"ทวี" เผยขั้นตอนเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ รับตัว "โกทร-พวก" เข้าคุมขัง เบื้องต้นยังไม่ได้รับการประสานจากตำรวจ
คืบหน้าเหตุ นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อคืนวันที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา ภายในบ้านพักของนาย นายสุนทร วิลาวัลย์ หรือโกทร นายก อบจ.ปราจีนบุรี
หลังจากที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มีคำสั่งให้โอนสำนวนคดีจาก สภ.เมืองปราจีนบุรี มายังกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) และเมื่อสำนวนถูกโอนมาอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปราม จึงมีแนวโน้มที่จะมีการนำตัว นายสุนทร และพวก มาคุมขังที่พื้นที่กรุงเทพมหานคร
ล่าสุดวันนี้ (21ธ.ค.67) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานการประสานจากกองปราบฯ ว่าจะมีการย้าย "โกทร" และพวก จากเรือนจำจังหวัดนครนายก มาคุมขังยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ในวันเวลาใด เพราะต้องรอกระบวนการของพนักงานสอบสวน และศาลก่อน แต่ถ้าเป็นคดีของกองบังคับการปราบปราม ซึ่งอำนาจของกองปราบฯ ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งอาจใช้เรือนจำจังหวัดนครนายกก็ได้
ซึ่งหากกองปราบฯ จะย้ายผู้ต้องหา มาคุมขังมาในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ก็จะใช้ เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนกระบวนการคุ้มครองความปลอดภัยระหว่างเคลื่อนย้ายตัวผู้ต้องขังจากเรือนจำไปอีกเรือนจำ ก็จะต้องมีการ จัดการพิเศษ ขอกำลังตำรวจสนับสนุน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งก็มีความเป็นได้ว่า โกทร และ พวกจะ ถูกคุมขังร่วมกัน
ชมคลิป : "โกทร" ได้พักโทษเหมือนคดี "ทักษิณ" ? "ทวี" มีคำตอบ..
นายทวี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกรณีที่นายสุนทร เป็นบุคคลสูงอายุ 85 ปี และมีโรคประจำตัว การพิจารณาให้ได้รับการพบแพทย์ หรือเข้ารับการรักษาพยาบาลโดยเร็ว ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของผู้บัญชาการเรือนจำที่จะพิจารณา เหมือนคดีของอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ทั้งนี้ การจะส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรักษาตัวภายนอกเรือนจำนั้น ผู้บัญชาการเรือนจำจะต้องเป็นคนที่อนุมัติออก แต่หมอต้องรับว่าป่วยจริงหรือไม่ หากป่วยไม่จริงก็ต้องส่งตัวกลับ
"สำหรับการพักการลงโทษ จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในกรณีของนายโกทรและพวก เพราะการพักโทษต้องเป็นผู้ต้องขังเด็ดขาดเท่านั้น ต้องมีคำพิพากษาศาลตัดสินเท่านั้น แต่ถ้าเป็นกรณีของการเจ็บป่วย เราสามารถส่งตัวผู้ต้องขังออกไปรับการรักษาตัวภายนอกเรือนจำได้ จะเป็นโรงพยาบาลที่อยู่ในแม่ข่าย อย่างเช่นโรงพยาบาลตำรวจ หรือโรงพยาบาลขนาดใหญ่ แต่ถ้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ สามารถรองรับได้ ก็ให้โรงบาลราชทัณฑ์รับดำเนินการดูแลเรื่องการพยาบาล" พ.ต.อ.ทวี ระบุ
ส่วนเงื่อนไขการเยี่ยมญาติ ราชทัณฑ์มีมาตรฐานเดียวกัน เพราะเรือนจำไม่ใช่คู่ขัดแย้ง ดังนั้น การเยี่ยมญาติเป็นไปตามหลักเกณฑ์ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี มีความจำเป็นต้องต่อสู้คดี จึงต้องมีการพบทนายความและได้พบบุคคลที่สามารถให้ข้อมูล