รางวัลนำจับ 2 หมื่น! "ไอ้โม่งหื่น" ขยี้กามหญิงชรา พบผู้เสียหายพุ่ง 9 ราย "ปวีณา" ขอเหยื่อรายอื่นๆ ที่ยังไม่กล้าแจ้งความออกมาให้ข้อมูลตร. ด้าน ผบช.ภ.3 สั่งระดมกำลังไล่ล่า นำผู้ต้องสงสัยกว่า 20 ราย สอบปากคำเก็บ DNA เปรียบเทียบจากฐานข้อมูลประวัติบุคคลกว่า 6 แสนรายยังไม่ตรงกัน ส่วน DNA คนร้ายพบเป็นรายเดียวกันก่อเหตุกับหญิงชรา 4 ราย อีก 5 รายอยู่ยังรอผล หากใครมีเบาะแสคนร้ายแจ้งตร.มีรางวัลนำจับ 20,000 บาท
เมื่อวันที่ 4 ม.ค.68 เวลา 13.30 น. ณ ห้องประชุม ที่ว่าการอำเภอบัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ประชุมด่วนร่วมกับ พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 ที่ดูแลคดีนี้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.อก.ภาค 3 พล.ต.ต.สนธยา แต่แดงเพชร ผบก.สส.ภ.3 และพล.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ ด่านสุวรรณ ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา มอบหมาย พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.รณรงค์ สุรทศ ผกก.สภ.บัวใหญ่ มาให้การต้อนรับและร่วมประชุมรายงานความคืบหน้าของคดีใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง โดยนางปวีณา ได้พา 3 ยาย เหยื่อไอ้โม่งหื่นกามข่มขืนหญิงชรา ประกอบด้วย 1.ยายวัย 70 ปี หวิดเป็นเหยื่อไอ้โม่งหื่นกามรายที่ 3 ไปแจ้งความ 2.ยายวัย 78 ปี และ3.ยายวัย 68 ปี ซึ่งรายที่ 2 และ 3 ถูกข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งอยู่ในความดูแลมูลนิธิปวีณาฯ เดินทางไปประชุมร่วมกับรองผบช.ภ.3 และทีมงานตำรวจภูธรภาค 3 สืบสวนจังหวัดนครราชสีมาและเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บัวใหญ่ พร้อมไปชี้จุดเกิดเหตุและให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับตำรวจ ส่วนยายผู้เสียหายทั้ง 9 รายแจ้งความแล้ว
พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 กล่าวว่า หลังได้รับการประสานจากมูลนิธิปวีณาฯ ภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 ได้สั่งการให้บูรณาการทำงานเร่งติดตามตัวคนร้ายโดยตำรวจสืบสวนภาค 3 ตำรวจสืบสวนภูธรจังหวัดนครราชสีมาและสืบสวนสภ.บัวใหญ่ ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐานสอบปากคำผู้เสียหายและพยานแวดล้อม รวมถึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดตามเส้นทางและใช้เทคนิคการสืบสวนต่างๆ
จากการตรวจสอบพบผู้เสียหายในพื้นที่จ.นครราชสีมา ขณะนี้มี 9 ราย ซึ่งทั้งหมดเป็นหญิงสูงอายุ โดยแจ้งความที่สภ.บัวใหญ่ 5 ราย, สภ.โนนแดง 2 ราย, สภ.แก้งสนามนาง 1 ราย, สภ.บ้านเหลื่อม 1 ราย ซึ่งรายแรกเกิดช่วงเดือนมิ.ย.66 เรื่อยมา คนร้ายเลือกก่อเหตุในช่วงเวลา 11.00 ถึง 12.00 น. ก่อเหตุในพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบ เลือกเหยื่อเป็นผู้อ่อนแอที่อยู่คนเดียว มีแผนประทุษกรรมแบบเดียวกัน ใช้รถจักรยานยนต์ในการก่อเหตุ
เบื้องต้นได้นำตัวผู้ต้องสงสัยที่ผู้เสียหายให้ข้อมูลและผู้ต้องสงสัยรายอื่นๆกว่า 20 รายมาทำการตรวจ DNA เทียบกับฐาน DNA ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมีกว่า 6 แสนรายทั่วประเทศ ยังไม่พบว่าตรงกับบุคคลใด ขณะที่ตรวจดีเอ็นเอผู้เสียหายและเก็บ DNA ในที่เกิดเหตุพบว่า DNA ของผู้ก่อเหตุเป็นคนเดียวกันกับที่กระทำกับผู้เสียหาย 4 ราย ส่วน DNA ของผู้เสียหายอีก 5 รายอยู่ระหว่างตรวจสอบ ล่าสุดเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำและตรวจ DNA ของผู้ต้องสงสัยอีก 2-3 ราย
ฝากถึงคนร้ายที่ก่อเหตุหากยังมีจิตสำนึกก็ขอให้เขามอบตัว เพราะคิดว่าคนร้ายก็คงมีแม่ที่รุ่นเราคราวเดียวกับผู้ที่ท่านกระทำ ขอให้เข้ามอบตัวโดยเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจรับรองความปลอดภัยของท่าน ทั้งนี้หากพลเมืองดีพบเบาะแสจนนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำความผิดได้ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีรางวัลนำจับให้ 20,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นความลับและพร้อมจะดูแลความปลอดภัยของประชาชน
ภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.อก.ภาค 3 พ.ต.อ.รณรงค์ สุรทศ ผกก.สภ.บัวใหญ่ ได้พานางปวีณาและยายผู้เสียหายทั้ง 3 รายไปชี้จุดเกิดเหตุ
นางปวีณา กล่าวว่า วันนี้ได้มารับทราบข้อมูลและทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้ายอย่างเต็มที่ สรุปตอนนี้มีผู้ที่มาร้องทุกข์เพิ่มจากเดิมที่มูลนิธิปวีณาฯ 3 ราย กลายเป็นมีผู้เสียหาย 9 ราย แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บัวใหญ่และพื้นที่ใกล้เคียง และยังมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ไม่กล้าเข้าแจ้งความ อยากเชิญชวนให้มาแจ้งความเพื่อที่จะช่วยตำรวจให้สามารถจับกุมตัวให้ได้โดยเร็ว
วันนี้ผู้เสียหายพอใจและมั่นใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมากที่มีการตรวจ DNA ของผู้ต้องสงสัยและมีการเร่งหาตัวผู้กระทำผิด ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจภายใต้การอำนวยการของพล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 ที่เอาใจใส่ประชาชนในพื้นที่ ขอให้ประชาชนชาวอ.บัวใหญ่ทุกคนช่วยกัน ใครที่ทรายเบาะแสคนร้ายอย่ากลัว ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือมูลนิธิปวีณาฯ ก็ได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมจะให้ความปลอดภัยและเก็บความลับของท่าน และจะได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมกับผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็ว โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะติดตามการดำเนินการร่วมกับตำรวจต่อไปให้ถึงที่สุด