พบแล้วนักศึกษาจีน 3 คน ถูกหลอกไปเรียกค่าไถ่ 1.5 ล้าน รอง ผบช.น. ยันคนร้ายทำงานเป็นขบวนการ มีคนไทยร่วมด้วย
วันที่ 22 ต.ค. 2567 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมคณะ แถลงความคืบหน้าคดีนักศึกษาสัญชาติจีน 3 คน ถูกหลอกไปเรียกค่าไถ่ 1.5 ล้านบาท โดยเปิดเผยว่า หลังรับเรื่องแจ้งความ ทาง สน.ธรรมศาลา จึงได้ร่วมมือกับสืบนครบาล 7 และตำรวจในจังหวัดตาก ร่วมกันตรวจสอบจนพบว่า วันที่ 19 ตุลาคม เวลาประมาณ 06.00 น. กลุ่มผู้เสียหายทั้ง 3 คนได้เรียกรถแกร๊ปเพื่อเดินทางจากมหาวิทยาลัยไปยังสนามบินดอนเมือง ต่อมาเวลา 10:00 น. ในวันเดียวกันได้รับแจ้งจากเพื่อนของกลุ่มผู้เสียหายว่า ได้เดินทางมาถึงสนามบินแม่สอดแล้ว ต่อมา 10.30 น. ผู้เสียหายทั้ง 3 คนได้เดินทางเข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในอำเภอแม่สอดจังหวัดตาก เพื่อรอส่งของ ต่อมาเวลา 17:00 น. ได้มีรถกระบะมารับผู้เสียหายทั้ง 3 คนเดินทางไปที่บริเวณช่องแคบตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ถัดมาเวลา 21:00 น. กลุ่มเพื่อนผู้เสียหายได้รับข้อความขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้เสียหาย จึงมาแจ้งอาจารย์และมาแจ้งตำรวจ
ต่อมา ชุดปฏิบัติการจึงได้ประสานงานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้อง และได้รับข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ว่าพบผู้เสียหายทั้ง 3 คนแล้ว จึงได้ไปตรวจสอบและพบตัวบริเวณป่าแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ตำบลแม่ตาว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก จึงได้นำผู้เสียหายทั้งหมดมาส่งตัวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายและสภาพจิตใจ โดยพบว่าร่างกายมีความปกติดี ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายหรือได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด จึงได้พาผู้ชายทั้ง 3 คนเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และให้พม.จังหวัดตากนำตัวผู้เสียหายไปอยู่บ้านพักเพื่อติดต่อญาติมารับตัว
จากการสอบปากคำผู้เสียหายเบื้องต้น ให้การว่า ก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คนได้มีการหางานทำระหว่างรอเปิดภาคเรียนที่ประเทศไทย จึงมีเพื่อนที่อยู่ประเทศจีนให้ข้อมูลมาว่า มีงานรับจ้างส่งสินค้าจากจังหวัดตากมาส่งที่กรุงเทพมหานคร ได้ค่าจ้าง 100,000 บาท ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อ โดยที่ยังไม่รู้ว่าของที่ว่าจ้างให้ไปส่งคืออะไร จากนั้นได้ติดต่อผ่านกันทางแอปพลิเคชัน WECHAT ก่อนจะถูกอุ้มไปเรียกค่าไถ่ที่บริเวณออฟฟิศแห่งหนึ่งในประเทศเมียนมา
ผู้เสียหายให้การเพิ่มเติมว่า ระหว่างที่อยู่สถานที่แห่งนั้น มีชายฉกรรจ์ประมาณ 6-7 คน ซึ่งมีชายประมาณ 3 คน ใช้อาวุธปืนข่มขู่จะทำร้ายร่างกาย โดยให้ทั้ง 3 คนติดต่อหาผู้ปกครองให้โอนเงินมาจำนวน 300,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,500,000 บาท เพื่อไถ่ตัว ถ้าหากไม่โอนมาจะถูกส่งไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่รัฐเมียวดี ประเทศเมียนมา ซึ่งผู้เสียหายทั้ง 3 คนพยายามต่อรอง โดย Mrs. Sun อายุ 18 ปี ได้ติดต่อไปหาแม่ที่อยู่ที่ประเทศจีน จนแม่โอนเงินให้มา 100,000 หยวน หรือคิดเป็นเงินไทยอยู่ที่ประมาณ 470,000 บาท ส่วนผู้เสียหายอีกสองคนยังไม่ทันที่จะโอนเงิน กลุ่มคนร้ายก็ปล่อยตัวออกมา จนตำรวจไปพบตัว
พล.ต.ต.นพศิลป์ ยังบอกอีกว่า เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายร่วมมือกันทำเป็นขบวนการ และเชื่อว่ามีคนไทยร่วมอยู่ด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี โดยเฉพาะคนไทยที่ขับรถกระบะมารับผู้เสียหายทั้ง 3 คน เดินทางจากรีสอร์ตไปที่บริเวณป่าในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก และยืนยันว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่กระทบการท่องเที่ยวไทยอย่างแน่นอน เพราะเป็นเพียงแก๊งอาชญากรรมเล็กๆ เท่านั้น
สำหรับผู้เสียหายทั้ง 3 คน ประกอบไปด้วย Mr.CHI อายุ 18 ปี สัญชาติจีน เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 2 ครั้ง ครั้งแรก คือ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2566 ลงสนามบินสุวรรณภูมิด้วยวีซ่านักศึกษา และครั้งที่สองซึ่งเป็นครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา Mr. YU สัญชาติจีน อายุ 20 ปี ที่เพิ่งจะเดินทางเข้ามาในประเทศครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา ลงสนามบินดอนเมือง ด้วยวีซ่านักศึกษา และ Mrs. Sun อายุ 18 ปี เดินทางเข้ามาในประเทศไทย 3 ครั้ง ด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว ครั้งล่าสุด ลงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา