"ทนาย" ยังไม่ยื่นประกัน "บอสพอล" แจงแล้วปม บอสดิไอคอน โอนหนี 8 พันล้าน ก่อนถูกจับ ปัดจ่ายสินบนให้ใคร

เมื่อเวลา 09.15 น. วันที่ 18 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ.ได้คุมตัว นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้บริหารบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ไปฝากขังศาลอาญารัชดา ภายหลังจากเมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ.สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน” ก่อนนำตัวมาสอบปากคำเข้มนานกว่า 40 ชม. เนื่องจากผู้ต้องหาและทนายความประสงค์ที่จะให้รายละเอียดทางคดีเพิ่มเติม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมรถ 1 คัน และรถตำรวจนำขบวน 1 คัน และปิดขบวนอีก 1 คัน

โดยระหว่างที่ผู้ต้องหาถูกคุมตัวไปขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวได้มีการสอบถามว่า กังวลหรือไม่ มีอะไรจะพูดหรือไม่ แต่ผู้ต้องหามีสีหน้าเรียบเฉย และไม่ได้ตอบสื่อแต่อย่างใด ก่อนรีบเดินขึ้นรถตู้เพื่อเดินทางออกไปที่ศาลอาญารัชดา

ด้าน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนจะยังไม่ยื่นขอประกันตัวเนื่องจากเมื่อวานนี้ (17 ตุลาคม) เห็นคำสั่งศาลที่ไม่อนุญาตให้ประกันตัว 3 ผู้ต้องหาแล้ว ซึ่งศาลให้เหตุผลว่า คดีดังกล่าว กลุ่มผู้ต้องหามีลักษณะกระทำกันเป็นขบวนการ หากอนุญาตให้ประกันตัวแล้วเกรงว่าจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน สำหรับสาเหตุที่ต้องมีการควบคุมตัวนายพอล ไปฝากขังในวันนี้เนื่องจากการสอบปากคำยังไม่แล้วเสร็จ จึงต้องให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อยืนยันว่าบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด เปิดทำการถูกต้อง และผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องทั้งหมดบริสุทธิ์ โดยเมื่อวาน (17 ตุลาคม) ที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ได้เข้ามาสอบปากคำเกี่ยวกับกรณีปรากฏคลิปเสียงในสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งนายวรัตน์พลให้ข้อมูลว่าคลิปเสียงที่มีการเผยแพร่ดังกล่าวนั้นเป็นเสียงของตัวเองจริง แต่ยืนยันว่าไม่เคยจ่ายสินบนให้หน่วยงานใด ตามที่มีการถูกกล่าวอ้าง ซึ่งในส่วนที่มีการพูดถึงเทวดานั้นยืนยันว่า เทวดาที่หมายถึงคือเทวดาจริงๆ ไม่ใช่เทวดาบนโลกมนุษย์

ส่วนกรณีที่ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยข้อมูลว่า เคยมีคนใกล้ชิดของผู้บริหารระดับสูงของ ดิไอคอนกรุ๊ป แปลงทรัพย์สินที่มีเป็นสกุลเงินดิจิทัลเพื่อจ่ายสินบนนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากผลประกอบการของบริษัท มี 10,000 ล้านบาท หากจะนำไปจ่ายเป็นเงินสินบนทั้งหมดคงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลที่นายเอกภพอ้างอิงถึงนั้น ไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบริษัทไอคอนกรุ๊ปแต่อย่างใด โดยตัวเองขอฝากถึงนายเอกภพว่าหากมีการนำเสนอข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงอาจถูกแจ้งข้อหาให้การเท็จได้

ขณะเดียวกัน นายวิฑูรย์ยังระบุว่า หากจะมีการยื่นขอประกันตัวนายวรัตน์พล หลังจากนี้ อาจจะต้องมีการเพิ่มวงเงินจาก 2 ล้านบาทอย่างแน่นอน แต่ส่วนนี้ขอไม่ตอบรายละเอียดว่าจะเป็นหลักทรัพย์เท่าไหร่

ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. กล่าวว่า เนื่องจากผู้ต้องหารายนี้ ขอให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเมื่อคืนสอบปากคำเสร็จประมาณ 20.00 น. เมื่อสอบเสร็จเรียบร้อยก็ควบคุมตัวไว้ก่อนจะนำไปฝากขังในช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากนี้ผู้ต้องหาก็จะอยู่ในอำนาจศาล และสำหรับประเด็นอื่นๆ ที่ประชาชนยังเกิดข้อสงสัย ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานก่อน โดยจะต้องทำงานอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การสอบสวนจะทำตามใจหรือรีบร้อนเกินไปไม่ได้เพราะทุกอย่างอยู่ที่พยานหลักฐาน

ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เสียหายหรือผู้ต้องหา เบื้องต้นมีการคัดค้านการประกันตัวเหมือนผู้ต้องหารายอื่น ส่วนประเด็นอื่นๆ ก็ยังไม่ขอเปิดเผย แต่ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง

ถามว่าคำให้การเพิ่มเติมของบอสพอลมีประโยชน์ต่อรูปคดีมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ กล่าวว่า ทางตำรวจไม่ได้หวังพึ่งคำให้การจากผู้ต้องหาอย่างเดียว แต่จะต้องพึ่งพยานเอกสารและคำให้การของผู้เสียหายประกอบสำนวน ซึ่งหลังจากนี้ยังมีอีกหลายอย่างที่ต้องสืบสวนเพิ่มเติม เพราะยังมีผู้เสียหายทยอยเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งนี้ ฝากประชาสัมพันธ์ผู้เสียหายสามารถแจ้งความร้องทุกข์ได้ทุกพื้นที่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 ตุลาคม) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ยังสั่งการให้ทุกพื้นที่ตั้งศูนย์รับแจ้งความขึ้นมาเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยที่ บก.ปคบ.มีการจัดพนักงานสอบสวนร่วมสอบปากคำกว่า 100 นาย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ

ส่วนการขยายผลไปถึงนักการเมืองหรือข้าราชการสีกากีอื่นที่มีความเกี่ยวข้องหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุวัฒน์กล่าวว่า ไม่ขอลงรายละเอียด อยู่ในขั้นตอนดำเนินการทั้งหมดที่เป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวแจ้งด้วยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาภายหลังจากเสร็จสิ้นการสอบสวน เจ้าหน้าที่นำตัว “บอสพอล” เอามาควบคุมตัวไว้ที่ห้องขังของตึกศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการสอบสวนกลาง โดยมีรายงานว่าตลอดทั้งคืนบอสพอลยังมีอาการเครียด ถึงกับต้องลุกขึ้นมานั่งสมาธิภายในห้องขังด้วย จนกระทั่งรุ่งเช้า เจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมอาหารเช้าเป็นข้าวกะเพรา-ไข่ดาวมาให้ก่อนถูกนำตัวส่งไปฝากขังต่อไป