เปิดประตูคุกชาย "ครอบครัว-คนรัก-ทนาย" แห่เยี่ยมบอสชายดิไอคอนวันแรก ราชทัณฑ์ เผยทุกคนเริ่มปรับตัวได้ดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 ต.ค. ที่ บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล หรือ บอสพอล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ตนได้เดินทางมาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตนได้นำเอกสารที่จะแจ้งความ กรณีที่มีพนักงานของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ปฯ ถูกตำรวจเชิญมาให้ปากคำ และยึดโทรศัพท์มือถือ รวมถึงกรณีนักร้องเรียนหญิงที่มีพฤติกรรมเรียกรับเงินมาให้นายวรัตน์พล เซ็นชื่อ และตนได้ออกจากเรือนจำฯ มาแล้ว ขณะนี้ตนอยู่ที่ศาลอาญารัชดา เพื่อติดตามคดีอื่น ทั้งนี้ ในกรณีของการจะเดินทางไปแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในช่วงเที่ยงหรือไม่นั้น อาจจะไม่ทัน อาจจะไปช่วงเย็นแทน

เมื่อถามว่าทราบหรือไม่ว่ามีทนายความ หรือญาติของบรรดาบอสชายรายอื่นมาเยี่ยม ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานว่าทางเลขานุการและน้องสาวของบอสพอล จะเข้ามาเยี่ยมในรอบเวลา 10.10 น. ส่วนบอสชายคนอื่นตนไม่ทราบ แต่อาจจะมีทนายความของแต่ละคนเข้ามา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับบรรยากาศบริเวณห้องเยี่ยมญาติ พบว่า ห้องเยี่ยมญาติมีทั้งหมด 7 ห้อง โดย 1 ห้องมี 4 เก้าอี้ และนั่งห่างกันหนึ่งช่วงแขน ซึ่งการพูดคุยของญาติและผู้ต้องขังจะมีซี่กรงกั้นกลางไว้ และใช้โทรศัพท์คล้ายโทรศัพท์บ้านในอดีตในการสื่อสารระหว่างกัน และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา

นอกจากนี้ การจะเข้าเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ ทุกคนจะต้องลงทะเบียนเยี่ยมบริเวณจุดคัดกรองที่ด้านหน้าเรือนจำฯ เพื่อตรวจสอบและลงทะเบียนขอเยี่ยมผู้ต้องขัง และเพื่อตรวจเอกสารต่าง ๆ ก่อน และต้องเป็นบุคคลที่อยู่ใน 10 รายชื่อที่ผู้ต้องขังแจ้งไว้ เมื่อตรวจเอกสารเสร็จสิ้น จะได้รับใบคิวที่จะระบุรอบเวลาการตีเยี่ยมและเลขเครื่องที่จะใช้ในการเยี่ยม โดยการเยี่ยมญาติกำหนดเวลาเพียง 20 นาทีต่อคน

ขณะที่ห้องขวาสุดถัดจากห้องเยี่ยมญาติผู้ต้องขังจะเป็นห้องงานเยี่ยมญาติผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ (LINE) ส่วนตรงข้ามกับห้องเยี่ยมญาติ ณ เรือนจำฯ จะเป็นร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขัง ซึ่งมีการจัดจำหน่ายทั้งของกินของใช้ ถัดเข้าไปด้านในคือห้องรับฝากเงินผู้ต้องขัง และตรงข้ามห้องรับฝากเงินผู้ต้องขังคือห้องทนายความและล่าม มีจำนวน 3 ห้อง ทั้งนี้ ก่อนเข้าเยี่ยมญาติในห้อง ทุกคนจะต้องเก็บเครื่องมือสื่อสารไว้ในล็อกเกอร์

ส่วนเมนูอาหารวันนี้ (24 ต.ค.) ของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร มื้อเช้าเป็นเมนูแกงจืดไก่ และข้าวสวย ส่วนมื้อกลางวันเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นหมี่น้ำไก่ใส่ผัก ขณะที่มื้อเย็นเป็นเมนูแกงเผ็ดปลา หมูใส่ผัก ปลาทอดขมิ้น และข้าวสวย

ด้านนางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า สำหรับอาการล่าสุดของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสุขภาพร่างกาย สุขภาพจิตใจ การปรับตัว การรับประทานอาหารนั้น ทุกคนเริ่มปรับตัวได้ มีความเครียดน้อยลง และจนถึงปัจจุบันนี้ยังไม่มีใครเจ็บป่วย ส่วนวันนี้คือวันที่ญาติ เยี่ยมเป็นวันแรก สำหรับบรรดาบอสชาย หลังครบกำหนดระยะเวลาการกักโรคโควิด-19 ทำให้ทั้งหมดจะถูกย้ายไปยังแดนควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาดี ห้องละ 2-3 คน แต่ไม่ขอเปิดเผยเลขแดน เพื่อความปลอดภัย

ขณะที่บรรดาบอสหญิงที่ครบกักโรคโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 22 ต.ค.นั้น ก็ได้ถูกย้ายเข้าแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดีเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ ข้อมูลการตีเยี่ยมญาติของบรรดาบอสชายและบอสหญิง ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะผู้ต้องขังไม่อนุญาตให้มีการเปิดเผยสู่สาธารณะ

ขณะเวลา 10.50 น. ผู้สื่อข่าวพบว่า มีหญิงสูงวัยสวมชุดสีเขียว ลักษณะคล้ายกับ นางจินดา แม่ของบอสพอล เข้ามาเยี่ยม ซึ่งจากการสังเกตตอนเข้ามาถึงเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 10.00 น. และเป็นช่วงเดียวกับที่ทนายบอกว่าจะเป็นช่วงเวลาเยี่ยม แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเข้าไปสอบถาม ได้รับการปฏิเสธและพยายามเดินหนีสื่อ