คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ใน อ.กงหรา จ.พัทลุง จนพรุน เจ้าของรอด เพราะไปบ้านแฟน ติดน้ำท่วมเลยไม่ได้กลับมาพักที่อู่
วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานพัทลุง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรพัทลุง และพนักงานสอบสวน สภ.กงหรา จ.พัทลุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงคราม ชนิดเอ็ม 16 ยิงถล่มอยู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ไม่มีเลขที่ ตรงข้ามโรงเรียน ท้องที่ ม.2 ต.สมหวัง อ.กงหรา จ.พัทลุง โดยอู่ได้รับความเสียหายเป็นรูพรุนหลายจุด พร้อมทั้งรถจักรยานยนต์ที่จอดรอซ่อม อีกหลายคัน และตู้ปลา นอกจากนี้กระสุนปืนยังทะลุไปโดนบ้านอีกหนึ่งหลัง ที่อยู่ถัดไปเป็นรูตรงฝาบ้านอีกจำนวนหนึ่ง
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ไม่พบปลอกกระสุนตกอยู่แต่อย่างใด พบเพียงเศษกระสุนตกอยู่หลายุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
สอบถามเบื้องต้นทราบว่า อู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ดังกล่าวเป็นของนายปรมินทร์ อายุ 26 ปี หรือคนในหมู่บ้านเรียกว่าช่างยักษ์ พังกิ่ง แต่จังหวะเกิดเหตุเจ้าตัวไม่อยู่ภายในอู่ โดยได้ไปอยู่บ้านแฟนในพื้นที่ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง แต่ไม่ได้กลับมานอนพักที่อู่ เนื่องจากบ้านแฟนถูกน้ำท่วมเลยออกมาไม่ได้ถือว่าโชคดี
ขณะที่ นายจันทร์ อายุ 52 ปี ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนเองยังไม่ทราบสาเหตุว่ามาจากเรื่องอะไร ปกติลูกชายเป็นคนนิสัยไม่ค่อยพูดและเล่าอะไรให้ฟัง เลยตอบไม่ได้ว่าสาเหตุมาจากอะไรกันแน่
ด้านนายประจวบ ทองรอด กำนันตำบลสมหวัง อ.กงหรา จ.พัทลุง กล่าวว่า ในเบื้องต้นนั้น ช่างยักษ์เป็นคนพูดน้อย เลยไม่ทราบสาเหตุจริงๆ และพฤติกรรมในหมู่บ้านนั้นไม่เคยเห็นว่าเป็นคนก้าวร้าวหรือพัวพันสิ่งผิดกฎหมายอะไร เลยยากที่จะคาดเดาสาเหตุ ต้องถามเจ้าตัวน่าจะรู้
ขณะที่ช่างยักษ์ยังไม่สามารถเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ เนื่องจากบ้านแฟนถูกน้ำท่วมเลยไม่สามารถออกมาพบพนักงานสอบสวน
ด้านผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ พบว่ากล้องวงจรปิดภายในร้านทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถอดกล้องเพื่อไล่ภาพคนร้าย แต่ไปได้กล้องวงจรปิดใกล้ๆ ที่เกิดเหตุ พบว่าช่วงประมาณ 00.10 น.ของคืนวันที่ 1 ธันวาคม 2567 ได้มีรถจักรยานยนต์ และรถยนต์เก๋งสีบรอนซ์ 2 คัน ขับวนเวียนอยู่บริเวณหน้าบ้าน แล้วรถยนต์เก๋งขับมาเลี้ยวมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังเกิดเหตุช่วงเวลา 00.31 น. รถเก๋งขับผ่าน เวลา 00.32 น. ได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นหลายนัด ก่อนได้ยินเสียงรถขับออกไปอย่างรวดเร็ว
เบื้องต้น ตำรวจกำลังเร่งหาภาพจากกล้องวงจรปิดเพิ่มเพื่อติดตามรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยอีกครั้ง