โบว์ศรี อดีตหนึ่งในแอดมิน "ออยศรีและผองเผือก" ขอโทษ "ทนายตั้ม" ปมตั้งเพจโจมตี "เพื่อนรัก" จากความแค้นส่วนตัว ลั่นเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน

วันที่ 23 ต.ค. 2567 ที่สำนักงานกฎหมาย สำนักงาน Sittra Law Firm "โบว์ศรี" อดีตหนึ่งในแอดมินของเพจ "ออยศรีและผองเผือก" เดินทางเข้าขอโทษทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ภายหลังจากมีการฟ้องร้องกันหลายคดี ทนายตั้ม กล่าวถึงความเป็นมา ว่า เพจดังกล่าวเคยมีแอดมิน 3 คน ได้แก่ ออยศรี , ปลาศรี และโบว์ศรี ซึ่งตนเองรู้จักกับบุคคลดังกล่าวในช่วงที่เกิดคดีหวย 30 ล้าน คนชื่อออย มีการทักเข้ามาตนในเพจในฐานะ FC จากนั้นก็มีการคุยกันแล้วก็มาให้ข้อมูลจากเรื่องของครูปรีชาในตอนนั้น พอคุยกันไปเรื่อย ๆ เขาก็ไปรวบรวมกลุ่มเพื่อนอีก 2 คน ก็คือ โบว์ และ ปลา ได้สร้างเพจขึ้นมา 2 เพจ คือ "เผือกเรนเจอร์"


ส่วนอีกเพจคือ "ออยศรีและผองเผือก" วัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนทนายตั้ม แต่ต่อมาเพจเหล่านี้ก็ได้มาโพสต์โจมตีตน เบื้องลึกเกิดจากความเคียดแค้นส่วนตัว แม้ว่าก่อนหน้านี้ตนเองจะไม่ให้ค่าแต่วันนี้มีหนึ่งในแอดมินเขาสำนึกในสิ่งที่เขาทำและมาให้ข้อมูลกับตนในเรื่องต่าง ๆ โดยเรื่องคดีตอนนี้มีการฟ้องร้องอยู่ในชั้นศาล และบุคลลที่มาขอโทษตนในวันนี้ ก็เป็นหนึ่งในจำเลยที่ถูกฟ้องด้วย ดังนั้นเรื่องคดีก็ดำเนินไปตามกระบวนการ แต่วันนี้ตนเองก็เปิดโอกาสให้เขาได้แสดงออกเพื่อให้สังคมได้รับรู้ถึงเบื้องหลังที่คนเหล่านี้มาโจมตีตนข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร




ทนายตั้ม บอกว่า สิ่งที่ตนรับไม่ได้ที่สุดกับการกระทำของคนกลุ่มนี้ เคยแอบเอาแม่ของตนออกจากบ้านไปตอนกลางคืน เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับตน และกระทำเช่นนี้หลายครั้ง ตนเองมาทราบภายหลัง จึงรู้สึกว่าเกินเส้นของ FC นอกจากนี้ยังพยายามบงการชีวิตของตนมากเกินไป ยกตัวอย่าง ช่วงนั้นนายอัจฉริยะได้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีหวย 30 ล้าน บุคคลเหล่านี้ก็ได้เตือนตนว่าอย่ายุ่งกับนายอัจฉริยะ แต่ต่อมาตนเองได้พูดคุยกับนายอัจริยะ และพากันไปหัวหิน ทั้งสามเกิดความไม่พอใจ จึงบังคับให้ตนพาไปเยาวราชด้วย ตนเองรู้สึกไม่สบายใจจึงถือโอกาสถอยห่างแล้วไม่ยุ่งเกี่ยวอีก จากนั้นกลุ่มบุคคลดังกล่าวก็เกิดความเคียดแค้น แล้วนำเพจที่เคยสนับสนุนตนกลับมาด่าตน


กระทั่งช่วงตนที่มีปัญหากับชูวิทย์ก็นำเพจนี้มาโจมตีตนอีก แล้วยังใช้คำว่า "เพื่อนรัก" ทั้งที่ความจริงไม่ได้สนิทกันแต่อย่างใด และสิ่งต่าง ๆ ที่กล่าวหาล้วนไม่เป็นความจริง ตนเองจึงตัดสินใจฟ้อง เพราะมีการเอารูปครอบครัวและลูกของตนไปลงเพจ กล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติ ทำให้ลูกของตนขาดโอากาสไปเรียนที่ฝรั่งเศส นอกจากนี้ ออยศรี ยังกล่าวหาว่าตนเองเป็นสาเหตุทำให้แม่เขาตาย ตนเองก็งงเพราะแม่ออยเป็นมะเร็ง แต่ออยกลับอ้างว่าหลังจากที่ลูกกับทนายตั้มเลิกยุ่งเกี่ยวกัน ทำให้แม่เขาตรอมใจ ซึ่งตอนนั้นมีทัวร์มาโจมตีตนเองหนักมาก




ด้าน โบว์ศรี กล่าวขอโทษทนายตั้มและครอบครัว ระบุว่าปัญหาเกิดจากการสื่อสารที่ไม่ตรงกัน ตนเองกับทนายตั้มไม่เคยพูดคุยกันส่วนตัว เพราะที่ผ่านมาสื่อสารกันผ่านแอดมิน หลังจากที่ตนเองโดนทนายตั้มฟ้องก็มีโอกาสไปเจอพยานหลักฐานต่าง ๆ ในชั้นศาล ทำให้ทราบว่าสิ่งที่เคยรับทราบมานั้นไม่เป็นความจริง และไม่เห็นด้วยกับการกระทำของคนบางคนที่ใช้พื้นที่สาธารณะทำร้ายคน ใช้เพจแก้แค้นส่วนตัว และช่วงหลังยังเอาเรื่องส่วนตัวมาโพสต์เยอะเกินไป ตนเองไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว จึงตัดสินใจถอยออกมา ไม่ได้ช่วยทำเพจตั้งแต่ต้นปีแล้ว ยอมรับว่าที่ผ่านมารับข้อมูลข่าวสารเพียงด้านเดียว จึงไม่ได้มีการห้ามปรามเพื่อนในการโพสต์ข้อความ หรือรูปภาพต่าง ๆ ที่พาดพิงถึงทนายตั้ม ส่วนกรณีออยศรี อ้างว่าแม่เสียชีวิตเพราะทนายตั้ม ไม่เป็นความจริง เพราะแม่ของออย ป่วยมะเร็งระยะที่ 4 ตั้งแต่ก่อนคดีหวย 30 ล้าน ด้วยซ้ำ ซึ่งช่วงคดีหวย 30 ล้าน เวลาสื่อสารกับลูกทีม เขาจะบอกว่าเรามีหน้าที่ช่วยหาข้อมูลส่งให้ทนายตั้ม แต่ก็ไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงแล้วเขาสื่อสารกับทนายตั้มอย่างไรบ้าง


นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเรื่องที่มีการโพสต์โจมตีทนายตั้มทั้งที่ไม่เป็นความจริง ยกตัวอย่างคดีเพื่อนของทนายตั้ม ที่ถูกจับกุมจับยาเสพติด ช่วงนั้นทางเพจกล่าวหาว่าทนายตั้มยัดยา โดยทนายตั้มระบุข้อเท็จจริง ว่าเพื่อนคนนี้มีพฤติกรรมค้ายาเสพติดมามานานแล้ว แต่เพื่อนคนดังกล่าวเกิดความไม่ชอบทนายตั้มจึงเอาข้อมูลผิด ๆ ไปให้เพจ ทางเพจก็เอาข้อมูลผิด ๆ ไปเสนอเพื่อโจมตีตน จึงเกิดการฟ้องร้องกัน ซึ่งโบว์ศรีบอกว่าคดีดังกล่าวตนเองได้ไปเห็นพยานหลักฐานในชั้นศาลแล้ว เป็นคนละเรื่องที่รับทราบมาตอนต้น จึงเกิดความสำนึกผิดมาขอโทษทนายตั้ม


ทนายตั้ม ยังกล่าวเสริมอีกว่า ตนเองรับทราบมาว่าหนึ่งในแอดมินที่ชื่อ ออยศรี สามีเป็นทนายความ มีการใช้เพจหาผลประโยชน์ให้กับวิชาชีพของสามี โดยให้โบว์ศรี ยกตัวอย่างคดี "ทัวร์อ้วนผอม" ออยศรี ได้รวบรวมผู้เสียหายจำนวนมากไปแจ้งความที่กองปราบ แต่หลังจากแจ้งความเสร็จแล้ว ออยศรี ยังมีการแจ้งไปในกลุ่มว่า ถ้าหากใครต้องการให้ทนายความทำคดีให้ต่อ มีค่าใช้จ่าย ซึ่งคดีดังกล่าวมีคนขอให้ทำคดีจำนวน 8 คน เสียค่าใช้จ่ายคนละประมาณ 10,000 บาท แสดงให้เห็นว่าเป็นการหาผลประโยชน์