ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบคู่รักอดีตพระ LGBTQ เปิดบัญชีม้า เช่ารถเชิดหนี จากอีสานกบดานราชบุรี
วันที่ 15 ธ.ค. 2567 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ได้ร่วมกันจับกุม 1. นายอนุพงษ์ อายุ 24 ปี เป็นจำเลยตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น โดยกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนผู้อื่นในการกระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและเปิด หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้ เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ใรการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เทคโนโลยี ” ส่งศาลจังหวัดขอนแก่น 2. นายอนุสรณ์ อายุ 24 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงขอนแก่น โดยกล่าวหาว่า “ยักยอกทรัพย์” ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น และ 3. นายจักรพันธ์ อายุ 20 ปี เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี โดยกล่าวหาว่า “ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” ส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลลำผักชี โดยจับได้ริมถนนเพชรเกษม ตำบลท่าราบ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี
พฤติการณ์ สืบเนื่องจากนายอนุพงษ์ และนายอนุสรณ์ ได้บวชอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ในตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม จึงทำให้ชาวบ้านละแวกใกล้เคียงแจ้งเรื่องร้องทุกข์ให้ตรวจสอบพฤติการณ์ดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ได้ตรวจสอบทราบว่า นายอนุพงษ์และนายอนุสรณ์มีหมายจับ และได้สืบสวนทราบว่า ผู้ต้องหาได้ไหวตัวและหลบหนีออกจากวัดไป
จากนั้นสืบสวนกระทั่งตามจับกุมตัวได้ที่ อ.เมือง จ.ราชบุรี เนื่องจากนายอนุพงษ์ จำเลยหรือผู้ต้องหาที่ 1 เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ปัจจุบันศาลได้มีคำพิพากษาลับหลังจำคุก 1 ปี 6 เดือน และหมายจับของศาลจังหวัดสงขลา เนื่องจากได้รับจ้างเปิดบัญชีและมีเงินหมุนเวียนกว่าแสนบาท ผู้ต้องหาที่ 2 นายอนุสรณ์ เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลแขวงขอนแก่น ผู้ต้องหาได้เช่ารถจักยานยนต์และไม่ได้นำรถมาส่งคืนตามกำหนดไว้ ได้อ้างว่ารถเกิดอุบัติเหตุ นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ผู้ต้องหาที่ 3 นายจักรพันธ์ มีหมายจับ 3 หมาย เป็นบุคคลตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ศาลจังหวัดเพชรบุรี และศาลจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากได้การชักชวนจากนายอนุพงษ์ ให้เปิดบัญชี และหลอกตุ๋นขายอุปกรณ์และโทรศัพท์แต่ไม่ได้มีการส่งของให้ จึงทำให้มีการร้องทุกข์ในหลายพื้นที่
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ส.ทล.2 กก.8 บก.ทล. ได้สืบสวนลงพื้นที่ตำบลโนนสมบูรณ์ อำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ทราบว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดได้หลบหนีออกจากวัดไปแล้ว จึงได้สืบสวนข้อมูลเพิ่มเติม กระทั่งทราบว่า ได้หลบหนีมาพักอาศัยรับจ้างตัดอ้อยในพื้นที่ตัวเมืองราชบุรี จึงนำกำลังตรวจสอบเฝ้าตามยุทธวิธี กระทั่งพบผู้ต้องหาขับรถยนต์ส่วนตัวออกมาจากไร่อ้อย โดยมีนายอนุสรณ์เป็นผู้ขับขี่และนายอนุพงษ์โดยสารด้านข้างคนขับ จึงเรียกสอบถาม ขณะนั้นผู้ต้องหาพยายามจะขับรถหลบหนี แต่ชุดจับกุมได้นำรถจอดขวาง และได้แสดงตัวพร้อมแสดงหมายจับให้ทราบ
ขณะตรวจสอบ พบชายต้องสงสัยยืนร้องไห้และท่าทางมีพิรุจ ชุดจับกุมจึงสอบถามมว่ามีความเกี่ยวข้องหรือเป็นอะไรกับผู้ต้องหาทั้งสอง ชายดังกล่าวได้แจ้งว่าเป็นญาติ เจ้าหน้าที่ชุดจับจึงขอตรวจสอบบัตรประจำตัวประชาชน ทราบชื่อคือนายจักรพันธ์ เมื่อตรวจสอบปรากฏว่ามีหมายจับถึง 3 หมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงนำตัวนายอนุพงษ์ส่งศาลจังหวัดขอนแก่น นายอนุสรณ์ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และนายจักรพันธ์ส่งพนักงานสอบสวน สน.ลำผักชี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป