"สันธนะ" โผล่เยี่ยม "โกทร" เชื่อไม่ได้สั่งยิง "สจ.โต้ง" ขณะที่คนใกล้ชิด ยืนยันเจ้านายเป็นคนดี

"สันธนะ" โผล่เยี่ยม "โกทร" เชื่อไม่ได้สั่งยิง "สจ.โต้ง" 

กรณี นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิต ในบ้าน นายสุนทร วิลาวัลย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

ล่าสุด นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล เผยว่า วันนี้ตนได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองปราจีนบุรี เพื่อเยี่ยม “โกทร” เพราะส่วนตัวรู้จัก และสนิทสนมกันมานาน โดยที่ผ่านมาตนยอมรับว่า “โกทร” และสจ.โต้ง มีความใกล้ชิดเปรียบเสมือนลูกชายคนนึง ซึ่งตนมองว่า คดีนี้ไม่ยุ่งยาก เพราะผู้ต้องหารับสารภาพ จึงมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการเตือนสติมากกว่า ถ้าอยากปีนป่ายเติบโตก็ต้องฟังผู้ใหญ่

ตนเชื่อว่า “โกทร” ไม่ได้เป็นคนสั่งการให้ฆ่า สจ.โต้ นอกจากนี้ นายสันธนะยังให้ข้อมูลว่า สจ.โต้งเคยมีปัญหากับอดีตนายตำรวจยศใหญ่ในพื้นที่ภูธรภาคสอง ซึ่งปัจจุบันนายตำรวจคนดังกล่าวมีตำแหน่งสำคัญทางการเมือง จึงมองว่าหาก “โกทร” ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องอาจจะเกี่ยวเนื่องถึงประเด็นนี้ด้วย

ส่วนประเด็นคลิปเสียงที่สื่อมีการนำเสนอก่อนหน้านี้นั้นตนมองว่า สจ.โต้งดูก้าวร้าวไปหน่อย อีกทั้ง ประเด็นการเลือกตั้งอบจ.ปราจีน “โกทร” ก็ยืนยันว่าจะไม่ลงเลือกตั้ง ดังนั้น ตนจึงยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับประเด็นขัดแย้งการเลือกตั้งท้องถิ่นแน่นอน

ลูกน้อง "โกทร" ยืนยันเจ้านายเป็นคนดี ช่วยเหลือสังคม

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ ยังมี “ป๋าจ้อย” อายุ 72 ปี ลูกน้องโกทร เดินทางเข้าเยี่ยมโกทร เช่นกัน โดยเปิดเผยว่า ตนรู้จักและสนิทสนมกับ”โกทร”มาหลายปี ที่ผ่านมานิสัยของ”โกทร”เป็นคนดี ช่วยเหลือสังคม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกตกใจไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้

สำหรับประเด็นสาเหตุในการก่อเหตุ นั้น ตนคาดว่า ทั้งคู่น่าจะ มีปัญหาเกี่ยวข้องในเรื่องของการเมืองการเลือกตั้งเพียงเรื่องเดียว ซึ่งตนเชื่อว่าก่อนเกิดเหตุผู้ตายอาจจะเข้ามาพบพูดคุยเกี่ยวกับการเลือกตั้งให้กับภรรยาก็เป็นได้

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่วนตัวตนมองว่า “โกทร” อาจจะไม่ได้มีความผิด เพราะผู้ตายบุกรุกเข้าไปในบ้านของ “โกทร” ในยามวิกาล ในส่วนนิสัยของผู้ตายนั้น เท่าที่ตนรู้จักเขาก็เป็นคนดีเหมือนกัน ในส่วนกระแสข่าวที่มีการนำเสนอก่อนหน้านี้ว่าผู้ตายเป็นลูกบุญธรรมของ “โกทร” นั้น ตนไม่ขอพูดถึง