสียหายลงชื่อไว้ก่อน อีก 90 วันเมื่อได้รับเงินส่วนนี้คืนก็จะนำมาจ่ายเยียวยาให้ผู้เสียหายต่อไป

เมื่อถามว่า ดาราที่เป็นบอสต้องมีส่วนร่วมในการนำเงินมาชดใช้ให้ผู้เสียหายหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนว่าไม่เกี่ยวกับเขา ให้ทางบอสพอลรับจบดีกว่า ส่วนบอสที่เป็นดาราจะถูกดำเนินคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับตำรวจ ตนไม่รู้ว่าตำรวจจะมองอย่างไร ให้ตำรวจทำหน้าที่ไปตามกระบวนการ ส่วนกรณีที่ตัวแทนตัดสินใจจบชีวิตจากการขายสินค้าไม่ได้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น ทางบอสพอลจะติดต่อไป ซึ่งได้ประสานงานเบื้องต้นไปแล้ว

สำหรับสาเหตุที่ ปปง. มีคำสั่งอายัดทรัพย์ เนื่องจากมองว่า มีการโยกย้ายทรัพย์สินแบบผิดปกติ ตนไม่ทราบ อ่านในคำสั่งก็ไม่มี ปปง. น่าจะอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบก่อน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการดำเนินการตามหน้าที่ ตนไม่ขอก้าวล่วง

นายวิฑูรย์ ยังกล่าวต่อไปว่า เมื่อถามถึงความรู้สึกของบอสพอล หลัง ปปง.อายัดทรัพย์ เมื่อวาน (15 ต.ค.) ได้เจอกับบอสพอล เจ้าตัวก็พูดไม่ออก ซึ่งไม่ได้คุยกันในรายละเอียด ส่วนกรณีมีข่าวบุคคลอักษรย่อ ธ. ที่เป็นนักการเมืองมาเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ป ตนไม่ทราบ มีแต่คนที่ออกมาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท ชื่อนายธเนตร วงษา อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ซึ่งทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ไม่น่าจะเป็น ธ. ที่เป็นนักการเมือง

เมื่อถามว่า เคยมีนักการเมืองมาพบกับบอสพอลหรือเกี่ยวข้องกับดิไอคอนกรุ๊ปหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนเป็นทีมกฎหมาย ก็ไม่เคยเจอนักการเมืองเข้ามาวุ่นวาย

ส่วนกรณีที่บอสพอลบอกให้สื่อลบคลิปเสียงสนทนากับนักการเมืองออก ไม่เช่นนั้นจะฟ้องดำเนินคดี โดยระบุว่า จะฟ้องสื่อใดบ้าง นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่ทราบ และไม่ได้เป็นคนพูด ซึ่งไม่รู้ว่าตอนนั้นบอสพอลเป็นอย่างไร น่าจะกำลังเครียด และตอนนี้ได้ลบโพสต์ไปแล้ว ทั้งนี้ ตนจะไปฟ้องสื่อทำไม มันไม่มีประโยชน์

เมื่อถามว่า หลังจากที่บอสพอลไปออกรายการ 2 รายการ มีความรู้สึกเครียดหรือไม่ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า กระแสออกมาขนาดนี้ก็ต้องเครียด พูดตรงๆ ก็ต้องเครียด เป็นตน ตนก็เครียด

นายวิฑูรย์ กล่าวว่า สำหรับการเตรียมพร้อม หากถูกดำเนินคดี ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ต้องรอดูข้อกล่าวหาจากตำรวจก่อน ตนถึงจะสามารถพยากรณ์ได้ แต่ขออนุญาตยังไม่พูด ขอให้เป็นความลับทางคดี

เมื่อถามว่า เชื่อมั่นอยู่หรือไม่ว่า ธุรกิจนี้จะยังสามารถดำเนินต่อไปได้ นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนยังมีความเชื่อมั่น และสงสารตัวแทนที่เขาขายของได้ ยังไงก็ต้องเดินหน้าต่อ แต่รูปแบบธุรกิจตามที่พูดไว้ในรายการ คือไม่รับตัวแทนใหม่