"บิ๊กเต่า" เผยพบเส้นทางการเงิน "บอสพอล" โยงแม่นักการเมือง ส. จ่อดำเนินคดีเอกสายไหมต้องรอด ปมพยานเท็จ

วันที่ 4 พ.ย. 67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยเรื่องความคืบหน้าคดีคลิปเสียงเรียกรับผลประโยชน์จากนักการเมืองถึงบอสพอล ผู้ต้องหาในคดี The icon ว่า เบื้องต้นจากการสืบสวนพบเส้นทางการเงินระหว่างตัวบอสพอลและแม่นักการเมืองอักษรย่อ ส.เสือ แต่เส้นเงินที่เจอยังมีเพียงแค่หลักแสนกว่าบาท ยังไม่เจอจำนวนถึง 2 ล้านกว่าบาทตามที่เป็นข่าว แต่ทางตำรวจก็ยังคงสืบสวนต่อไปในเชิงลึกว่าจริง ๆ แล้วมียอดเงินจำนวนเท่าไหร่กันแน่

ทั้งนี้ ต้องดูความร่วมมือของบอสพอลว่า จะแจ้งความร้องทุกข์ในฐานะผู้เสียหายหรือไม่ ซึ่งภายในสัปดาห์นี้ จะจัดให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามเข้าไปสอบปากคำบอสพอลและสอบถามว่าตั้งใจจะแจ้งความเอาผิดหรือไม่ในประเด็นนี้

สำหรับกรณีพยานให้การเท็จของเอก สายไหมต้องรอด ในช่วงบ่ายวันนี้ ทีมทนายความที่ได้รับมอบหมายจากบอสพอลจะเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับทางตำรวจ หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้าแจ้งความเอาผิดเอก สายไหมต้องรอด และพยานเท็จในข้อหาหมิ่นประมาทแล้ว กับแจ้งดำเนินคดีเอก สายไหมต้องรอด ในข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งตอนนี้ต้องรอการให้ปากคำจากฝั่งผู้แจ้งความให้เรียบร้อยก่อน ถึงจะให้ทางคณะกรรมการพิจารณาต่อไปว่า จะดำเนินการออกหมายเรียกให้เอก สายไหมต้องรอดเข้ามาให้ปากคำเมื่อไหร่

ส่วนกรณีที่บอสพอลไปพูดในรายการโทรทัศน์แล้วอ้างว่า มีเทวดาใน สคบ. นั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นแล้ว สิ่งที่บอสพอลพูดเป็นการสอนลูกน้องว่า เวลาจะไปติดต่อหน่วยงานไหน ให้ไหว้เจ้าที่เจ้าทางเทวดาอารักษ์ที่ปกปักรักษาหน่วยงานนั้น ซึ่งเป็นการพูดในเชิงความเชื่อ แต่จะมีเรื่องเงินเรื่องทองจริง ๆ หรือไม่ เรื่องนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน

สำหรับกรณีที่ทนายความของบอสพอลแจ้งความดำเนินคดีกับนักร้องหญิงในเรื่องกรรโชกทรัพย์นั้น ขณะนี้เหลือการสอบพยานบุคคลบางปาก เมื่อดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะให้ทางคณะกรรมการ พิจารณาต่อไปว่า จะดำเนินการนำนักร้องหญิงคนดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการสอบปากคำต่อไป