เตรียมฝากขัง "ช่างสันต์" มือยิงตำรวจสายไหม พบยังมีสภาพเมาค้างให้การวกวน ถูกคุมสอบปากคำข้ามคืน เพิ่มฟันข้อหาหนักฆ่าเจ้าพนักงาน ก่อนคุมตัวไปทำแผนฯ พร้อมฝากขัง ด้านญาติยอมรับชอบดื่มสุรามีนิสัยเงียบขรึม
จากกรณี ร.ต.ท.บรรรัง เกษาพร รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.สายไหม ปฎิบัติหน้าที่สายตรวจเดินเท้า ถูกนายอรรณพ หรือ สันต์ ออเงิน ช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงจำนวน 7 นัด จนเสียชีวิตขณะเข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท บริเวณหน้าร้านตัดผมชาย ถนนเฉลิมพงษ์ แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม. เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สายไหม ได้เข้าทำการตรวจค้นบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นร้านซ่อมรถของนายอรรณพ เพื่อหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ผลการตรวจค้นพบของกลางอาวุธปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก แม็กกาซีนบรรจุกระสุนอยู่ 1 นัด 1 อัน แม็กกาซีนบรรจุกระสุน 10 นัด 1 อัน ซุกซ่อนอยู่ใต้ชั้นวางเครื่องมือซ่อมรถในโรงจอดรถข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง
ส่วนภรรยาของนายอรรณพ ผู้ก่อเหตุและพวก 4 คน ที่อยู่ในที่เกิดเหตุถูกเขิญตัวมาสอบปากคำที่ สน.สายไหม ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน จากรายงานการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าภรรยาได้โทรตามกลุ่มเพื่อนของผู้ก่อเหตุตามมาหลังสามีของตัวเองมีปากเสียงกับชายชาวเมียนมา หลังมีปัญหาทะเลาะวิวาทกัน แต่ขายชาวเมียนมาได้ไปขอความช่วยเหลือร้อยตำรวจโทบรรรัง ที่อยู่ใกล้เคียง และพยายามเข้าระงับเหตุจนเป็นเหตุให้ นายอรรณพ ไม่พอใจใช้อาวุธยิงจนเสียชีวิตนั้น ส่วนภรรยาอละพวกของนายอรรณพ จะมีส่วนกระทำความผิดด้วยหรือไม่ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ ขณะที่ผู้ก่อเหตุตำรวจสอบปากคำตลอดทั้งคืนเตรียมนำตัวฝากขังภายในวันนี้
ต่อมาพนักงานสอบสวน สน.สายไหม นำตัว นายอรรณพ หรือช่างสันต์ ที่ใช้อาวุธปืนก่อเหตุยิง ร้อยตำรวจโทบรรรัง เกษาพร อายุ 55 ปี รองสารวัตรป้องกันและปราบปราม สน.สายไหม เสียชีวิตบริเวณหน้าร้านตัดผม เชิงสะพานเฉลิมพงศ์ ถนนเฉลิมพงศ์ แขวงและเขตสายไหม กรุงเทพมหานคร ออกจากห้องคุมขังไปสอบปากคำเพิ่มเติม หลังจับกุมตัวได้ในที่เกิดเหตุเมื่อคืนนี้ โดยช่างสันต์ ยังมีท่าที คล้ายคนเมาค้าง และมีภรรยารวมถึงเพื่อนนำอาหารมาเยี่ยม
ด้านพันตำรวจโท สราวุธ บุตรดี รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สน.สายไหม เปิดเผยว่า ตำรวจจะสอบปากคำช่างสันต์เพิ่มเติม เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ยังไม่สามารถสอบปากคำช่างสันต์ได้ เนื่องจากยังให้การวกวน แต่ทราบว่าทั้งสองคนไม่รู้จักกันมาก่อน แต่น่าจะมีปากเสียงกับบุคคลอื่น แล้วผู้เสียชีวิตเข้าไปห้าม จนถูกยิง และหลังสอบปากคำแล้วเสร็จ (ก็จะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ) จากนั้นก็จะนำตัวไปฝากขังศาลมีนบุรีในข้อหา “ฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฎิบัติหน้าที่ ,ครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะและยิงปืนในที่สาธารณะ” พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นเหตุอุกฉกรรจ์และมีอัตราโทษสูง ส่วนผลการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย คาดว่าจะทราบผลในวันนี้
ด้านเพื่อนของผู้ต้องหาบอกว่า รู้จักช่างสันต์มาตั้งแต่เด็ก ปกติจะเป็นคนเงียบขรึมไม่ได้เก็บกด ทำงานซ่อมรถมานานกว่า 10 ปี ตนเองก็เป็นลูกค้าประจำ ทุกครั้งที่เจอกันก็จะมีการสังสรรค์ และรู้ว่าช่างสันต์ ชอบดื่มสุรา ดื่มแล้วก็จะเข้านอน ส่วนวันเกิดเหตุตนเองไม่ทราบว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น จึงไม่สามารถตอบได้
เช่นเดียวกัน ภรรยาของผู้ต้องหา ปฎิเสธไม่รู้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากอะไร เพราะปกติช่างสันต์จะทำงานอยู่ที่บ้านจนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น และตนเองก็ยังไม่ได้พูดคุยกับสามี จึงยังไม่ทราบข้อเท็จจริง