จับตา! ศาลฯพิพากษา "แอม ไซยาไนด์" ด้านแม่ก้อย หอบรูปลูกสาวมาทวงความยุติธรรม ลั่นอย่าไว้ใจคนใกล้ตัว
วันที่ 20 พ.ย. 67 ครอบครัวของนางสาวศิริพรหรือก้อยผู้เสียชีวิตปริศนาในคดีแอม ไซยาไนด์ เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พร้อมทีมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษา
โดยนางทองพิน แม่ของก้อย ได้กอดรูปลูกสาว พร้อมกับเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่ว่าคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร แม่ขอไม่ก้าวล่วง แต่จะขอทวงคืนความยุติธรรมให้กับลูกสาว และที่ผ่านมา คิดถึงลูกทุกวันไม่เคยลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูก ต้องดูแลหลานดูแลบ้านเมื่อตอนลูกอยู่ไม่เคยใช้ชีวิตลำบาก เพราะลูกเปรียบเสมือนเสาหลักของครอบครัว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากบอกลูกว่าอะไร นางทองพินบอกว่า อยากให้ชนะอยากได้ความเป็นธรรม ไม่อยากให้ลูกตนตายฟรี แม่มั่นใจว่าอีกฝ่ายเป็นผู้กระทำกับลูกของแม่อย่างแน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะเป็นผู้กระทำ
นอกจากนี้นางทองพิน ยังฝากถึงทุกคนว่า อย่าไว้ใจคนอื่น แม้จะเป็นคนใกล้ตัวเพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้เป็นบทเรียน คนที่คบกันมานานมันไม่น่า ทำร้ายจนถึงเอาชีวิต และยังฝากบอกว่าจะกินอะไรของใครก็ต้องระวัง คนใกล้ชิดนี่แหละสำคัญที่สุด
ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หนึ่งในทีมทนายความ เผยว่า ก่อนหน้านี้ศาลได้นัดไต่สวน และจำเลยที่1 ปฏิเสธที่จะเบิกความต่อหน้าศาล ซึ่งทนายเดชามองว่า เป็นสิทธิ์ที่จะทำได้ ขณะที่พันตำรวจโทวิฑูรย์ รังสิวุฒฒาภรณ์ จำเลยที่ 2 แจ้งต่อศาลว่าไม่ปรากฏหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้นำกระเป๋าซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญในคดีไปการซ่อนเร้นอำพราง ส่วนนางสาวธัญนิชา เอกสุวรรณวัฒน์หรือทนายพัช จำเลยที่ 3 ได้เบิกความต่อศาลขอต่อสู้ในประเด็นไม่ ปรากฏประจักษ์พยานว่าขณะเกิดเหตุไม่มีใครพบเห็นว่ายาพิษเข้าสู่ร่างกายผู้ตายได้อย่างไร จึงแจ้งต่อศาลว่าทำให้คดีมีข้อสงสัย ซึ่งส่วนตัวมองว่าแม้จำเลยทั้ง 3 จะให้การอย่างไร ก็มั่นใจในหลักฐานว่าจะสามารถทวงคืนความยุติธรรมได้
อย่างไรก็ตาม นาย รพี ชำนาญเรือ ยังเผยทิ้งท้ายไว้ว่า เวลาผ่านมาแล้ว 19 เดือน 6 วัน ที่คดีของแอม ไซยาไนด์ ปรากฏขึ้นมาบนสื่อ และ ทาง พนักงานสอบสวน ได้มีการ ส่งสำนวน ให้กับอัยการ ไปแล้ว 15 คดี ซึ่งวันนี้จะเป็นการตัดสินในคดีแรก