"ฟิล์ม รัฐภูมิ" ปฏิเสธ 2 ข้อหา ยืนยันมั่นใจ ไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดี เมิน "หนุ่ม กรรชัย" บอกไม่รับเป็นน้อง
จากกรณี นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม รัฐภูมิ ศิลปินดัง พร้อมนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ เข้าพบตำรวจกองปราบ เพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท จากกรณีคลิปเสียงร่วมกับน.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือเจ๊พัช เรียกรับเงินจากบอสบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป 20 ล้านบาท และหมิ่นประมาทพิธีกรรายการทีวีดัง หนุ่ม กรรชัย
หลังให้ปากคำนานกว่า 4 ชั่วโมง "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเปิดเผยว่าเบื้องต้นถูกแจ้ง 2 ข้อหา คือพยายามกรรโชกทรัพย์ และหมิ่นประมาท "หนุ่ม กรรชัย" โดยตนเองให้การปฏิเสธทั้ง 2 ข้อหา ซึ่งหลังจากนี้พนักงานสอบสวนก็จะนัดหมายวันให้มารายงานตัวอีกครั้งในช่วงปลายเดือนนี้
ฟิล์ม กล่าวชี้แจงถึงประเด็นต่างๆ ว่า ที่ก่อนหน้านี้ "หนุ่ม กรรชัย" โทรมา 3-4 ครั้ง บอกให้ตนเองยอมรับผิดนั้น เป็นการให้ตนเองยอมรับในสิ่งที่ตนเองไม่ได้ทำ ตนเองเป็นคนตรงๆ ผิดก็ยอมรับผิด แต่หากไม่ผิด ตนเองก็ไม่ยอม เรื่องที่ผ่านมาตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ที่ไม่ออกมาพูด เพราะตนเองได้พูดไปหมดแล้วตั้งแต่วันแรกที่แถลงข่าวกับสื่อมวลชน ตนเองเคารพกฎหมายเป็นที่ 1 และทำตามกรอบกฎหมายทุกประการ แต่วันนี้สังคมไม่ฟังตนเองเลย ทำให้ตนเองตัดสินใจจะออกมาพักก่อน เหมือนทุกคดีในชีวิตตนเองที่ผ่านมา ตนเองถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปก่อน แต่สุดท้ายตนเองก็ชนะทุกคดี มีเพียงแค่คดีเดียวที่ไม่ชนะคือ คดี Pay all ที่ตนเองประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะตนเองเอาเทคโนโลยีของอนาคตมา แล้วตนเองผิดตรงไหน
ชมคลิป : "ฟิล์ม" ย้ำผมไม่ผิด "ทนายประมาณ" มั่นใจไร้เจตนาพยายามกรรโชกทรัพย์
ทั้งนี้ตนเองยืนยันในเจตนา ในความบริสุทธิ์ใจ และในการกระทำของตนเอง ซึ่งปรากฏในคลิปเสียงทั้งหมดแล้ว
ส่วนจะดำเนินคดีกลับ "ดิไอคอน กรุ๊ป" หรือ "หนุ่ม กรรชัย" ที่แจ้งจับตนเองหรือไม่นั้น ฟิล์ม กล่าวว่า คงไม่ทำอย่างนั้น รู้สึกเฉยๆ และความจริงจะปรากฏเอง รวมถึงไม่โกรธ "หนุ่ม กรรชัย" แต่ถ้าถามว่ายังเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิมหรือไม่ ขอเฉยๆ ดีกว่า ปล่อยเขาไป
ทั้งนี้ ฟิล์ม กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่ได้เครียดเรื่องนี้ แต่เครียดเรื่องอื่น เรื่องนักร้องเรียนที่ออกมาแฉตนเองมั่วๆ กล่าวหาว่าตนเองทำธุรกิจบาป กล่าวหาว่าตนเองเป็นเจ้าของโปรเจ็คไประดมทุน 60 ล้านบาท , ติดหนี้ส่วนกลางหมู่บ้าน , เกี่ยวโยงกับ ส.เล็ก และ ส.ใหญ่ , เอาชื่อตนเองไปโยงกับรัฐมนตรี , เป็นพรีเซ็นเตอร์ตู้เติมเงิน , หรือเกี่ยวข้องกับคดีตู้น้ำมัน ปลุกปั่นปลุกระดมผู้เสียหายให้มาแจ้งความตนเอง ทั้งที่เรื่องที่อีกฝ่ายกล่าวหานั้น ไม่มีเรื่องใดเป็นเรื่องจริงเลย แต่เขาคงไม่มีข้อมูล แล้วเมื่อเห็นตรงไหนมีแสงก็วิ่งเข้าหาแสง ดังนั้นคนคนนี้ จะจัดหนักฟ้องกลับแน่นอน ฝากบอกเขาไม่ต้องไปหาข้อมูลเท็จ ให้เตรียมหาเงินมาจ่ายตนเองดีกว่า
นอกจากนี้ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" ยังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ตนเองโดนแบบนี้มาทั้งชีวิต ตนเองก็ไม่ได้ตกใจอะไร แต่ยอมรับว่าคดีที่เกิดขึ้นกระทบกับอาชีพของตนเอง ปัจจุบันตนเองถูกยกเลิกงานทั้งหมดตั้งแต่เป็นกระแส บริษัททัวร์ของตนเองถูกยกเลิกยาวไปจนถึงกลางปีหน้า คอนเสิร์ตช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ก็ถูกยกเลิกเกือบ 10 งาน เสียหายกว่า 10 ล้านบาท ยอมรับว่าเสียใจ แต่ก็สู้ แล้วเดี๋ยวมาดูว่าผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร พร้อมบอกด้วยว่ามั่นใจในตัวเองมาก ว่าไม่เคยทำอะไรที่ไม่ดี ใช้ชีวิตบนทางที่ถูกต้องเสมอ