ดีเอสไอ เตรียมเข้าเรือนจำ 20-21 พ.ย.นี้ เร่งสอบปากคำมาราธอนไล่ประเด็นสงสัยเหตุแชร์ลูกโซ่ 11 บอสชายดิไอคอน เว้นบรรดาบอสหญิง ด้าน "พ.ต.ต.วรณัน" โฆษกดีเอสไอ เผย ได้รับคลิปเสียงสนทนา "กฤษอนงค์" อ้างจ่าย 10 ล้านบาท พาดพิงหน่วยงาน ส่งผู้เชี่ยวชาญสถาบันนิติวิทย์ตรวจพิสูจน์ ส่วน 21-22 พ.ย. ดีเอสไอยื่นฝากขังศาลผลัด 4 ก๊วนบอสดิไอคอน

จากกรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด กับพวก ได้ดำเนินการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งสามารถแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา 18 บอสดิไอคอน ประกอบด้วย พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4, 5 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19,20 ทั้งยังสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาและผู้เกี่ยวข้องสัมพันธ์ ธุรกรรมทางการเงิน การครอบครองทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดในคดีดิไอคอน โดยการรับเป็นคดีพิเศษที่ 115/2567 กรณีฟอกเงินทางอาญา


นอกจากนี้ ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณีปรากฏคลิปเสียงสนทนาระหว่างชายหญิง เนื้อหาสาระการพูดคุย บางช่วงบางตอนทางฝ่ายหญิงได้มีการกล่าวอ้างให้ฝ่ายชายรับฟังถึงการเคยจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ผ่านทนายความคนกลาง เพื่อเป็นค่าดำเนินการทางคดี ไม่ให้มีการแถลงข่าว ต่อมา รรท.อธิบดีดีเอสไอ สั่งการให้เจ้าหน้าที่คดีพิเศษประสานเรื่องคลิปเสียงดังกล่าวกับสำนักข่าวที่มีการนำเสนอ เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นการกล่าวพาดพิงถึงการจ่ายเงินแก่หน่วยงาน ส่งผลให้หน่วยงานและเจ้าหน้าที่ภายในองค์กรได้รับผลกระทบ ตามที่ได้มีการรายงานข่าวไปอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น


ความคืบหน้าวันที่ 19 พ.ย. 2567 พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ เปิดเผยว่า วานนี้ (18 พ.ย.) ทางผู้แทนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เดินทางไปรับมอบหลักฐานคลิปเสียงสนทนาของ น.ส.กฤษอนงค์ ที่มีการสนทนากับชายรายหนึ่ง โดยมีการกล่าวอ้างถึงการจ่ายเงิน 10 ล้านบาท แก่ดีเอสไอเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจะได้นำส่งคลิปเสียงเข้ากระบวนการตรวจพิสูจน์โดยผู้เชี่ยวชาญของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และภายหลังจากได้ข้อมูลแล้วทราบว่าวันนี้ทางดีเอสไอจะมีการเข้าไปประสานกับทางทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องด้วยขณะนี้ผู้ต้องหาเพิ่งเข้าไปภายใน และอยู่ระหว่างเริ่มต้นการกักโรคโควิด-19 จำนวน 5 วัน หากพนักงานสอบสวนจะเข้าไปสอบสวนปากคำผู้ต้องหา ก็จะต้องประสานงานกับทางทัณฑสถานเพื่อขออนุญาตก่อน หากราชทัณฑ์อนุญาต ดีเอสไอก็จะเข้าสอบปากคำวันนี้เลย และที่ต้องสอบสวน น.ส.กฤษอนงค์ ก่อนบอสพอล ก็เพราะว่าเจ้าตัวเป็นคนพูดประโยคดังกล่าว รวมทั้งพนักงานสอบสวนจะได้สอบประเด็นอื่น ๆ คู่ขนานไปด้วยให้เร็วที่สุด ส่วนสิ่งที่จะใช้สอบปากคำ น.ส.กฤษอนงค์ ยกตัวอย่าง ข้อเท็จจริงที่ไปพูดในคลิปเสียงสนทนา มีการกล่าวอ้างใด ๆ ต้องสอบสวนให้ปรากฏข้อเท็จจริง


พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า สำหรับการเตรียมเข้าไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมแก่บรรดา 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในวันที่ 20-21 พ.ย. เนื่องมาจากครั้งที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้เข้าไปแจ้งข้อกล่าวหาและสอบสวนปากคำ แต่ทางผู้ต้องหาผู้ชายไม่ได้มีการให้การใด ๆ โดยประสงค์ขอยื่นเป็นเอกสารชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายใน 15 วัน และขอยื่นบัญชีรายชื่อพยานเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองแทนนั้น แต่จนปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีผู้ต้องหารายใดส่งเอกสารหรือส่งประเด็นที่ต้องการให้ดีเอสไอไปพิสูจน์ มีเพียงบัญชีรายชื่อพยานของทนายวิฑูรย์ เก่งงาน (ทนายความของบอสพอล) ที่ได้มีการยื่นไว้ก่อนที่ดีเอสไอจะเข้าไปแจ้งข้อหา 18 บอส โดยดีเอสไอได้ไปทำการสอบสวนพยานตามบัญชีดังกล่าวแล้ว พบว่าไม่มีใครอ้างพยานหลักฐาน ณ เวลานั้น ทำให้ในที่ประชุมเมื่อวันศุกร์ที่ 15 พ.ย. ของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีมติร่วมกันว่าควรจะเข้าไปสอบสวนปากคำบรรดา 11 บอสชายอีกครั้ง เพื่อให้มีถ้อยคำให้การและพยานหลักฐานเข้าสู่สำนวนคดี อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหามีเพียงการขอเอกสารเพื่อไปใช้ในการต่อสู้คดี เช่น คำร้องฝากขังตั้งแต่ผัดแรก เนื่องจากผู้ต้องหาบางรายมีการเปลี่ยนทนายความ ทั้งนี้ จะได้มีการสอบสวนปากคำบอสพอลในประเด็นที่เป็นคู่สายสนทนาในคลิปเสียงกับ น.ส.กฤษอนงค์ เรื่องการจ่ายเงิน 10 ล้านบาทอีกด้วย


“ประเด็นที่ดีเอสไอจะสอบสวนปากคำบรรดา 11 บอสชายดิไอคอนฯ วันที่ 20-21 พ.ย. ก็ยังคงเป็นประเด็นเดิมจากการแจ้งข้อกล่าวหาคดีแชร์ลูกโซ่ หรือ พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ยกตัวอย่าง ผู้ต้องหาจะมีการอ้างถึงพยานหลักฐานใดหรือไม่ จะแก้ต่างอย่างไรว่าธุรกิจบริษัท ดิไอคอนฯ ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ เพราะหลักการทำงานของดีเอสไอ ใช้หลักกฎหมายเคร่งครัดโดยการฟังความสองฝ่าย” โฆษกดีเอสไอ ระบุ


พ.ต.ต.วรณัน เผยอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ดีเอสไอไม่ต้องสอบสวนปากคำเพิ่มเติมกับบรรดาบอสหญิงทั้ง 7 รายในทัณฑสถานหญิงกลางนั้น เนื่องจากทั้งหมดได้มีการให้ถ้อยคำหมดแล้ว แตกต่างจากฝั่ง 11 บอสชายที่ไม่ให้การใด ๆ ส่วนกรณีการยื่นคำร้องของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษต่อศาลอาญา เพื่อขยายเวลาการฝากขัง 18 ผู้ต้องหาคดีบริษัท ดิไอคอนฯ เป็นผัดที่ 4 นั้น โดยในส่วนของ 17 บอสดิไอคอนฯ ยกเว้นบอสพอล จะได้ดำเนินการในวันพฤหัสบดีที่ 21 พ.ย. ส่วนวันศุกร์ที่ 22 พ.ย. จะได้ฝากขังบอสพอลต่อศาล เพราะบอสพอล เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ช้ากว่าบอสอื่น ๆ 1 วัน ซึ่งได้มีการมอบหมายให้ ผอ.ส่วนคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ 2 รับผิดชอบดำเนินการตามขั้นตอน


พ.ต.ต.วรณัน เผยต่อว่า ในวันพุธที่ 20 พ.ย. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมกับตนเอง จะได้มีการเชิญทีมคณะทำงานไปหารือกับอธิบดีอัยการคดีพิเศษ เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารคดี และประสานว่าดีเอสไอได้ดำเนินการไปอย่างไรแล้วบ้าง เพื่อจะได้มีข้อหารือว่าจะทำงานร่วมกันอย่างไรต่อไป จะได้ทำให้การรับไม้ต่อในชั้นพิจารณาคดีของอัยการมีความรวดเร็ว ส่วนในวันที่ 20-21 พ.ย. ในการสอบสวนปากคำ 11 บอสชายภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะมี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจนนิรันดร์กิจ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค เป็นผู้ประสานการปฏิบัติในรายละเอียด


นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า กรมสอบสวนคดีพิเศษ โดยกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ยธ 0812/3871 ลงวันที่ 18 พ.ย.67 ส่งถึงนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของผู้ต้องหาที่ 1-19 เรื่อง ขอความร่วมมือร่วมฟังการสอบสวนปากคำผู้ต้องหา โดยใจความในหนังสือ ระบุว่า “ตามที่กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ยธ 0812/3844 ลงวันที่ 8 พ.ย.67 ขอความร่วมมือท่านประสานงานทนายความเข้ารับฟังการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาในคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี มีผู้กล่าวหาบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก รวม 19 คน ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และฐานร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ณ เรือนจำพิเศษ


กรุงเทพมหานคร และทัณฑสถานหญิงกลาง เมื่อวันที่ 11 พ.ย.67 แล้วนั้น เนื่องจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ มีความจำเป็นต้องสอบสวนปากคำผู้ต้องหาที่ถูกขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในวันที่ 20-21 พ.ย. 67 เวลา 10.00-16.00 น. จำนวน 11 คน ประกอบด้วย

1. นายวรัตน์พล หรือ บอสพอล
2. นายจิระวัฒน์ หรือ บอสแล็ป
3. นายกลด หรือ บอสปีเตอร์
4. นายฐานานนท์ หรือ บอสหมอเอก
5. นายนันท์ธรัฐ หรือ บอสโอม
6. นายธวิณทร์ภัส หรือ บอสวิน
7. นายเชษฐ์ณภัฏ หรือ บอสทอมมี่
8. นายหัสยานนท์ หรือ บอสป๊อป
9. นายธนะโรจน์ หรือ บอสออฟ
10. นายยุรนันท์ หรือ บอสแซม
11. นายกันต์ หรือ บอสกันต์


เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 134/1 และมาตรา 134/3 จึงเรียนมายังท่านเพื่อโปรดทราบ และเข้าร่วมฟังการสอบสวนปากคำผู้ต้องหาดังกล่าว และขอความร่วมมือประสานงานทนายความของผู้ต้องหารายอื่นเพื่อเข้าร่วมฟังการสอบสวนตามวัน เวลา และสถานที่ดังกล่าว ทั้งนี้ มี ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ ผอ.กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ เป็นผู้ประสานการปฏิบัติในรายละเอียด