คนงานเมียนมาผงะ พบโครงกระดูกมนุษย์ไร้หัว ห่อผ้านวมและมัดด้วยเชือกไนล่อนแน่น หมกซ่อนอยู่ใต้โคนต้นปาล์มน้ำมัน อ.เมือง จ.ชุมพร รีบแจ้งเจ้าของสวนก่อนแจ้งตำรวจตรวจสอบ พบชุดบอดี้สูทสายเดี่ยวผู้หญิง กางเกงเลกกิ้งและเสื้อคลุม คาดว่าถูกฆ่าอำพรางจากที่อื่น เสียชีวิตมาแล้วนับปี

วันที่ 26 ธันวาคม 2567 มีรายงานว่า ช่วงเย็นวานนี้ ร.ต.อ.ปฐมพงษ์ ชุมมาก พนักงานสอบสวน สภ.บ้านวิสัยเหนือ จ.ชุมพร ได้รับแจ้งว่ามีคนพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในสวนปาล์มแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมด้วย พ.ต.ท.วิทยา จันทร์นุ้ย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.บ้านวิสัยเหนือ ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์เขตวิสัย รุดตรวจสอบ




จุดเกิดเหตุที่พบโครงกระดูกปริศนาอยู่ภายในสวนปาล์มน้ำมันส่วนบุคคล ริมถนนคอนกรีต ถ้ำเพลิงซอย 1 ห่างจากถนนสายเอเชีย 41 ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร ใต้กองทางปาล์มน้ำมันที่กองทับถมกันพบผ้าห่อนวนผืนใหญ่ผูกด้วยเชือกในล่อนสีแดง แกะดูพบเป็นโครงกระดูกมนุษย์หลายชิ้นบางส่วนก็มีเศษกระดูกกระจัดกระจายอยู่ใกล้กัน แต่ไม่พบส่วนกะโหลกศีรษะ




เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและแพทย์จึงรวบรวมกระดูกที่พบมาประติดประต่อและวัดความสูง และยังมีเสื้อผ้าเป็นชุดบอดี้สูทสายเดี่ยวผู้หญิง 1 ตัว กางเกงขายาวเลกกิ้งผู้หญิง 1 ตัว และเสื้อคลุม 1 ตัว ซึ่งทั้งหมดอยู่ในสภาพเก่าเจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วนานนับปี


สอบถามนายณัฐวุฒิ อายุ 28 ปี หัวหน้าดูแลคนงานภายในสวนปาล์มน้ำมัน เล่าว่า ช่วงเย็นแรงงานตัดปาล์มชาวเมียนมา ได้พบห่อผ้าห่มนวมมีโครงกระดูกตอนแรกคิดว่าเป็นซากของสุนัขพอดึงออกมาจากกองทางปาล์ม พบว่าเป็นกระดูกท่อนมีขนาดยาวจึงโทร. หาให้มาดูและแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ




สำหรับสวนปาล์มแห่งนี้ ปกติจะมีคนงานเข้าตัดปาล์มประมาณ 10 กว่าวันเข้ามาสักครั้ง และก่อนหน้านี้สวนปาล์มน้ำมันไม่ได้กั้นประตูทางเข้าจึงมีคนเข้ามาในสวนหากบ หาปลา กันบ่อย เพิ่งจะทำประตูรั้วไม่ให้บุคคลภายนอกเข้ามาและติดกล้องวงจรปิดเมื่อประมาณ 2 เดือนก่อน




จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าอาจจะเป็นโครงกระดูกผู้หญิงเพราะสันนิษฐานจากเสื้อผ้าและอาจจะถูกฆ่ามาจากที่อื่นเพื่ออำพรางคดี โดยนำศพห่อผ้านวมมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนาก่อนนำมาทิ้งในสวนมาดังกล่าว ซึ่งอยู่ห่างไกลชุมชนและใช้ทางปาล์มปิดทับอีกชั้นนานจนเหลือแต่กระดูก จนมีคนงานชาวเมียมามาพบดังกล่าว


ด้านพนักงานสอบสวน เปิดเผยว่า หลังจากนี้จะเก็บกระดูกไว้ที่มูลนิธิชุมพรฯ ก่อน และจะเอามวลกระดูกบางส่วนตรวจอัตลักษณ์ที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุอะไรได้