ตำรวจสอบสวนกลาง นำหมายค้นและหมายจับ รวบนายก อบต.สำนักทอง จ.ระยอง เรียกเงินผู้รับเหมาสร้างถนนกว่า 1 แสนบาท เจ้าตัวปฏิเสธข้อหา ฉุนถูกค้นตัว
วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567 ที่ สภ.สำนักทอง จังหวัดระยอง ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ตำรวจ บก.ปปป. ร่วม ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “ถล่มเจ้าสำนักทอง” โดย กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.สิทธิพร กะสิ ผกก.2 บก.ปปป. ร่วมกับสำนักงาน ป.ป.ช. ภายใต้การอำนวยการของ นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. นายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. และนายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนัก สืบสวนและกิจการพิเศษ มอบหมายให้ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักสืบสวนฯ สำนักงาน ป.ป.ท. ภายใต้การอำนวยการของ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการ ป.ป.ท. และ นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการฯ มอบหมายให้ พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการฯ และ พ.ต.ท. สราวุธ คำเหลือง ผู้อำนวยการกองอำนวยการต่อต้านการทุจริต
ร่วมกันจับกุมและแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหา คือ นายสุรินทร์ อายุ 71 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา คดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ที่ 22/67 ลงวันที่ 20 พ.ย. 2567 ข้อหา “เป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดย มิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ เป็นเจ้า พนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นเจ้าพนักงานของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือ ใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติ หน้าที่โดยทุจริตและ เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วย หน้าที่” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 มาตรา 157 และพระราชบัญญัติประกอบ รัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173
พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้สืบสวนสอบสวน กรณีผู้เสียหายในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทแห่งหนึ่งได้รับความ เดือดร้อนเนื่องจากถูกนายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง ซึ่งเรียก รับเงิน เพื่อให้ได้เช็คจากโครงการก่อสร้าง ถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายเขามะกอก หมู่ที่ 4 ซึ่งดำเนินการเสร็จสิ้นตามขั้นตอนแล้ว จึงเข้าพบเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อขอความช่วยเหลือ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ป.ป.ท.ได้นำผู้กล่าวหา เข้าพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีกับ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทองคนดังกล่าว
โดยเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคม 2567 ผู้เสียหายได้ประมูลงานขององค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง ในโครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก ด้วยราคา 835,000 บาท ต่อมาในวันที่ผู้เสียหายได้เข้าไป ทำสัญญาจ้างก่อสร้าง นายสุรินทร์ ได้เรียกผู้เสียหายเข้าไปเจรจา โดยขอเงินจำนวน 13% จากจำนวนเงินใน สัญญาจ้าง ผู้เสียหายจึงได้ต่อรองจึงเป็นเงินจำนวน 100,534 บาท โดยนายสุรินทร์ยินยอมตกลงในจำนวนดังกล่าว นอกจากนี้ยังโน้มน้าวให้ผู้เสียหายซื้อวัสดุก่อสร้างจากนายสุรินทรด้วย แต่ผู้เสียหายไม่ได้ซื้อเนื่องจากราคาที่นายสุรินทร์ เสนอนั้นสูง หลังจากนั้นบริษัทของผู้เสียหายจึงได้ก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ส่งมอบงาน และได้ตรวจรับงานเรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างก่อสร้าง
ต่อมา เมื่อเดือนตุลาคม 2567 นายสุรินทร์ได้โทรศัพท์ให้ผู้เสียหายไปรับเช็คค่าก่อสร้าง โดยให้นำเงินสดจำนวน 100,534 บาทมามอบให้ด้วย และโทรมาเพื่อเร่งรัดผู้เสียหายอีกจำนวนหลายครั้ง แต่ผู้เสียหายไม่ได้รับสายเนื่องจากหากหักเงินจำนวนดังกล่าวไปก็จะขาดทุน เมื่อได้รับความเดือดร้อน ผู้เสียหายจึงได้นำเรื่องดังกล่าวมาปรึกษาและเล่าข้อเท็จจริงดังกล่าว ให้กับสำนักงาน ป.ป.ท.เขต 2 เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.เขต 2 ฟังพร้อมกับหลักฐานที่มี และเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ผู้เสียหายพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ท. เขต 2 ได้เดินทางไปพบนายสุรินทร์ ที่ห้องทำงานในองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง โดยได้พูดต่อรองราคาแล้วลดจาก 13% เป็น 12% จากยอดเช็คที่หักภาษี แล้ว ซึ่งให้นำเงินสดไปแลกกับเช็คที่จะต้องได้ และผู้เสียหายก็ได้เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับ พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับนายสุรินทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง ตามกฎหมายจนถึงที่สุด
ซึ่งการกระทำนี้ ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลสำนักทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 2 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 1 ราย จนวันนี้ขณะที่ผู้เสียหายนำเงินจำนวนดังกล่าวเข้าไปมอบให้แก่ผู้ต้องหาภายในห้องทำงาน เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังปิดล้อมห้องทำงานและเข้าค้นตัวพร้อมทั้งโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ตำรวจ บก.ปปป. จึงได้นำหมายค้นและหมายจับเข้าจับกุมตัวผู้ต้องหา และดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาให้เจ้าพนักงานตำรวจ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา