เกิดเหตุปลัดหญิง อบต.คลองสาม จ.ปทุมธานี ถูกแทงคอ 11 แผล ดับสยองคาบ้าน ตำรวจเร่งสืบสวนคลายปมการตายหลังยังคงเป็นปริศนา เนื่องจากไม่พบร่องรอยการต่อสู้และทรัพย์สินไม่สูญหาย

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 มีรายงานว่า กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ท.เกรียงไกร ศรีไม้ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ 8 ซอยคลองสาม 8/4 ถนนเลียบคลองสาม ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยสายตรวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี ฝ่ายปกครองอำเภอคลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน (ศพฐ.1) แพทย์เวรจากนิติเวช โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต. คลองสาม และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู เร่งตรวจสอบที่เกิดเหตุ




ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นบนเนื้อที่บ้าน 100 ตารางวา มีรั้วรอบบ้าน ภายในห้องโถงที่หน้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือ นางวรกนก อายุ 57 ปี เป็นปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคลองสาม สวมและนุ่งผ้าถุงกระโจมอก สภาพนอนหงายจมกองเลือด อยู่หน้าตู้เย็นและพบมีบาดแผลถูกของมีคมแทงเข้าที่บริเวณคอ 11 แผล หลอดลมเกือบขาด และที่ข้อมือขวาไม่พบอาวุธมีด พบแต่สร้อยคอทองคำ วางไว้บนอ่างล้างหน้า ทางเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้ตรวจสอบเพื่อหาลายนิ้วมือ และจากการตรวจสอบภายในห้อง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือทรัพย์สินสูญหายแต่อย่างใด


จากการสอบสวนนางบงกช อายุ 51 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงพี่สาวกรีดร้อง 2 ครั้ง จึงรีบมาดูก็พบพี่สาวนอนจมกองเลือดอยู่ในห้องแต่ไม่พบคนร้าย และพบทรัพย์สินสร้อยคอทองคำของผู้ตายวางอยู่ที่อ่างล้างหน้า เป็นสร้อยที่พี่สาวใส่อยู่เป็นประจำ ส่วนพี่สาวไม่เคยมีเรื่องกับใคร และก็เป็นคนดี พี่สาวอยู่ที่นี่มาตลอด เป็นที่รักของทุกคนไม่ได้มีพิษมีภัยกับใคร เรื่องการทำงาน ในสายปกครองก็ไม่มีปัญหา ตนเองเจอกับพี่สาวครั้งสุดท้ายวันนี้ ขณะนั่งทำงานอยู่ก็ยังบอกเขาว่า เดี๋ยวน้องจะไปทำกายภาพที่เทศบาลเมืองบึงยี่โถแล้ว และตอน 5 โมงเย็นลูกพี่สาวก็มารับคุณแม่ไปที่บ้านพัก ย่านคลองเจ็ดธัญบุรี โดยที่ลูกชายเขาปิดประตูล็อกไว้ ปกติแล้วแม่ก็จะอยู่ที่บ้านกับพี่สาวสองคน ตนเองก็ไม่ทราบสาเหตุจะชิงทรัพย์ แต่ทรัพย์สินก็ไม่มีอะไรหาย แต่ตนเองก็ยังไม่ได้เข้าดู โทรศัพท์อยู่หรือไม่ ประตูด้านหลังก็เปิดลักษณะแง้มไว้ ด้านหลังเป็นสวน มีคนงานทำงานอยู่ปกติ สำหรับที่บ้านหลังนี้ มีแม่อยู่กับปลัดฯ สองคน ตนเองอยู่บ้านอีกหลัง ปลูกใกล้ ๆ กัน ตอนเกิดเหตุที่ตนเองได้ยินเสียงร้องของพี่สาวเวลาประมาณ 21.30 น.




ทางด้านนายภูชิต อายุ 26 ปี ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุแม่ก็ปกติดีทุกอย่าง ก่อนที่ผมจะออกไปซื้อข้าวแล้วก็มาคุยกับแม่ว่าเป็นไงบางสบายดีไหม ตนเองกลับไปบ้านคลองเจ็ดเวลาประมาณทุ่มกว่า แม่ยังเดินมาส่งหน้าบ้าน เพราะตนเองต้องกลับไปดูน้อง ปกติแล้วแม่จะอยู่กับยาย ส่วนน้องสาวกับแฟนของน้องสาวอยู่บ้านคนละหลัง ตนเองก็จะเทียวไปเทียวมาเช้าเย็นทุกวัน แม่ก็มีกังวลบ้าง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไม่ได้ตั้งตัวก็ไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร


ด้าน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ มิตรปราสาท ผกก.สภ.คลองหลวง กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเป็น ปลัด อบต.คลองสาม จึงรุดมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ในเบื้องต้นพบมีคราบเลือดอยู่ยังไม่ได้เข้าไปชันสูตรพลิกศพ ต้องรอเจ้าหน้าที่ พฐ. และแพทย์เวรมาร่วมตรวจสอบอย่างละเอียด จะได้ทราบสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากอะไร และจากการตรวจสอบพยานและคัดกรองพยาน ไม่ว่าจะเป็นน้องสาวที่พบศพคนแรก พบว่ามีบาดแผลที่คอ อย่างไรก็ตาม ยังไม่ยืนยันสาเหตุ ให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ โดยทรัพย์สินของผู้ตายยังอยู่ ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ถึงประเด็นของสาเหตุการเสียชีวิต โดยทราบจากญาติว่า ผู้ตายมีอาการซึมเศร้า และมีอาการหลายอย่าง


ทางด้าน ร.ต.ท. เกรียงไกร ศรีไม้ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.คลองหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบในจุดเกิดเหตุ ร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมกับแพทย์เวรนิติวิทยาศาสตร์ ,เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (ศพฐ.1) และบันทึกภาพในจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเชิญญาติ ๆ ไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.คลองหลวง ถึงสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้มูลนิธิร่วมกตัญญูนำร่างผู้เสียชีวิตส่งศพไปผ่าชันสูตร ที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ (เฉลิมพระเกียรติ) เพื่อหาสาเหตุการตายอีกครั้ง และจะได้ประสานทางญาติ ๆ มารับกับนำกลับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป