นรข.นครพนม ซุ่มริมโขง จับขบวนค้ายาข้ามชาติ ยึดยาบ้าเกรดเอเรืองแสง สูตรฟรุ้งฟริ้งฤทธิ์แรง 1.6 ล้านเม็ด ไอซ์ 135 กก. รวมเป็นเงินกว่า 700 ล้าน คาดชนกลุ่มน้อยทั้งว้าเหนือและว้าใต้ ต้องการเงินไปซื้ออาวุธไว้สู้กับทหารเมียนมา จึงปล่อยของรายวัน พบสัปดาห์เดียวตรวจยึดยาบ้าได้แล้ว 20 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเทศบาลเมืองนครพนม พร้อมหน่วยงานความมั่นคง ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า 1,680,000 เม็ด ยาไอซ์ 135 กิโลกรัม และรถกระบะ 4 ประตู 1 คัน บริเวณริมแม่น้ำโขง ระหว่างบ้านท่าไร่ หมู่ 2 กับ บ้านฝอยลม หมู่ 7 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา




ทั้งนี้ น.ท.จักรกฤษ วังกรานต์ หัวหน้าสถานเรือบ้านแพง จ.นครพนม รายงานผลการตรวจยึดครั้งนี้ ว่า ในห้วง 1 สัปดาห์มานี้มีการตรวจยึดยาเสพติดในพื้นที่ จ.บึงกาฬ, นครพนม และมุกดาหาร เป็นจำนวนมาก คาดว่าขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติคิกออฟลักลอบลำเลียงเข้าฝั่งไทย ในวันและเวลาไล่เลี่ยกัน จึงวางแผนร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง ลาดตระเวนในพื้นที่ล่อแหลม ในเขตรับผิดชอบของ สน.เรือบ้านแพง


กระทั่งชุดลาดตระเวน พบรถกระบะ 4 ประตู สีขาว แล่นจากปากทางเข้าบ้านฝอยลม หมู่ 7 ต.ท่าดอกคำ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ มีพิรุธต้องสงสัยเพราะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนทั้งหน้าและหลัง จึงแจ้งชุดปฏิบัติการอีกทีมเฝ้าติดตาม ปรากฏว่ารถคันดังกล่าวหายไประหว่างกึ่งกลางบ้านฝอยลมกับบ้านท่าไร่ ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าต้องจอดซุ่มอยู่ที่ใดสักแห่งบริเวณใกล้แม่น้ำ พร้อมตีเส้นวางกำลังโดยรอบ และเชื่อหลังพระอาทิตย์ตกดิน ต้องมีการลำเลียงสิ่งผิดกฎหมายเข้ามา


จนกระทั่งเวลาประมาณสองทุ่ม กล้องกลางคืนก็ส่องเห็นเรือกีบติดเครื่องยนต์ ล่องมาจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่ติดเครื่อง ใช้วิธีพายเข้ามาโดยมีชาย 3 คนนั่งอยู่ในเรือ เมื่อเทียบฝั่งก็ช่วยกันแบกวัตถุต้องสงสัยวางไว้ ในขณะที่อีกคนหนึ่งได้แบกขึ้นไปบนถนนคอนกรีตเลียบแม่น้ำโขง เดินข้ามไปถนนอีกฝั่ง ปรากฏว่ารถกระบะที่หายไปจอดซุ่มอยู่ในป่าแถวนั้น ก่อนจะเปิดประตูด้านหลังยัดกระสอบสีดำเข้าไป เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนเข้าจับกุม คนร้ายทั้งสามรีบวิ่งไปขึ้นเรือสตาร์ทเครื่องออกไปกลางแม่น้ำทันที




จากนั้นได้ตรวจสอบริมแม่น้ำโขงบริเวณเรือจอดเทียบท่า พบถุงพลาสติกสี่เหลี่ยมสีดำ 6 กระสอบ และในรถกระบะอีกหนึ่ง รวมเป็น 7 กระสอบ จึงนำของกลางทั้งหมดไปตรวจสอบออย่างละเอียดอีกครั้งที่ สน.เรือบ้านแพง ต.นาเข อ.บ้านแพง จ.นครพนม ทราบว่า 4 กระสอบเป็นยาบ้าห่อด้วยกระดาษไขสีเหลือง ประทับตรา 999 และมีรูปดาว 5 ดวงสีน้ำเงินอยู่ด้านบน จำนวน 42 มัด ๆ ละ 40,000 เม็ด รวมเป็น 1,680,000 เม็ด ส่วนอีก 3 กระสอบเป็นยาไอซ์น้ำหนักห่อละ 1 กิโลกรัม บรรจุในห่อชาจีน จำนวนกระสอบละ 45 ห่อ รวมเป็น 135 ห่อ/กิโลกรัม จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะส่งมอบของกลางทั้งหมดให้ สภ.เหล่าหลวง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ รับไปดำเนินคดีต่อไป




ทั้งนี้ยาบ้าที่พบเป็นตราสัญลักษณ์หมายเลข 999 มีรูปดาว 5 ดวง เป็นของชนกลุ่มน้อยว้าใต้ มีโรงงานและแหล่งผลิตอยู่ที่เมืองยอน ประเทศเมียนมา มีตราสัญลักษณ์เป็นรูป ถือเป็นตราที่มีสูตรความเข้มข้นของส่วนผสมมากกว่ายาบ้าชนิดอื่น จัดเป็นยาเสพติดเกรดเอและมีราคาแพง ในการตรวจยึดพบว่าเป็นยาบ้าชนิดใหม่ มีสีสวยสดใส เพราะตัวยาเมื่ออยู่ในความมืด จะเรืองแสงระยิบระยับเป็นประกาย กำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ค้าและผู้เสพ เนื่องจากออกฤทธิ์รุนแรงกว่าปกติ และมีชื่อเรียกเฉพาะว่ายาบ้าฟรุ้งฟริ้ง และการเรืองแสงในที่มืดได้นั้น มีสัดส่วนประกอบด้วยอะไรบ้าง ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการพิสูจน์ นอกจากนี้ยังตกแต่งกลิ่นวานิลลา กล้วยหอม และสตรอเบอร์รีอีกด้วย ราคาอยู่ที่เม็ดละ 150-250 บาท คิดราคากลางเม็ดละ 200 บาท จำนวน 1,680,000 เม็ด เป็นเงิน 336,000,000 บาท






ส่วนยาไอซ์จำนวน 135 ห่อ ๆ ละ 1 กิโลกรัม จะแพร่อยู่ในสถานบันเทิงกลุ่มไฮโซ ราคาห่อละประมาณ 300,000 บาท เป็นเงิน 40,500,000 บาท คิดมูลค่ารวม 376,500,000 บาท สันนิษฐานว่าชนกลุ่มน้อยทั้งว้าเหนือและว้าใต้ ต้องการเงินไปซื้ออาวุธไว้สู้กับทหารเมียนมา จึงคิกออฟยาเสพติดพร้อมกันทั้งเฮโรอีน ยาไอซ์ และยาบ้า ตลอดแนวแม่น้ำโขงชายแดนอีสานเป็นรายวัน แค่สัปดาห์เดียวหน่วยงานความมั่นคง 3 จังหวัด (บึงกาฬ นครพนม มุกดาหาร) สามารถตรวจยึดยาบ้าได้แล้วประมาณ 20 ล้านเม็ด


ส่วนรถกระบะที่ใช้เป็นพาหนะ มีทะเบียนถอดไว้ในเบาะหลัง เป็นกรรมสิทธิ์ของบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง โดยมีชื่อ น.ส.ประภา (สงวนนามสกุล) เป็นคน อ.นาแก จ.นครพนม เป็นผู้ครอบครอง