สาวพนักงานร้านอาหารวัย 30 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ถูกเจ้าของร้านส่งภาพเซ็กส์ทอย และคลิปร่วมเพศขอมีอะไรด้วย และไม่ใช่ครั้งเดียว พักหลังหนักขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่อง ตัดสินใจลาออกก่อนนำหลักฐานข้อความแชต พร้อมทั้งคลิปและภาพที่ถูกเจ้าของร้านส่งมาคุกคามทางเพศ เข้าแจ้งความกับตำรวจ ขณะที่เจ้าของร้านข้อไม่ให้ข้อมูล ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการของกฏหมาย

สาวพนักงานร้านอาหารวัย 30 ปี เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ถูกเจ้าของร้านส่งภาพเซ็กส์ทอย และคลิปร่วมเพศขอมีอะไรด้วย และไม่ใช่ครั้งเดียว พักหลังหนักขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่อง ตัดสินใจลาออกก่อนนำหลักฐานข้อความแชต พร้อมทั้งคลิปและภาพที่ถูกเจ้าของร้านส่งมาคุกคามทางเพศ เข้าแจ้งความกับตำรวจ ขณะที่เจ้าของร้านข้อไม่ให้ข้อมูล ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการของกฏหมาย

 

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นหญิงสาววัย 30 ปี พนักงานร้านอาหารชื่อดังในเมืองขอนแก่น โพสต์ภาพข้อความแชทซึ่งถูกเจ้าของร้านเป็นชายอายุประมาณ 55 ปี ส่งภาพเซ็กส์ทอยมาให้ พร้อมขอให้พนักงานสาวรายนี้สวมใส่เข้าไปเพื่อที่เจ้าของร้านจะกดใช้งานจากที่หนึ่งเข้ามาที่ตัวเครื่องที่พนักงานสาวสวมใส่เอาไว้ พร้อมทั้งบอกว่าอย่าเขินอายเป็นเรื่องธรรมชาติ และยังมีการส่งภาพของลับของตัวเองมาให้อีก พร้อมทั้งบรรยายลักษณะของลับของตัวเองอย่างไม่เหมาะสมในทางเพศ และอวดอ้างสรรพคุณว่าของตัวเอง อร่อยนะ ใครเห็นก็อยาก แถมยังมีการถามพนักงานสาวรายนี้ด้วยว่า ที่ปฏิเสธตัวเองเพราะว่ามันผิดศีลหรอหรือเพราะอะไร โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ด้วยว่า “มาเตือนภัยคนที่จะทำงานร้านดังโซนริมบึงแก่น เราเป็นพนักงานร้าน ส.น.ย ทำงานตั้งแต่12 มิ.ย 67เกิดเรื่องราวมากมายไม่เว้นเเต่ละวัน ตลอดระยะเวลาที่ทำงาน เราเคยขอลาออกแต่ไม่อยากเรา เราก็อยู่ทำงานต่อ เราอยู่ต่อไม่ถึงเดือนถึงมีปัญหาเยอะแยะมากมายมีการทำร้ายร่างกายพนักงานผู้ที่เป็นเพื่อนกับเจ้าของร้าน เราเห็นทุกเหตุการณ์ทั้งโดนตบโดนบีบคอ  เราสงสารจนร้องไห้หาคนมาช่วยพี่คนนั้น  สภาพจิตใจตอนนั้นคือกลัวมาก  ว่าวันหนึ่งจะเกิดขึ้นกับเรา  เเละก็เกิดขึ้นจริงๆเราโดนเขาโยนกะทะเล็กที่สำหรับทำไข่กะทะหน้าเราไปแค่นิดเดียว เราเลยตัดสินใจขอลาออก  เพราะมันต้องเเจ้งล่วงหน้า 1 เดือน เราก็ทำมากฎที่บอกบอก ยะระเวลาใน 15 วันแรกเราโดนด่าสารพัดทั้งว่าเราโง่ไม่มีสมอง ก็อดทนเพราะเรายังมีภาระอยู่ที่เครียดที่จะต้องไปหางานใหม่สำรอง  เขาเห็นเราเครียดเขาเลยถามเป็นอะไรอีกเราก็เครียดเรื่องงานเรื่องหาเงินใช้หนี้ เขาถ้าพี่ช่วยตรงนี้ช่วยทำงานต่อได้มั้ยระให้ตั้งใจทำงาน เราอดทนมาตั้งเยอะทำมั้ยจะไม่ได้วะ ตอนนั้นคิดแบบนี้ เราก็ทำต่อไม่ออก พอถึงตังออกแกก็ทำตามที่แกบอกไว้ว่าจะช่วยเราก็รับปากว่าจะทำงานเเละที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทน พอช่วยจ่ายไป 2-3 ครั้งเริ่มพูดเรื่อยเปื่อยกายแล้ว เราเลยว่าถ้าจะคิดแบบนั้นหยุดช่วยได้เลยนะคะเพราะมันจะไม่มีทางเกินขึ้นแน่ ก็หยุดพูดไป 2-3 วันกลับมารูปแบบใหม่ชวนไปนั่งดูการ ส.ว กันที่ โรมเเรมเเห่งในเมืองขอนแก่น หลังจากนั้นก็โดนเราโดนคุกคามด้วยคำพูดต่างๆนาๆ พร้อมภาพประกอบเเทบจะทุกเช้าที่เราทำงานไม่ก็ 2-3 จะส่งแต่รูปของลับตัวเองมาจนมาวันนี้เราไม่ไหวจริงๆ ร้านมีปัญหาลูกค้าคอมเพลนอาหาร เขากลับด่าพนักงานไม่หยุด บอกทำงานกันเเบบ ไม่มีสมอง เราที่เจออะไรมาตลอดก็หมดความอดทนจึงได้ขอลาออก  เเต่เขาไม่จบ จะตามกลับไม่ทำ ให้คนที่ร้านพาออกมาถึงร้านแฟน ถึงหอ เเต่ดีที่ไม่เคยมาเคยที่ทำงานมาหอ เราคิดว่าเรื่องนี้มันหนักเกินไป เเละไม่อยากให้ใครต้องมาเจอเหมือนเรา เรากำลังจะมาแจ้งความเพราะรู้สึกไม่ปลอดภัยค่ะ อยากจะเตือนคนที่จะไปทำงานไว้ เราเป็นผู้หญิง มีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ไม่ใช่ว่าสนิทกันจนเลยเถิดด้วยคำพูดแบบนี้  ไม่แปลกใจที่ทำไมพนักงานถึงพากันลาออก เพราะถูกแกคุกคามตลอด”

 

ซึ่งภายหลังผู้โพสต์โพสต์ลงกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “ขอนแก่นร้องเรียนอะไรบอกไว้ที่นี่” ก็มีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และมีหลายคนที่ออกมาคอมเมนต์ในทำนองว่าตัวเองก็ถูกกระทำในลักษณะแบบนี้เช่นเดียวกัน และเกิดขึ้นมานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูด 

ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์ คือ น้องนัท อายุ 30 ปี (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) คนโพสต์ซึ่งเป็นนำพนักงานที่ร้าน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวภายหลังเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่นว่า ตนเองเป็นพนักงานที่ร้านทำงานมาได้ 5 เดือน ก็มีข่าวถึงพฤติกรรมของเจ้าของร้านเหมือนตามที่ตนเองโพสต์ ซึ่งตอนนั้นยยังไม่เกิดขึ้นกับตนเอง ตนเองก็คิดว่าจะลาออกดีหรือไม่ แต่พอมานั่งคิดแล้วก็ไม่ได้ตัดสินใจลาออกเพราะอายุก็เยอะแล้ว และมีภาระเยอะ จึงเลือกที่จะทำงานต่อไปโดยตัดความคิดที่ไม่ดีออกไป เพราะตนเองก็ไม่ได้สวยไม่ได้หุ่นดีคงไม่เกิดขึ้นกับตนเอง 

 

พอช่วง 2 เดือนก่อนที่ผ่านมา ตนเองเป็นเพื่อนกับเจ้าของร้านในเฟซบุ๊ก และจะเข้าไปดูสตอรี่ของเจ้าของร้านซึ่งจะลงเกี่ยวกับธรรมมะทุกๆเช้า ซึ่งก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะตนเองเข้าทำงานตอนเช้าก็จะเห็นพอดี พอมาวันหนึ่งเจ้าของร้านลงรูปภาพ 18+ ตนเองกดเข้าไปดูก็ตกใจแล้วรีบกดออกทันที เพราะรู้อยู่แล้วว่าเจ้าของร้านเป็นคนยังไง และมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวก็ปล่อยผ่านไปไม่ได้ใส่ใจ ซึ่งที่ผ่านมาตนเองก็ระวังตัวเองมาตลอด วันต่อมือเป็นการพลาดกดเข้าไปดูสตอรี่ของเจ้าของร้านอีกครั้ง ทางเจ้าของร้านได้ทักมาบอกว่า ดูสตอรี่พี่แล้วอย่าใจแตกนะ ถ้าสนใจจะพาไปเปิดโลก และพยายามพูดชักชวนไป แต่ตนเองก็ปฏิเสธไปว่าไม่ใช่ทางนี้ แต่เจ้าของร้านก็ยังทักมาอีกว่าให้ลองดู ก่อนที่วันต่อมา เจ้าของร้านจะส่งภาพ 18+ มาให้ดูในแชตหลายภาพทั้งภาพนิ่ง ทั้งคลิปวิดีโอ และยังบอกอีกว่าที่โรงแรมในขอนแก่นมีการนัดสวิงกิ้งกันจะพาไปดู โดยตนเองก็ได้ปฏิเสธอีกครั้งว่าไม่ใช่แนวนี้ และยืนยันไม่ไปโดยเด็ดขาด และได้เล่าให้แฟนฟังด้วย จึงตัดสินใจหางานใหม่ทำแต่ก็ยังทำงานที่ร้านเดิมเพื่อรอได้งานที่อื่นก่อน พอเช้าวันต่อมาเจ้าของร้านก็มาที่ร้านปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และช่วงสายส่งภาพของลับตัวเองมาให้ และบอกสรรพคุณของของลับตัวเองให้ฟังพร้อมถามว่าไม่อยากลองเหรอ  ซึ่งตนเองก็พยายามปล่อยผ่านมาตลอดและคิดว่าเจ้าของร้านอาจจะไม่ปกติเท่าไหร่ ซึ่งทุกครั้งที่เจ้าของร้านส่งภาพหรือคลิป 18+ มานั้น ตนเองจะให้แฟนและเพื่อนร่วมงานดูด้วยตลอดจะไม่ดูคนเดียว ทุกคนจะทราบพฤติกรรมของเจ้าของร้านคนนี้เหมือนกันทั้งหมด ซึ่งตนเองก็บอกเจ้าของร้านว่าไม่ใช่ทางนี้และขอตั้งใจทำงานก่อน 

 

จนผ่านไป 2 สัปดาห์ เจ้าของร้านเลิกส่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้มาให้ แต่หากวันไหนที่ร้านทำยอดได้เกิน 10000 บาท จะมีการกินดื่มกันที่ร้านเล็กๆน้อยๆ เพื่อเลี้ยงพนักงาน ซึ่งทุกครั้งที่มีการสังสรรค์กันนั้น เจ้าของร้านจะส่งข้อความมาหาทุกครั้งหลังจากทุกคนแยกย้ายกัน จะทักมาบอกว่าขอมีอะไรกับเรา อยายฃกมีอะไรกับเราด้วยทุกครั้ง พร้อมกับส่งภาพของลับตัวเองสำเร็จความใคร่มาให้ บอกว่าจะให้ค่าตอบแทนถ้ามาหาตอนนี้ ซึ่งตนเองก็บอกปฏิเสธไปว่าไม่ได้มาขายตัว มาทำงานเหมือนคนอื่น แต่เจ้าของร้านก็ขำมาเหมือนไม่รู้สึกอะไร ตนเองก็ทำได้แค่ปล่อยผ่านและทำงานต่อไป และพฤติกรรมแบบนี้ก็ไม่หยุดส่งมาให้ตลอดจนตนเองไม่กดเข้าไปอ่าน กระทั่งวันที่ 16 ต.ค.2567 ที่ผ่านมาก็ยังมีการส่งภาพของลับมาขอมีอะไรด้วย แต่ตนเองก็ไม่ได้เข้าไปดู ซึ่งเป็นการขอมีอะไรด้วยครั้งที่ 3 แล้ว พอตอนเช้าส่งรูปมาลักษณะเดิม ซึ่งตนเองก็ยังปล่อยผ่าน แต่พอช่วงสายมาเจ้าของร้านเรียกพนักงานทุกคนมาด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายต่างๆนาๆ หลังจากที่ถูกลูกค้าคอมเพลนให้ 1 ดาวเพราะทำอาหารช้า ตนเองจึงตัดสินใจลาออกทันที และมานั่งคิดนอนคิด 1 คืนว่าจะออกมาพูดเรื่องนี้ดีหรือไม่ แต่พอได้คุยกับพนักงานหลายคนซึ่งพร้อมใจจะลาออกจึงตัดสินใจออกมาโพสต์และเข้าแจ้งความกับตำรวจให้ตำรวจดำเนินคดีกับเจ้าของร้านในข้อหาที่เกี่ยวข้อง

 

น้องนัท บอกอีกว่า หลังจากลาออกทางเจ้าของร้านให้พนักงานในร้านพาขับรถตามหาตนเองทั่วเมืองขอนแก่น เพื่อจะตามกลับไปทำงาน ทั้งยังตามไปที่ทำงานของแฟนตนเองด้วย ยิ่งทำให้เกิดความกังวลว่าจะถูกตามคุกคามไม่หยุดหากยังอยู่ในขอนแก่น จึงได้เดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดทันที และยังไม่รู้ว่าจะกลับมาทำงานที่ขอนแก่นอีกหรือไม่ และสิ่งที่ต้องการในตอนนี้อยากให้ทางตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ช่วยเร่งดำเนินคดีกับเจ้าของร้านรายนี้ให้ด้วยเพราะตำรวจบอกว่ามีงานเยอะ และกลัวว่าจะหนีเพราะเจ้าของร้านไม่ได้มีพันธะอะไรที่ขอนแก่น ทราบว่ามีแฟนอยู่ที่ต่างจังหวัดก็คงจะหนีไปไม่กลับมาขอนแก่นอีก จึงอยากให้ทางตำรวจเร่งติดตามดำเนินคดีให้ และในส่วนของพฤติกรรมของเข้าของร้านนั้น ไม่ทราบว่าป่วยจิตเวชหรือป่วยทางจิตแบบไหนหรือไม่ ถ้าป่วยทางจิตก็ควรไปรักษา ตนเองจึงตัดสินใจแจ้งความและโพสต์เตือนในโซเชียลเพื่อไม่อยายกให้ใครต้องถูกกระทำเหมือนตนเองอีก

 

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านอาหารดังกล่าว โดยพบว่าที่ร้านล็อกกุญแจจาจกด้านนอกและติดป้ายว่าปิดให้บริการวันนี้ และจะเปิดให้บริการในวันพรุ่งนี้ โดยผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปที่เบอร์ของเจ้าของร้านถึงกรณีที่น้องนัทเข้าแจ้งความ โดยเจ้าของร้านบอกว่าให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย และไม่ขอให้ข้อมูลใดๆก่อนจะวางสายไป