พระพยอมยิ้มออก ทนายกองทัพธรรม อาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม และพุทธศาสนิกชน รวมทอดผ้าป่า ปิดตำนาน โฉนดถุงกล้วยแขก วัดสวนแก้ว ยอดทะลุ 10 ล้าน เตรียมเจรจาซื้อที่ดินเป็นของวัดถาวร

วันที่ 8 ธ.ค. 67 ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ทีมทนายกองทัพธรรม พร้อมประชาชนชาวพุทธ เดินทางมาถวายผ้าป่าปลดล็อกแผ่นดินวัดสวนแก้ว หลังเป็นกรณีพิพาทมากกว่า 21 ปี กับเจ้าของที่ดิน ก่อนศาลฎีกาพิพากษาให้วัดสวนแก้วชดใช้เป็นเงินกว่า 1.9 ล้านบาท

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม เปิดเผยกับทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ว่า ทีมทนายได้เข้าช่วยเหลือวัด เนื่องจากไวยาวัจกรได้ทำหนังสือไปถึงสำนักงานทนายความทนายกองทัพธรรม จึงรับปากว่าจะช่วยด้วยการเจรจาไกล่เกลี่ยกับทายาทของนางทองอยู่ เจ้าของที่ดิน ตั้งแต่วันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา และใช้ระยะเวลาในการเจรจาถึงสองครั้งจึงสำเร็จ และตนได้ให้คำแนะนำกับทางวัดว่าต้องมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดออกจากโฉนดที่ดินดังกล่าว และให้รื้อถอนหรือลบภาพอนุสาวรีย์โฉนดถุงกล้วยแขกออก เนื่องจากเป็นภาพจำที่ไม่ดีกับพื้นที่ดังกล่าว

ทีมข่าวสงสัยว่าทำไมพระพยอมจึงต้องอยากได้พื้นที่จำนวน 1 ไร่เศษนี้ ทั้งที่พื้นที่ของวัดก็มีมากถึง 357 ไร่ ทนายอนันต์ชัยเผยว่า สำหรับสาเหตุที่หลวงพ่อพระพยอมอยากได้พื้นที่แห่งนี้มาอยู่ในความดูแลของวัดสวนแก้ว เพราะก่อนหน้านี้หลวงพ่อได้นำเงินจำนวน 10 ล้านบาทไปซื้อที่ดิน แต่ที่มาของเงินคือเงินครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) วัดปากน้ำภาษีเจริญ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน หลวงพ่อเปิ่น ฐิตคุโณ วัดบางพระ หลวงพ่อปัญญา อินฺทปญฺโญ วัดไร่ขิง จ.นครปฐม สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน และพุทธศาสนิกชนทั่วไปที่มาร่วมบริจาค ทำให้รู้สึกว่าผืนดินดังกล่าวเป็นการนำเงินของครูบาอาจารย์มาซื้อ แต่ก็ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางพระพุทธศาสนาได้ จึงทำให้หลวงพ่อมีความกังวล และหากไม่สามารถนำผืนดินนี้กลับมาได้และยังเป็นข้อพิพาทไปอยู่แบบนี้ก็จะทำให้หลวงพ่อตายตาไม่หลับ

แต่ทางวัดแม้จะเป็นวัดใหญ่แต่ก็ไม่ได้มีเงินเพียงพอที่จะนำไปชดใช้ในส่วนข้อพิพาทดังกล่าวได้ครบ ซึ่งหากปล่อยไว้นานกว่านี้ก็จะมีค่าชดใช้เพิ่มไปเรื่อยๆ อีกทั้งยังไม่สามารถรวบรวมเงินในการซื้อผืนดินดังกล่าวได้ ทำให้ทีมทนายกองทัพธรรมได้ประกาศตามหาสาธุชนผู้ใจบุญเข้ามาร่วมทอดผ้าป่าให้กับทางวัดในครั้งนี้

นอกจากนี้ นายประยุทธ ประเทศเสนา (มหาหมี) รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ยังได้เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในกรณีข้อพิพาทดังกล่าวไม่สามารถยุติได้ หากปล่อยไว้ก็จะเป็นแบบนี้ไปไม่รู้จบ ทำให้ทีมทนายกองทัพธรรมได้อาสาเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ข้อพิพาทยุติไม่ลงเนื่องจากว่าหลวงพ่อพระพยอมได้ฟังคำแนะนำจากทนายหลายคน ถึงแนวทางการต่อสู้ของทางวัดเพื่อให้ได้ที่ดิน แต่ตนมองว่าเป็นการให้คำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง เพราะในบางครั้งต้องใช้ความเมตตาเข้าหากัน และพบว่าทนายอีกฝั่งเป็นครูบาอาจารย์ด้านทนายความและรู้จักกันกับทางทนายอนันต์ชัย จึงไม่ยากมากที่จะเจรจาในครั้งนี้ จนนำมาสู่การเจรจาเพื่อหาข้อยุติ

หลังจากที่ได้พูดคุยกับทั้งสองท่าน พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในการทอดผ้าป่าก็เริ่มตั้งขบวนแห่เพื่อนำเงินมาถวายวัด โดยขณะแห่พบว่าบรรยากาศทุกคนยิ้มแย้ม และมีความสุขที่ผ้าป่าในครั้งนี้สามารถปลดล็อกที่ดินให้กับวัดสวนแก้ว และปิดตำนานโฉนดถุงกล้วยแขกอย่างเป็นทางการ โดยยอดผ้าป่าในครั้งนี้ มียอดรวมกว่า 10,033,681.95 บาท โดยมาจากสามกองใหญ่คือทีมมูลนิธิทนายกองทัพธรรมและสาธุชน ทีมอาจารย์เบียร์คนตื่นธรรม และประชาชนทั่วไป โดยหลังจากนี้จะนำเงินส่วนดังกล่าวแบ่งมาเป็น 1,900,000 บาท เพื่อนำไปชดใช้ในส่วนข้อพิพาท ส่วนเงินที่เหลือทางทีมทนายกองทัพทำจะเป็นคนไปเจรจาเพื่อขอซื้อที่ดินกับทางเจ้าของอีกครั้ง หากอีกฝ่ายยอมขายก็จะเป็นผลดีต่อทางวัดสวนแก้วที่จะนำมาใช้สอยให้เป็นประโยชน์ต่อไป

ส่วนทางด้านพระพยอม เปิดเผยกับทีมข่าวออนไลน์ช่อง 8 ว่า ในตอนนี้รู้สึกสบายใจ และทำตามคำแนะนำของทีมทนายกองทัพธรรม ไม่ว่าจะเป็นการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างและอนุสาวรีย์โฉนดกล้วยแขกออกจากที่ดินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ในส่วนยอดผ้าป่าในครั้งนี้ถือว่าเป็นประวัติการของวัดสวนแก้วที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ส่วนวัดที่ไม่มีเงินเหลือ มากพอที่จะชดใช้ให้กับเจ้าของที่ดิน เนื่องจากว่าพระพยอมต้องดูแล บูรณะวัดและคนที่เข้ามาอาศัยใต้ร่มของวัดสวนแก้วเป็นเงินจำนวนมากในแต่ละเดือน ซึ่งเมื่อก่อนจะดูแลเฉพาะคนเปราะบางแต่ในตอนนี้หลังเศรษฐกิจที่ไม่ค่อยจะดีนักก็พบว่า มีคนที่เคยรวยเข้ามาขอความช่วยเหลือจากวัดเยอะมากเช่นเดียวกัน รวมถึงกลุ่มคนไร้บ้านที่ในขณะนี้ก็เป็นปัญหาสังคม ทางวัดก็ต้องช่วยดูแลจึงต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมากในการดูแลและบำรุงวัดพร้อมกับคน ส่วนกรณีของเงิน 10 ล้านบาทที่จ่ายให้นางวันทนา ทางพระพยอมยกเลิกคดีให้ทุกคดี เพราะคู่กรณีตอนนี้ก็เสียชีวิตไปแล้ว ถือว่าในตอนนี้ทุกคดีความที่เกี่ยวข้องกับคดีโฉนดถุงกล้วยแขกก็จบลงทั้งหมด

สุดท้ายหลวงพ่อพระพยอม บอกกับทีมข่าวว่า "อยากให้ทุกคนถ้าจะมีคดี ก็อย่าคิดค้าคดีความเลย ดั่งสุภาษิตจีนที่บอกว่า ค้าความกินขี้หมายังดีกว่า มันเหม็นพักเดียวก็จบ แต่ทรมานมาก 18 ปีกับการสู้คดีนี้ แต่ในที่สุดก็แพ้ เมื่อแพ้แล้วก็เสียเงินซ้ำเข้าไปอีก ถ้าเป็นความเป็นคดีไกล่เกลี่ยกันได้ดีที่สุด"