หนุ่มโพสต์หางานแฉหมดเปลือก! ถูกชวนไปทำงานบ่อนฝั่งปอยเปต ที่แท้เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์ หลอกเปิดบัญชีม้า ใช้เส้นทางไหนพาข้ามไปปอยเปต เพื่อสแกนหน้า ถ้าไม่ทำจะถูกทำร้าย พบคนไทยนับร้อย
วันที่ 16 ธ.ค. 2567 ที่สำนักงานเพจสายไหมต้องรอด มีชายชาวนครปฐม และแฟนสาว เข้าร้องทุกข์กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด กรณีโพสต์หางานในเพจจัดหางาน แต่ถูกแก๊งคอลเซนเตอร์ชักชวนไปทำงานอ้างว่าที่บ่อนกาสิโน ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ว่างานดี เงินดี ถูกกฎหมาย ผู้เสียหายหลงเชื่อจึงตัดสินใจไปทำงาน
ผู้เสียหาย เล่าว่า ตกงานตั้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา จึงได้โพสต์หางานเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ที่ผ่านมา จากนั้นก็มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ติดต่อมาชวนไปทำงานกาสิโนที่ปอยเปต บอกว่าเป็นงานถูกกฎหมาย ทำงาน 5 วัน จะได้ค่าจ้าง 35,000-37,000 บาท และค่าเปิดบัญชีธนาคารอีก 4,000 บาท
จนกระทั่งวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา จึงตกลงเดินทางไปทำงาน เมื่อไปถึงก็พบว่านายจ้างเป็นคนจีน ถูกยึดโทรศัพท์มือถือ หลอกให้เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ อ้างเอาไว้สำหรับแลกชิปเว็บพนันให้แก่ลูกค้า แต่กลับถูกนำไปใช้เป็นบัญชีม้า ทุกครั้งที่หลอกเงินได้ เจ้าของบัญชีจะถูกบังคับให้มานั่งสแกนใบหน้าเพื่อถอนเงิน โอนเงิน หากไม่ทำจะถูกซ้อม ทุบตี ถูกชอร์ตไฟฟ้า ทรมานต่างๆ นานา จะปล่อยตัวกลับก็ต่อเมื่อบัญชีม้าถูกอายัดจนหมดแล้วไม่สามารถใช้งานได้ สุดท้ายได้ค่าจ้างเพียง 4,000 บาท ไม่ได้ได้ค่าจ้างตามที่ตกลงไว้ตอนแรก
เมื่อไปถึงยังพบอีกว่า มีคนไทยกว่าร้อยคนเป็นบัญชีม้า และมีคนไทยอีกหลายคนทำหน้าที่เป็นคอลเซ็นเตอร์ มีคนกัมพูชา 2 คนคอยควบคุมคนไทยที่เป็นบัญชีม้าด้วย และมีคนไทยเป็นเอเย่นต์ในการติดต่อหาผู้เสียหาย
แต่เรื่องไม่จบแค่นั้น ระหว่างที่ผู้เสียหายนครปฐมอยู่ที่ปอยเปต ถูกยึดโทรศัพท์มือถือ ทำให้ครอบครัวและแฟนสาวไม่สามารถติดต่อได้ แฟนสาวจึงไปค้นหาข้อมูลต่างๆ จนได้เบอร์โทรศัพท์ของแก๊งคอลเซนเตอร์ คนที่มาติดต่อชักชวนให้ไปทำงาน แฟนสาวจึงโทรติดต่อไปที่เบอร์ดังกล่าว มีผู้ชายรับสายจึงสอบถามว่าแฟนตนเองหายไปไหน ทำไมติดต่อไม่ได้ ผู้ชายคนที่รับสายได้ออกอุบายว่า ตอนนี้แฟนติดผู้หญิง อยู่ที่ห้องกับผู้หญิงในจังหวัดนครปฐมงาน การไม่สนใจทำ ถ้าไม่เชื่อจะพาไปดู แฟนสาวจึงขอให้ชายคนดังกล่าวพาไปดู เมื่อไปถึงไม่พบแฟนหนุ่ม แต่กลับถูกชายคนดังกล่าวผลักเข้าไปในห้องแล้วล่วงละเมิดและทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุแฟนสาวไม่กล้าไปแจ้งความ เนื่องจากถูกชายแก๊งคอลเซนเตอร์คนก่อเหตุดังกล่าวขู่ว่า ถ้าไปแจ้งความแฟนจะถูกฆ่าตายที่ปอยเปต ต่อมาวันที่ 15 ธันวาคม บัญชีม้าของผู้เสียหายถูกอายัดหมดแล้ว คนจีนจึงปล่อยตัวกลับมา จึงทำให้ฝ่ายชายทราบเรื่องราวทั้งหมด จึงติดต่อเพจสายไหมต้องรอดเพื่อขอความช่วยเหลือเรื่องที่แฟนสาวถูกกระทำ และพร้อมให้ข้อมูลกับตำรวจเกี่ยวกับสถานที่ตั้งของแก๊งคอลเซนเตอร์แก๊งนี้
นายเอกภพ เปิดเผยว่า ตอนนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีการปรับรูปแบบในการหาบัญชีม้า จากเดิมที่จ้างให้เปิดบัญชี แต่เมื่อกฎหมายมีบทลงโทษกับบัญชีม้า จึงทำให้จ้างบัญชีมาได้ยากขึ้น เลยหาวิธีในการหลอกเหยื่อคนไทยว่าไปทำงาน แต่ไม่หลอกให้เปิดบัญชีม้าแทน เสมือนเป็นโรงงานผลิตบัญชีม้า จึงฝากเตือนประชาชนให้ระวังอย่าหลงเชื่อมิจฉาาชีพที่ชวนไปทำงานในลักษณะดังกล่าว เพราะอาจถูกหลอกให้ไปเป็นเหยื่อได้ หลังจากถูกปล่อยตัวกลับมา สิ่งที่ตามมาก็คือต้องถูกดำเนินคดีด้วย
จากนี้ จะประสานไปยังผู้กำกับการ สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อติดตามนายหน้าคนที่ชักชวนชายผู้เสียหายไปทำงาน และหลอกลวงแฟนสาวของผู้เสียหายไปล่วงละเมิดมาดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมกับจะพาผู้เสียหายไปกระทรวงยุติธรรม เพื่อขอเข้ารับการคุ้มครองพยาน