"ภูมิธรรม" เผยผลประชุม ดิไอคอน กรุ๊ป เตรียมส่ง สำนวนคดีให้ดีเอสไอเป็นคดีพิเศษ 28 ต.ค.นี้ ขอประชาชนมั่นใจ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงผลการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดิไอคอน กรุ๊ป ว่า วันนี้มีการเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีนี้ ซึ่งมีดีเอสไอ เป็นหน่วยงานแรกที่ไปทำคดีนี้ รวมถึง ปปง. 3 หน่วยงานถือเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ในการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดขึ้น ในคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน ซึ่งได้รับรายงานจากตำรวจ ว่าขณะนี้ได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ จากการรับเรื่องราวร้องทุกข์ ทั้งจากส่วนกลางและต่างจังหวัด โดยผลการสืบสวนเข้าเงื่อนไขที่จะส่งมอบให้กับดีเอสไอ แต่ขอสื่อ ช่วยทำความเข้าใจว่าไม่ใช่ยกคดีให้ดีเอสไอดำเนินการแล้ว ผู้ที่ดำเนินการตั้งแต่ต้นจะทิ้งคดี แต่จะเป็นเรื่องที่ทำให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการสอบสวนขณะนี้สำนวนใกล้เสร็จหมดแล้ว พร้อมจะยื่นให้กับดีเอสไอ ไม่ใช่การโยนความรับผิดชอบ แต่เป็นการมอบตามกระบวนการทางกฎหมาย ขณะที่ 3 ส่วนงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมมือกันทำงานต่อไป แต่จะทำให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง โดยตำรวจจะยื่นคดีให้กับดีเอสไอในวันจันทร์ที่ 28 ตุลาคมนี้ ขณะที่ ปปง. จะช่วยรักษาทรัพย์
นายภูมิธรรม ยืนยันว่าทั้ง 3 หน่วยงานยังจะร่วมมือกันทำงาน แม้จะเปลี่ยนมือไปที่ดีเอสไอแล้ว เพราะเป็นคดีพิเศษที่เกี่ยวข้องกับค่าเสียหาย 300 ล้านบาทขึ้นไป และผู้เสียหาย 100 คน พร้อมให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าการเปลี่ยนผ่าน เป็นเพียงแค่ความตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามย้ำ 3 หน่วยงานยังจะร่วมมือกันทำงาน แต่หากติดขัดอะไรทางฝ่ายการเมืองก็พร้อมที่จะเข้าไปสนับสนุน
ส่วนในการทำงาน ของ สคบ. ได้ชี้แจงกับที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมการประชุมในวันนี้ ว่า สคบ. ถูกกล่าวหาว่ามีบุคคลเกี่ยวข้องกับคดี จึงไม่ให้เข้ามาเป็นคณะทำงานสอบสวน แต่จะสนับสนุนให้การสอบสวนเกิดความยุติธรรม
ส่วนเมื่อมอบคดีให้กับดีเอสไอแล้วจะทำให้คดีเร็วขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ต้องไปดูรายละเอียดในวันที่ 28 ตุลาคม แต่ยืนยันจะทำคดีให้เร็วที่สุด เชื่อว่ากระบวนการจะไม่มีอะไรสะดุด ช่วงเปลี่ยนผ่านแค่ตำรวจส่งมอบ ดีเอสไอยืนยันแล้วว่า เพียงแค่วันเดียวหลังการส่งมอบ ดีเอสไอจะสามารถชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
ส่วนผลการสอบสวนจะจบเพียงแค่นี้ หรือจะมีการสอบสวนบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลังกลุ่มบอสเพิ่มเติมหรือไม่ เบื้องต้นเราได้ดำเนินการแล้ว แต่จะดูข้อกฎหมายอีกครั้ง
อย่างไรก็ตามยืนยันถ้ายังมีส่วนใดที่เกี่ยวข้องจะไม่มีการนิ่งนอนใจ โดยจะสามารถปิดคดีได้เพื่อให้ประชาชนจะได้รับประโยชน์