"ทนายบอสพอล" เยี่ยมผู้ต้องหาดิไอคอน หารือสู้คดีหลังดีเอสไอวางกรอบส่งสำนวนภายใน 3 ธ.ค. หวั่นสอบพยานไม่ครบทำไม่ได้รับความเป็นธรรม ลั่น มีหลักฐานพนักงานสอบสวนชี้นำพยานในคดี เตรียมส่งหลักฐานให้อัยการ
วันที่ 21 พ.ย. 67 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เดินทางเข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เมื่อเวลา 11.10 น. ที่ผ่านมา เพื่อเยี่ยมผู้ต้องหาคดี “ดิไอคอนกรุ๊ป” หลังจากเมื่อวานนี้พนักงานสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปสอบปากคำผู้ต้องหาชายในคดีเพิ่มเติม
โดยนายวิฑูรย์ ระบุว่า วันนี้จะเข้าไปพูดคุยกับบอสพอและผู้ต้องหาในคดี เกี่ยวกับแนวทางการต่อสู้คดี โดยเมื่อวานนี้ตนเองได้นำเอกสารของดีเอสไอ ซึ่งเป็นร่างบันทึกคำให้การ ที่มีการนำมาให้ผู้ต้องหาเซ็นแต่ผู้ต้องหายังไม่ได้เซ็น ไปปรับปรุงใหม่ เนื่องจากมองว่าเนื้อหาในเอกสารดังกล่าวมีลักษณะชี้นำไปในทางที่จะทำให้ผู้ต้องหาเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่หรือ พ.ร.บ.ขายตรงฯ โดยตนเองได้ขีดเส้นให้ทีมงานของดิไอคอนกรุ๊ป ปรับปรุงเอกสารให้เสร็จภายในวันอาทิตย์นี้ เพื่อเตรียมไปยื่นให้ดีเอสไอในวันจันทร์ที่ 25 พฤศจิกายน โดยในวันดังกล่าวจะนำพยานไปให้ปากคำดีเอสไอด้วย 200 คน
นายวิฑูรย์ ยังมองว่า การที่ดีเอสไอต้องมาเร่งรัดคดีให้จบภายในวันที่ 3 ธันวาคมนั้น เพราะต้องการเผื่อเวลาให้อัยการทำงาน เพื่อส่งฟ้องให้ทันกรอบเวลาการฝากขัง 84 วัน เนื่องจากหากไม่ทัน จะต้องปล่อยตัวผู้ต้องหาตามกฎหมาย อย่างไรก็หากการเร่งรัดโดยไม่ได้สอบปากคำพยานฝั่งตนเองทั้ง 2,000 คน ก็มองว่าฝ่ายตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งแม้ดีเอสไอจะไม่ได้ให้คำตอบว่าสามารถสอบปากคำพยานให้วันละเท่าไหร่ แต่ตนเองจะพาไปวันละ 200 คน รวมถึงจะพาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น ด้านแชร์ลูกโซ่และธุรกิจสายตรง ไปขอให้ดีเอสไอเร่งสอบปากคำในสัปดาห์หน้าด้วย ซึ่งหากทางดีเอสไอไม่ได้สอบปากคำพยานฝ่ายตนเองครบทั้งหมด ก็มี 2 ทางที่เตรียมไว้คือ 1. พาพยานที่เหลือไปให้การในชั้นศาล และ 2. ขอให้อัยการตีสำนวนกลับมาดีเอสไอทำใหม่
โดยนายวิฑูรย์ยังบอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ทางดีเอสไอได้สอบปากคำพยานฝ่ายดิไอคอนไปเพียง 20 กว่าปากเท่านั้น โดยคนที่ให้ปากคำไปแล้ว เป็นพยานที่เป็นตัวแทนระดับติดกับบอส รวมถึงโปรแกรมเมอร์ของบริษัทซึ่งเป็นลูกน้องของโค้ชแล็ป โดยในการให้ปากคำ พบว่ามีการถามชี้นำให้ตัวแทนตอบคำถามในสิ่งที่ต้องการ เหมือนมีคำตอบในใจแล้วและพยายามถามชี้นำให้ตอบไปทางนั้น ซึ่งตัวแทนที่ไปให้ปากคำได้อัดเสียงไว้ทุกคน มีหลักฐานว่าดีเอสไอทำหน้าที่อย่างไร ซึ่งจะส่งหลักฐานส่วนนี้ให้กับอัยการพิจารณาการสอบสวนของดีเอสไอด้วยว่าชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ โดยหากทางดีเอสไอจะขอหลักฐานดังกล่าวนำไปตรวจสอบด้วย ตนเองก็พร้อมส่งให้
นอกจากนี้ยังมีรายงานจากคณะผู้ รับผิดชอบคดีดิไอคอนกรุ๊ปจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า วันนี้ดีเอสไอไม่ได้เข้ามาที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพตามกำหนดเดิมที่วางแผนไว้ว่าจะใช้เวลา 2 วัน คือวันที่ 20-21 พฤศจิกายน เนื่องจากกระบวนการเข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาคดี “ดิไอคอน” ฝั่งชาย เสร็จสิ้นไปตั้งแต่ช่วงเย็นของเมื่อวานนี้แล้ว เพราะผู้ต้องหาไม่มีใครให้การเพิ่มเติม
ส่วนฝั่งหญิง แหล่งข่าวจากดีเอสไอ ระบุว่า ยังไม่มีประเด็นที่จะต้องเข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เนื่องจากผู้ต้องหาหญิงในคดีนี้ ได้ให้การกับพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้าเรือนจำแล้ว