รวบแล้ว รุ่นพี่ ม.2 โรงเรียนเอกชนดังสัตหีบ แทงรุ่นน้อง ม.1 ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ดับคาร้านของชำในหมู่บ้าน เหตุฉุนรุ่นน้องมองหน้าเหมือนหาเรื่อง นัดเคลียร์ไม่ลงตัวคว้ามีดแทงหลังครั้งเดียวไม่คิดว่าจะตาย

จากกรณีช่วงค่ำของวันที่ 10 ธ.ค. 2567 ร.ต.ท.สันติชล หุมอาจ รองสารวัตรสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งมีคนถูกอาวุธมีดแทงเสียชีวิต หน้าร้านขายของชำในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ม.10 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พบร่าง ด.ช.เอ (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ลูกครึ่งไทย-ออสเตรเลีย ในสภาพนอนหงายหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดบนบันไดทางเข้าร้าน บริเวณแผ่นหลังมีมีดปลายแหลมปักคาหลังเกือบทะลุหน้าอก และพบด้ามมีดสีดำที่หักจากมีดตกอยู่บนถนนหน้าร้านของชำ โดยมี น.ส.ดารุณี อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่และพี่สาวยืนร้องไห้ด้วยความตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น




ล่าสุด กลางดึกที่ผ่านมา ชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ ได้ออกติดตามผู้ก่อเหตุจนสืบทราบว่าคือรุ่นพี่ของผู้ตายอยู่ชั้น ม.2 ชื่อ ด.ช.บี (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ได้เดินทางกลับไปบ้านตัวเองที่อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งใกล้กับจุดเกิดเหตุ ประมาณ 400 เมตร ก่อนพบว่าอยู่ในบ้านกับผู้ปกครอง จึงได้เชิญตัวเด็กและผู้ปกครองมาสอบถามยังห้องสืบสวน สภ.สัตหีบ




จากการสอบถามและพูดคุยกับผู้ปกครองที่เด็กผู้ก่อเหตุ มาเล่าให้ฟังทราบว่า ตัวเด็กกับคนตายมีเรื่องกันภายในโรงเรียนมาก่อนหน้านี้ โดยผู้ตาย อยู่ชั้น ม.1 ผู้ก่อเหตุอยู่ชั้น ม.2 สาเหตุประมาณ คนตายมามองหน้าเหมือนหาเรื่องจึงมีการท้าทายกัน จนวันนี้ได้มีทักแชตออกมานัดเคลียร์ โดยผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาและมีปากเสียงชกต่อยกันก่อนจะแยกย้าย โดยผู้ตายขณะเดินทางกลับไปที่ร้านขายของชำปากทางของเข้าหมู่บ้าน ผู้ก่อเหตุได้วิ่งตามไปก่อนจะชักมีดแทงเข้าด้านหลังจนล้ม จากนั้นก็ขี่รถกลับบ้าน โดยไม่คิดว่าการแทงในครั้งนั้นครั้งเดียวจะทำให้ถึงแก่ความตาย




เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้นำร่างผู้เสียชีวิตส่งยังสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ กทม. เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตายที่แน่ชัดและต้องผ่านำปลายมีดที่หักคาในตัวออกมาประกอบหลักฐานทางคดี โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 2 ชลบุรี ได้ลงเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุและในตัวผู้ก่อเหตุ รวมถึงรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุเพื่อนำมาประกอบหลักฐานในสำนวนเพื่อดำเนินคดี จากนั้นวันนี้จะนำตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุไปส่งศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เพื่อพบทีมสหวิชาชีพเข้าสอบปากคำเด็กในชั้นสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป