สนธิญา สวัสดี ยื่นหนังสืออัยการสูงสุดเอาผิด "นายกฯ อิ๊งค์" กรณีไม่ดำเนินการผู้ต้องหาคดีตากใบที่เป็นข้าราชการ และแต่งตั้ง "ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" เป็นที่ปรึกษา

วันที่ 31 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ นายสนธิญา สวัสดี เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัย การกระทำของนายกรัฐมนตรี ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อ 10 พ.ย. 2564 และประกอบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญเมื่อ 14 ส.ค. 2567 กรณีแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ถูกจำคุกเพราะบุกบ้านองคมนตรี และการประกาศสนับสนุนกลุ่มราษฎร ที่กระทำผิดมาตรา 112 ที่หนีไปต่างประเทศ และกรณีปล่อยให้ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ซึ่งถูกหมายจับหลบหนีไปต่างประเทศทั้งที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย รวมถึงกรณีปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 1 ใน 14 คน ที่ศาลออกหมายจับในคดีตากใบ ลาราชการและกลับมาทำงานตามปกติหลังคดีความหมดอายุเพียง 1 วัน


นายสนธิญา ระบุว่า ที่ผ่านมาตนเองติดตามการทำงานของท่านนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร มาโดยตลอดและได้เห็นหลายประการที่ยังขาดตกบกพร่องในบางเรื่อง ในคำพูด ความพร้อม และวุฒิภาวะ ถามว่าท่านเหมาะสมหรือไม่ ท่านเหมาะสมและที่ผ่านมาตนเองไม่เคยไปร้องเรียนเกี่ยวกับรัฐบาลของนายกฯ หรือพรรคเพื่อไทย เพราะให้เวลาในการทำงานเพื่อพิสูจน์ฝีมือในการทำงาน ตนมองว่านายกรัฐมาตรีจะต้องมีความพร้อมในทุกด้านที่จะต้องตัดสินใจให้ทันสถานการณ์ ผู้นำประเทศจะต้องมีคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล จึงเป็นมาของการยื่นร้องนายกฯ ใน 2 ประเด็นใหญ่




ประเด็นแรก กรณีแต่งตั้งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ถึงจะไม่มีเงินเดือน ไม่มีสวัสดิการก็จริง แต่แต่งตั้งโดยตราครุฑ ประกาศโดยสำนักนายกรัฐมนตรี และสามารถเข้าร่วมประชุม เบิกเบี้ยเลี้ยงได้ ที่ต้องร้องนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพราะเป็นพฤติกรรมเซาะกร่อน บ่อนทำลายสถาบัน เช่น ติดคุก 2 ปี 8 เดือน เพราะบุกบ้านองคมนตรีพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ปี 2550 และ การประกาศสนับสนุนกลุ่มราษฎร เช่น พริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือแพนกวิน และไมค์ ระยอง ที่กระทำผิดมาตรา 112 ซึ่งปัจจุบันหนีไปต่างประเทศหมดแล้ว ทำให้การแต่งตั้งนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ มาเป็นที่ปรึกษาโดยมิชอบ


ประเด็นที่สอง ตนเองได้ทำหนังสื่อเกี่ยวกับปัญหาภาคใต้กรณีคดีตากใบ จ.นราธิวาส ไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2567 ก่อนที่อายุความตากใบสิ้นสุด 17 วัน และได้การตอบรับมาว่านายกรัฐมนตรีทราบเป็นที่เรียบร้อย และที่ร้องไปยังสำนักนายกฯ ก็เพื่อให้ดำเนินการกับ พลเอกพิศาล วัฒนวงษ์คีรี ที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรค แต่กลับปล่อยให้หลบหนีออกไปได้ซึ่งนายกฯ จะปัดความรับผิดขอบไม่ได้


ยังรวมถึงกรณีปลัดอำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม 1 ใน14 คน ที่ศาลออกหมายจับในคดีตากใบ ลาราชการและกลับมาทำงานตามปกติหลังคดีความหมดอายุเพียง 1 วัน การที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการจับกุม ผู้ถูกออกหมายจับ จำนวน 14 คนทั้งหมด ไม่ได้แม้แต่คนเดียว ด้วยทั้งหมดรัฐบาลภายใต้การนำของแพทองธาร ชินวัตร เป็นการกระทำที่ผู้บริหารประเทศ ปราศจากคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาล ขัดต่อคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 ครั้ง วันนี้จึงมายื่นหนังสือเพื่อให้อัยการส่งเรื่องสู่ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณา สั่งนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ยุติการปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับกรณีนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน