"ชูวิทย์" กลับไทย เคลียร์ใจ "สันธนะ" ฝากขอโทษไปถึง "สนธิ" พร้อมเผยอาการมะเร็งตับหลังบินไปรักษาต่างประเทศ

วันที่ 4 พ.ย. 2567 จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่านายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง จะเดินทางกลับประเทศไทย หลังจากป่วยเป็นโรคมะเร็งตับและเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณปี 2566

วันนี้ ศาลอาญาใต้และศาลแขวงพระนครใต้ มีนัดกรณีที่นายสันธนะ ประยูรรัตน์ ฟ้องหมิ่นประมาท โดยมีนาย ชูวิทย์ เป็นจำเลย ซึ่งได้กลับมาถึงประเทศไทยตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ซึ่งเป็นโจทย์ยื่นฟ้อง เผยว่า ในคดีแรกเมื่อช่วงเช้าที่ศาลแขวงพระนครใต้ คุณชูวิทย์ได้ยอมรับสารภาพต่อศาลแล้ว ซึ่งทางศาลก็ได้มีคำพิพากษาลงโทษ

ส่วนในช่วงบ่ายที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ในการพิจารณาเริ่มต้น คุณชูวิทย์ได้ให้การปฏิเสธเพื่อที่จะต่อสู้คดี ทางศาลอาญากรุงเทพใต้ให้คุณชูวิทย์ยื่นประกันตัว เพราะว่ามีเหตุสุขภาพต้องปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อที่จะได้นัดหมายในคดีเนื่องจากว่าไม่ใช่เพียงแค่ 2 คดี ซึ่งยังมีอีกทั้งหมด 10 คดี ต่างกรรมต่างวาระ หากชั้นอัยการและพนักงานสอบสวนสรุปสำนวนก็ต้องส่งมาที่ศาลอีก ซึ่งทางฝั่งทนายคุณชูวิทย์จึงได้นัดหมายกับตนว่า ให้มีการรวมคดีเพื่อที่จะให้มาศาลในวันเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณชูวิทย์เคยสัมภาษณ์พูดถึงตนทำให้ตนไม่มีโอกาสชี้แจงแล้วเสื่อมเสียชื่อเสียง

วันนี้เมื่อทราบว่า ทางคุณชูวิทย์ได้มาที่ศาลด้วยตัวเองจึงรีบมาเพราะว่าคิดถึง ไม่เจอเป็นปี อยากถามถึงสุขภาพร่างกาย โดยรู้จักกับคุณชูวิทย์มานาน อยู่ในสถานที่คุณชูวิทย์ตอนที่เริ่มธุรกิจเป็นกี่สิบปีแล้ว แต่ทางคุณชูวิทย์ไม่พอใจตนที่เข้าไปในสถานที่โรงแรมของของเขาในเหตุการณ์ครั้งนั้น คดีได้ผ่านไปแล้วซึ่งศาลก็ยอมรับว่าตนไม่ได้ไปกลั่นแกล้งอะไรคุณชูวิทย์ วันนี้คุณชูวิทย์ได้คุยกับตนในเรื่องนี้ และหลายๆ เรื่องหลายๆ คน ทั้งเรื่องบิ๊กแดงบิ๊กโจ๊กบิ๊กแป๊ะและเสี่ยกำพลและเปา รวมถึงสารวัตรซัว ธุรกิจโคบาน่า ชี้แจงทำความเข้าใจกับตน ซึ่งทางชูวิทย์ได้รับฟังจากคนอื่นมา ไม่ได้ฟังจากตน ทำให้เกิดเรื่องเป็นคดี

ทั้งนี้ คุณชูวิทย์ได้มีการกล่าวขอโทษตนแล้ว แต่ตนยังไม่รับคำขอโทษ แต่ถ้าหากคุณชูวิทย์สารภาพในทุกคดีหรืออยู่ถึงวันนั้น ตนก็จะบอกได้ว่าจะยอมรับคำขอโทษหรือไม่ และ คุณชูวิทย์ได้พูดว่า “พี่ต่อ ฝากขอโทษคุณสนธิลิ้มด้วย” และคุณสนธิก็ได้รับคำกล่าวโทษนี้จากปากตนที่คุณชูวิทย์ได้ฝากมา

ในส่วนของเรื่องคดีก็ให้ดำเนินไปตามตามกฏหมาย สรุปว่า วันนี้ตนได้มาเยี่ยมอาการเขาและได้พูดคุย ซึ่งทางคุณชูวิทย์ได้บอกกับตนว่า เรื่องอาการของตนนั้นคงจะรักษาไม่หาย ได้แต่ประคับประคอง ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของทางคุณชูวิทย์ เท่าที่ตนเห็นอาการของคนชีวิตก็มีอาการเหนื่อยพอสมควรและทนายคุณชูวิทย์ได้ถ่ายรูปคู่กันเพื่อยื่นพิจารณาในชั้นศาล จะได้ไม่ต้องมาหลายครั้งเหมือนคนไม่ป่วย

ตนได้ทราบข่าวข่าวว่า คุณชูวิทย์เพิ่งจะเดินทางมาถึงเมืองไทยเมื่อคืนนี้ เพื่อเข้าสู่กระบวนการและมาเคลียร์เรื่องเอกสารทางธุรกิจของทางคุณชูวิทย์ด้วย