"บิ๊กเต่า" ยัน มีข้อมูลเส้นเงินคดีรุกที่ ส.ป.ก. เอี่ยวหวานใจนักการเมืองเกือบ 1,000 ล้านจริง โต้แซ่บ "ทนายอินฟลูฯ" แซะให้สัมภาษณ์เยอะ
"บิ๊กเต่า" ยัน มีข้อมูลเส้นเงินคดีรุกที่ ส.ป.ก. เอี่ยวหวานใจนักการเมืองเกือบ 1,000 ล้านจริง
พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการตรวจสอบคดีรุกที่ ส.ป.ก. จังหวัดสระบุรี ที่มีเส้นทางการเงินไปเชื่อมโยงถึง นางสาว ช. หวานใจนักการเมืองว่า เท่าที่ทราบข้อมูลจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้ พบว่าเส้นเงินดังกล่าวมีมูลค่าถึงเกือบ 1,000 ล้านบาทจริง เป็นเงินหมุนเวียนผ่านบัญชี ซึ่งข้อมูลที่ตนทราบมา ก็ตรงตามที่นายดนัยให้ข้อมูล เชื่อว่าน่าจะเป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวเดียวกัน แต่การที่มีเส้นเงินเชื่อมโยงจากกลุ่มเป้าหมายเชื่อมโยงไปถึง ก็ต้องตรวจสอบก่อนว่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ตรงนี้ต้องให้ความเป็นธรรมด้วย
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ต้องมีการสืบสวนตามขั้นตอน ตำรวจต้องเดินตามหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้น จึงต้องรอให้ข้อมูลใต้โต๊ะมาเป็นหลักฐานที่อยู่บนโต๊ะก่อน จึงจะทำการสืบสวนต่อได้ และยอมรับว่า บก.ปปป. อยากที่จะทำเรื่องนี้กลับมาทำ โดยก่อนหน้านี้ คณะทำงานคดีนี้ก็อยากจะให้ บก.ปปป. ทำ ตนก็เข้าใจว่าแบบนั้น แต่เพิ่งมาทราบว่า หลังผ่านไป 4-5 เดือน สำนวนกลับไปอยู่ที่ ป.ป.ช. ซึ่งไม่ทราบเหตุผล
ทั้งนี้ ตนไม่ได้บอกว่าใครทำได้ดีกว่าใคร แต่หาก บก.ปปป. ได้ทำเรื่องนี้ ก็จะเอาเส้นเงินมาตรวจสอบโดยละเอียด ว่ามีการแตกแขนงไปอย่างไรบ้าง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง และหากสำนวนกลับมาก็จะมีอำนาจเต็มที่ สามารถดำเนินการออกหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาสอบปากคำได้
โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องการทุจริตของข้าราชการกับนายทุน ซึ่ง บก.ปปป. เองก็เคยทำคดีบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ที่จังหวัดนครราชสีมามาแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ก็มีความเกี่ยวเนื่องกัน มีแผนประทุษกรรมคล้ายกัน ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ ป.ป.ช. ว่าจะมอบหมายให้ใครเป็นผู้ทำคดี และหากตนได้ทำคดีนี้ก็ไม่ลำบากใจที่จะต้องดำเนินคดีกับบุคคลที่ปรากฏเป็นข่าว เพราะตนพูดตั้งแต่แรกที่มีการเข้าตรวจค้นบริษัทภูนับดาวแล้วว่า ถ้าพบความผิดให้ดำเนินการเลย เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู
นักข่าวถามว่า การที่บริษัทแห่งหนึ่ง ชี้แจงว่าเงินที่โอนไปครั้งละเกือบ 2 ล้านบาท หลายครั้งรวมเป็นยอด 10 ล้านก่อนหน้านี้ เป็นเงินที่ชำระเงินต้นหุ้นกู้ หากข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้น จะสามารถตัดเส้นทางการตรวจสอบเส้นเงินทั้งหมดได้เลยหรือไม่ พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ บอกว่า บริษัทก็มีสิทธิ์ที่จะชี้แจง แต่ไม่ใช่พูดแล้วจบ ต้องมีการตรวจสอบพยานหลักฐานข้อเท็จจริง
บิ๊กเต่า ลั่น อยากติดคุก!! หลังทนายอินฟลูฯ เตือนให้สัมภาษณ์เยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีทนายความอินฟลูเอนเซอร์ท่านหนึ่ง บอกว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งตัวเป็นอินฟลูฯเสียเอง ให้สัมภาษณ์ในทุกเรื่อง ที่บางเรื่องไม่เกี่ยวข้องระวังจะถูกผู้เสียหายแจ้งความกลับ และระวังจะติดคุก ไม่ได้ขึ้นเป็นผู้บัญชาการ ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า "อยากติดคุกเหมือนกัน" โดยอธิบายเพิ่มเติมว่า ตอนนี้นโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกว่าอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอินฟลูเอนเซอร์ เป็นผู้นำ ผู้มีอิธิพลในการทำความดีในการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งเรียกว่า "อินฟลูฯตำรวจ"
แต่อินฟลูฯบางคนเป็นอินฟลูฯประเภทเอียงซ้ายเอี้ยงขวา อินฟลูฯเอามันแบบนี้เราไม่เอา จะต้องเป็นอินฟลูฯที่อยู่บนพื้นที่ของกฎหมายและอยู่ในกฎกติกาของสังคม ไม่ใช่เอาความคิดตัวเองเป็นหลัก โดยไม่ยึดโยงกับพยานหลักฐาน อินฟลูฯบางคนที่ออกมาให้ความรู้ด้านกฎหมาย ตนก็ชื่นชมเวลาออกมาอธิบายข้อกฎหมายให้กับประชาชนได้รับทราบ
"อินฟลูฯบางคน บางทีก็ออกมาด่าหยาบคาย หรือ พูดจาปากหมา จะท้าต่อยคนอื่นไปทั่ว ผมว่าอย่ามาเป็นเลย แบบนี้ผมว่าดูไม่เข้าท่า" พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
สำหรับคนไหนที่เป็นอินฟลูฯทำความดีให้ความช่วยเหลือประชาชน ดีอยู่แล้วให้ทำต่อไป