สร้างกุศลยิ่งใหญ่! หนุ่มโปรแกรมเมอร์วัย 42 ปี เสียชีวิต ญาติบริจาคอวัยวะช่วยต่อ 4 ชีวิต
วันที่ 25 ธ.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้มีผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ นายชวลิต เอี่ยมสะอาด อายุ 42 ปี ชาว อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ และญาติได้บริจาคอวัยวะให้กับสภากาชาดไทย โดยมี แพทย์หญิงศรีสุดา ทรงธรรมวัฒน์ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เป็นตัวแทนมอบประกาศเกียรติคุณและหรีดเคารพศพ โดยมีแม่และน้องสาวของผู้เสียชีวิต เป็นผู้รับมอบ
นางสาวเกศินี เอี่ยมสะอาด น้องสาวของผู้เสียชีวิต อายุ 37 ปี เปิดเผยว่า พี่ชายของตนเองทำงานเป็นโปรแกรมเมอร์ให้กับบริษัท ปตท. โดยทำงานอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากพี่ชายมีโรคประจำตัวคือโรคความดันสูง ในรุ่งเช้าเวลาประมาณตี 5 ของวันที่ 23 ธ.ค.2567 พบว่าพี่ชายของตนเองนอนฟุบอยู่หน้าห้องน้ำ จึงได้โทรแจ้ง 1669 เพื่อนำไปรักษาที่โรงพยาบาลบึงสามพัน และได้ส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แต่แพทย์ได้แจ้งว่าพี่ชายมีภาวะสมองตาย ซึ่งในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว และได้มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่น สำหรับตนเองเห็นดีด้วยและเข้าใจถึงโครงการนี้ดี เพราะตนเองก็แจ้งความจำนงในการบริจาคอวัยวะของตนเองไว้กับสภากาชาดไทยแล้วด้วย แต่ก็ต้องปรึกษาภรรยาและญาติๆ ซึ่งทุกคนก็เห็นดีด้วย เพราะพี่ชายเป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว และครั้งนี้ถือว่าเป็นการทำบุญครั้งยิ่งใหญ่ของพี่ชาย เพราะอวัยวะที่บริจาคสามารถนำไปช่วยชีวิตผู้อื่นได้อีกหลายคน
ทางด้าน แพทย์หญิงศรีสุดา ทรงธรรมวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า คนไข้มาด้วยอาการเลือดออกในสมอง ซึ่งแพทย์ก็ได้ทำการดูแลรักษาอย่างเต็มที่ แต่ต่อมาคนไข้มาอาการสมองตาย ในทางการแพทย์ถือว่าเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่จึงได้ไปพูดคุยถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งญาติก็ยินดีที่จะบริจาค โดยอวัยวะที่บริจาคได้ประกอบด้วย ไต 2 ข้าง ดวงตา 2 ข้าง ซึ่งสามารถนำไปช่วยให้บุคคลอื่นได้มีชีวิตใหม่ได้อีกถึง 4 คน ถือว่าเป็นมหาทานมหากุศลอันยิ่งใหญ่ในการให้ชีวิตผู้อื่น และเชื่อว่าผลบุญในครั้งนี้จะส่งผลให้ผู้บริจาคอวัยวะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนชาวเพชรบูรณ์ และชาวไทย แสดงเจตจำนงในการที่จะบริจาคอวัยวะ ได้ที่โรงพยาบาลทุกแห่งทั่วประเทศ
ขณะที่ พระมหาภาคภูมิ ภัททเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุพระอารามหลวง ซึ่งได้เดินทางมารับกิจนิมนต์รับบาตร เนื่องในวันปีใหม่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ได้กล่าวสัมโมทนียคาถาว่าคนเราถ้าเสียชีวิตแล้วเผาทิ้งก็จบเลยไร้ประโยชน์ แต่ถ้าได้เอาร่างกายมาเป็นประโยชน์กับคนต่อๆไปถือว่าหัวใจเขายิ่งใหญ่มาก