รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เฉลยแล้ว บอสหญิง ดิไอคอน เตรียมถูกย้ายไปแดนไหน หลังครบห้องกักโรคโควิด-19 แย้ม ขณะที่ญาติตบเท้าเข้าเยี่ยมแล้ว 3 ราย 1 ในนั้นคือ เคลวิน แฟนมิน พีชญา
ภายหลังจากที่ทัณฑสถานหญิงกลาง ได้มีการคุมขังผู้ต้องหาหญิงในคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จำนวน 7 ราย ประกอบด้วย น.ส.ปัญจรัศม์ (บอสปัน) น.ส.นัฐปสรณ์ (บอสสวย) น.ส.ญาสิกัญจณ์ (บอสโซดา) น.ส.กนกธร (บอสแม่หญิง) น.ส.เสาวภา (บอสอูมมี่) นางวิไลลักษณ์ (บอสจอย) และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี (บอสมิน) เนื่องจากเมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา ศาลอาญารัชดาพิเคราะห์เหตุแห่งคดี มีการทำเป็นขบวนการและมีการแบ่งหน้าที่กันทำ นับเป็นเรื่องร้ายแรงกระทบเป็นวงกว้าง ประกอบกับคำคัดค้านของพนักงานสอบสวนและผู้เสียหาย เกรงว่าจะมีการหลบหนีหรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะกระทำการใดกระทบกระเทือนต่อการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดี จึงยกคำร้องการปล่อยตัวชั่วคราว เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาหญิงทั้งหมดถูกนำตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง ก่อนเข้าสู่กระบวนการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน และจะสิ้นสุดการกักโรคในวันที่ 22 ต.ค. เพื่อให้ญาติสามารถเดินทางเข้าเยี่ยมได้นั้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ต.ค. ที่ บริเวณด้านหน้าทัณฑสถานหญิงกลาง ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า หลังจากที่บรรดาบอสหญิงมีการกักโรคโควิด-19 ครบ 5 วัน จากนั้นจะย้ายทั้งหมดไปที่แดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี เพราะยังเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณา ส่วนเรื่องสุขภาพจิตใจยังไม่มีสิ่งใดต้องเฝ้าระวัง แต่อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวอีกสักระยะ นอกจากนี้ ในส่วนของ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือมิน นักแสดงสาว ยังไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ ส่วนเรื่องความเครียด ค่อนข้างปรับตัวได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ถึงขนาดปกติมากนักเพราะการเข้าไปอยู่ในเรือนจำก็ต้องปรับตัวพอสมควร
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า ทางทัณฑสถานหญิงกลาง มีการให้เจ้าหน้าที่ได้ให้คำแนะนำเรื่องการใช้ชีวิตในเรือนจำ และเเนะนำการปรับตัวการใช้ชีวิต ซึ่งเราจะมีพี่เลี้ยงที่เป็นผู้ต้องขังเช่นเดียวกันในการประกบดูแลผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเมื่ออยู่ในแดน และเรายังมีอาสาสมัครสาธารณสุขเรือนจำ คอยดูแลเป็นปกติอยู่แล้ว ซึ่งจะประจำอยู่แต่ละเรือนนอนเพื่อที่จะดูแลทั้งสุขภาพกายสุขภาพใจเมื่อบรรดาบอสหญิงถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี อีกทั้งก่อนจะจำแนกแยกแดน จะต้องดูลักษณะของผู้ต้องขังด้วย ต้องดูทั้งความปลอดภัยและมาตรการการดูแล เช่น หากเป็นผู้ต้องขังสูงอายุ ก็จะให้อยู่ชั้นล่าง แต่ถ้าเป็นผู้ต้องขังตั้งครรภ์ก็จะให้อยู่ในส่วนที่เหมาะสมสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ทั้งนี้ คงไม่ได้ให้บอสหญิงได้อยู่รวมกันทั้งหมด คงต้องแยกบ้าง และการเข้าร่วมกิจกรรมกองงานของเรือนจำฯ จะยังไม่ให้ทำมาก เพราะทุกคนต้องใช้เวลาในการสู้คดี แต่ถ้าประสงค์จะเข้ากองงานก็สามารถเเจ้งเจ้าหน้าที่ได้ ยืนยันว่าเราเฝ้าระวังการเขม่นกันภายในเรือนนอน
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า สำหรับการเข้าเยี่ยมของทนายความสามารถดำเนินการได้ทุกวัน ไม่จำกัดเวลาในการพูดคุย ส่วนการเยี่ยมญาติของบรรดาบอสหญิง ตนได้รับรายงานว่าวันนี้มีทั้งหมด 3 ราย แต่ตนขออนุญาตไม่แจ้งรายละเอียดส่วนบุคคล แต่ส่วนใหญ่เป็นคนใกล้ชิด ส่วนเรื่องการดูแลผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังเด็ดขาด มีความแตกต่างกันแน่นอน เพราะถือเป็นนโยบายของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ได้ให้ดำเนินการในทุกเรือนจำทั่วประเทศ 143 แห่ง ตั้งแต่เรื่องกายภาพ จะต้องแยกผู้ต้องขังระหว่างออกจากผู้ต้องขังเด็ดขาด และทรงผม ผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีไว้ผมยาวได้แต่ต้องรวบให้เรียบร้อย แต่ถ้าร้อนก็ขอตัดความยาวออกได้ ส่วนการแต่งกายของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดีเมื่อออกไปศาล ปกติจะต้องแต่งกายชุดสีลูกวัว แต่ที่นี่เราไม่ได้ใช้แล้ว โดยจะเป็นชุดสีเหลืองอ่อนแทนเมื่อต้องขึ้นศาล ส่วนชุดนอนจะเป็นสีหลากสี สามารถสั่งซื้อได้ผ่านทางใบสั่งรายการของเรือนจำ
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยด้วยว่า ในตอนนี้ยังไม่ได้มีเจ้าหน้าที่ สคบ. หรือตำรวจ ปคบ. ประสานที่จะเข้ามาในเรือนจำฯ เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาแต่อย่างใด ส่วนสุขภาพร่างกายก็มีบอสชายบางรายที่ป่วยด้วยโรคประจำตัว (บอสวิน นายธวินทร์ภัส เป็นโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว) ก็ได้รับการรักษาตามกระบวนการของแพทย์ และรักษาต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าจะต้องย้ายไปรักษาที่ รพ. ภายนอกเรือนจำหรือไม่ เพราะต้องใช้ความเห็นของแพทย์ ทั้งนี้ มีกรณีของนายกันต์ กันตถาวร ที่ได้ขอน้ำตาเทียมเพราะมีอาการตาแห้ง และมีบางรายที่ป่วยไข้เล็กน้อย
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยด้วยว่า ตนได้ประสานพูดคุยกับนายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่าหากบรรดาบอสชายครบกักโรคโควิด-19 แล้วนั้นจะให้อยู่ในแดนใด ทราบว่าอาจเป็นแดน 2 แดน 4 หรือแดน 8 เพราะเป็นแดนสำหรับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ส่วนจะเป็นแดนใดนั้น เป็นการพิจารณาของ ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่กรมราชทัณฑ์จะไม่ให้ผู้ต้องขังอยู่รวมกันนอกจากว่าการอยู่รวมกันจะเกิดประโยชน์ เช่น การซัพพอร์ตจิตใจซึ่งกันและกันของผู้เป็นพ่อและลูก ทั้งนี้ ข้อกังวลเรื่องคู่กรณี หรือผู้เสียประโยชน์ในแดนจะส่งผลต่อความปลอดภัยของบรรดาบอสชายและบอสหญิงนั้น เป็นเรื่องปกติที่เราต้องเฝ้าระวังกับผู้ต้องขังทุกคน นอกจากนี้ บรรดาบอสชายทางญาติจะเข้าเยี่ยมได้ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. เป็นต้นไป เวลาในการเยี่ยมรายละ 15-20 นาที หรือ 1 ครั้งต่อวัน และยังมีการเยี่ยมญาติทางแอปพลิเคชั่นไลน์โดยการวิดีโอคอลซึ่งจะต้องมีการลงทะเบียนก่อน แต่อาจใช้เวลาในการพูดคุยน้อยกว่า
ส่วนเรื่องข้อกังวลความแออัดบนเรือนนอนนั้น รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ยอมรับว่ามีความกังวลบ้าง แต่ทางกรมราชทัณฑ์จะพยายามบริหารเรื่องนี้ให้ดีที่สุด ซึ่งเป้าหมายของกรมราชทัณฑ์ตั้งใจว่าการนอนของผู้ต้องขังหนึ่งรายจะใช้พื้นที่ 1.6 ตารางเมตร ส่วนเรื่องการเปิดบัญชีฝากออมทรัพย์ของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณา ส่วนใหญ่บรรดาบอสชายและบอสหญิงมีการเปิดแล้ว ซึ่งจำนวนเงินที่ฝากเข้าภายในบัญชีไม่ต้องไม่เกิน 15000 บาท
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ยังเปิดเผยถึงกรณีของ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก ว่า ปัจจุบันอยู่ในแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าบรรดาบอสหญิงจะได้เจอกับแม่ตั๊ก และยืนยันว่าเธอไม่ได้ป่วยหนักตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวยังได้รับรายงานเพิ่มเติมจากนายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ว่า สำหรับกระแสข่าวที่ว่านายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์ มีอาการน่าเป็นห่วงจนต้องขอพบแพทย์กลางดึก ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยนายกันต์สุขภาพร่างกายไม่น่าเป็นห่วง อยู่ในระหว่างการปรับตัว และไม่มีการพบแพทย์กลางดึกอย่างที่เป็นกระแสข่าว ส่วนกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่บอกว่านายกันต์ไม่สามารถกินอาหารในเรือนจำได้ โดยกินไข่พะโล้ได้เพียงคำเดียวและคายออกมานั้น ก็ไม่เป็นความจริงเช่นกัน
ขณะที่ญาติที่เข้าเยี่ยม น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือมิน นั้น ทราบเบื้องต้นว่าเป็นในส่วนของนายเคลวิน แฟนหนุ่มของมิน โดยมีรายงานแจ้งว่าแฟนหนุ่มได้มีการนำยารักษาโรคเข้ามาให้ในช่วงเช้า โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน