"โกทร" พูดครั้งแรก หลังถูกจับ ปมดับ "สจ.โต้ง" พร้อมเผยถึงชนวนเหตุ และคนลงมือลั่นไกที่แท้จริง ขณะที่ บิ๊กอ้อ เชื่อวางแผนไว้ก่อน
13 ธ.ค. 2567 จากเหตุ ยิง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ปราจีนบุรี เสียชีวิต ในบ้านพักบริเวณถนนวัดโรมันอุทิศ ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ของ น.ส.กนกวรรณ วิลาวัลย์ อดีต รมช.ศึกษาธิการ ลูกสาว นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อคืนวันที่ 11 ธ.ค. 2567 โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุม นายสุนทร หรือ โกทร พร้อม นายธนศรัณย์กรณ์ (กอล์ฟ) , นายศักดิ์สิทธิ์ (ตูน) กับพวก รวม 7 คน พร้อมของกลาง อาวุธที่ก่อเหตุปืน 9 มม. 1 กระบอก และอาวุธปืนลูกซอง 1 กระบอก มาดำเนินคดี ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และ ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ล่าสุด ในวันนี้ (13 ธ.ค. 2567) พนักงานสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี คุมตัว โกทร กับพวก รวม 7 คน เข้าฝากขังที่ ศาลจังหวัดปราจีนบุรี โดยศาลอนุญาตให้ฝากขังได้ อย่างไรก็ดีศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว ทั้งหมดจึงถูกส่งตัวไปควบคุมที่เรือนจำจังหวัดปราจีนบุรี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่พนักงานสอบสวนคุมตัว ผู้ต้องหาทั้งหมดไปฝากขังที่ศาลนั้น โกทร ให้สัมภาษณ์ครั้งแรกถึงความสัมพันธ์กับ สจ.โต้ง โดยบอกว่า “รักเป็นลูกหลาน” พร้อมยืนยันว่า "คุยเคลียร์เรื่องการลงสมัครสมาชิก อบจ.กันเรียบร้อยแล้ว"
เมื่อถามว่า โกทร วางแผนเป็นคนสั่งฆ่าหรือไม่ โกทร หันมาตอบทันมีว่า “ใครจะฆ่าเขาทำไม บ้าบอเหรอ ผมช่วยเขาตลอด” ส่วนที่ตำรวจตั้งข้อหาร่วมกันฆ่านั้น โกทร บอกว่า “ไม่เป็นไร”
ทั้งนี้ ระหว่าง โกทร กำลังเดินขึ้นรถตู้ นักข่าวถามย้ำว่า สรุปแล้ว สจ.โต้ง ทะเลาะกับใคร ทะเลาะกับกอล์ฟจริงหรือไม่ โกทร ตอบสั้น ๆ เบาๆว่า “ใช่”
คุม 3 สมุนชี้จุดเกิดเหตุประกอบสำนวนคดี
ช่วงเที่ยงวันนี้ ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาในคดีร่วมกันฆ่า สจ.โต้ง 3 คน คือ นายธนภัทร , นายอภิสิทธิ์ และสิทธิชัย ลูกน้องของโกทร เดินทางมายังบ้านโกทร ซึ่งเป็นที่เกิดเหตุคนยิง“สจ.โต้ง” เสียชีวิตภายในบ้าน
เมื่อมาถึงตำรวจกองปราบปรามและตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี นำผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งจุดแรกคือบริเวณทางเข้าบ้านภายในรั้วที่สื่อมวลชนไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ โดยในระหว่างที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหา สื่อมวลชนที่เฝ้าสังเกตการณ์ได้พยายามสอบถามว่า ‘ใครเป็นคนยิง และ ใครเป็นคนใช้อาวุธปืนลูกซองยิง ตลอดจนปืนสั้น’
จุดที่ 2 คือบริเวณห้องโถงกลางบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่ สจ.โต้ง นอนเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณบันไดทางขึ้นชั้น 2 ของบ้าน
จุดที่ 3 ได้คุมตัวผู้ต้องหาขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้าน ซึ่งทั้ง 3 จุดมีเพียงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องอยู่ด้านในเท่านั้นไม่มีสื่อมวลชนเข้าไปร่วมสังเกตการณ์
ตำรวจใช้เวลาในการคุมตัวผู้ต้องหาชี้จุดเกิดเหตุนานกว่า 1ชั่วโมง จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายกลับไปควบคุมที่ สภ. ปราจีนบุรี เพื่อเตรียมฝากครั้งต่อศาลช่วงบ่ายวันนี้
โดยทั้ง3คนที่ มาชี้จุดเกิดเหตุ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม เป็นคนสอบปากคำ จึงต้องการความชัดเจนในสำนวนจึงพามาชี้จุดเกิดเหตุดังกล่าว
บิ๊กอ้อ เผย สจ.โต้ง ถูกไล่ยิงจากชั้นสอง เชื่อวางแผนไว้ก่อน
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี หรือ บิ๊กอ้อ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้บินด่วนโดยเฮลิคอปเตอร์มายังกองบังคับการ จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อมาติดตามคดีด้วยตนเองและลงตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง
ต่อมาเมื่อช่วงบ่าย พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และประชุมร่วมกับตำรวจในพื้นที่ ว่า จาการสอบสวนพบว่าเริ่มยิ่งกันที่บริเวณชั้น 2 ของบ้าน ต่อไปทาง สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยาน ส่วนคนที่ยิงนั้น อยู่ในสำนวนแล้ว
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า บ้านที่เกิดเหตุมีอยู่ 3 ชั้น พบกระสุนตกหลายจุด โดยเฉพาะในชั้นล่างของบ้าน เหตุเกิดเริ่มจากชั้นสอง โดยพบร่องรอยของการถูกทำร้าย พบร่องรอยการยิง การใช้อาวุธ ส่วนชั้นล่างเจอเศษชิ้นส่วนกระสุนอยู่เป็นจำนวนมาก จากที่ดูพยานหลักฐาน น่าเชื่อว่า มีการตามมายิงข้างล่างอีก
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ส่วนวิถีกระสุน เจอทั้งยิงในบ้านและนอกบ้าน ส่วนวงจรปิดนั้น รอให้ สพฐ.สรุปว่า วงจรปิดใช้งานได้หรือไม่ ส่วนข้อถามว่า มีการวางแผนไว้ก่อนหรือไม่ ตนมองว่า เชื่อว่ามีการวางแผนมาก่อน มีการแบ่งหน้าที่ มีการวางแผน ทั้งนี้ยังไม่ฟันธงว่าใครเป็นคนยิง โดยมอบหมายให้แจ้งข้อหาเพิ่งเติมไปว่า ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนการบงการ ต้องมาดูสำนวนการสอบสวนว่า คนบงการนั้นมีคนเดียว หรือ มีทีมงานด้วย
พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ทั้งนี้ มองว่าภูธร ภาค 2 ทำดีอยู่แล้ว แต่กองปราบก็อยู่ระหว่างพิจารณา นำเรื่องมาส่วนกลางหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุไม่มี แต่ด้านนอกมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ 4-5 ราย ซึ่งขณะนี้มอบหมายให้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว ว่า เข้าไปดูแลความปลอดภัยของใคร ดูความปลอดภัยของบ้าน หรือของผู้ตาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีการพยายามทำลายหลักฐานหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า ดูจากเบื้องต้น พบว่ามีความพยายามที่จะเปลี่ยนแปลงสถานที่บางอย่าง แต่จากการสอบปากคำโดยละเอียด มั่นใจในการสอบสวนว่าสามารถเดินไปได้ถูกทิศทาง
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อนหรือไม่ พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า จากการประชุม เชื่อว่าไม่ได้เป็นเหตุฉับพลันในวันนั้น มีการวางแผนล่วงหน้ามาก่อน ใครจะพูดอะไรเรารับฟัง เชื่อหรือไม่เชื่ออยู่ที่พยานหลักฐาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า คนยิงมีความรู้ความสามารถในเรื่องนี้ พล.ต.ท.อัคราเดช กล่าวว่า คนใช้ปืนเป็นต้องมีความรู้ต้องยับยั้งได้ คือ นัดแรกต้องหยุดก่อน นัดต่อไปก็ตามยิง