เจ้าหน้าที่เร่งช่วย พ่อ-แม่-ลูก ติดซากรถเก๋ง หลังเสียหลักข้ามเลนชนรถบรรทุก สลดพ่อแม่ดับคาที่ ขณะที่ลูกสาววัย 3 ขวบอยู่ในอ้อมอกแม่อาการสาหัส
วันที่ 12 มกราคม 2568 มีรายงานว่า คืนที่ผ่านมา พ.ต.ท.อุดม เมืองมา สว.สอบสวน สภ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถบรรทุกชนกับรถเก๋ง มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถหลายราย จึงได้ออกตรวจสอบร่วมกับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างกำแพงเพชร จุดโค้งวิไล และจุดอื่นรวมกว่า 30 นาย บริเวณถนนพหลโยธิน ก.ม.410 (สายเอเชีย) ม.7 (บ้านคลองน้ำเย็นเหนือ) ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางถนน พบรถบรรทุกของบริษัทแห่งหนึ่ง ชนกับรถเก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน โดยสภาพล้อด้านหน้าของรถบรรทุกชนเหยียบทับรถเก๋งจนสภาพพังเสียหายทั้งคัน
ตรวจสอบพบผู้โดยสารที่ติดอยู่ในซากรถเก๋ง ทั้งหมด 3 คน ชาย 1 หญิง 1 และเด็กหญิง 1 ราย ทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบชีพจรของผู้บาดเจ็บทั้งหมดแล้ว พบว่า ชายและหญิงได้เสียชีวิตแล้ว และเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ยังมีชีพจรอยู่ แต่ไม่สามารถนำร่างทั้งหมดออกมาได้ เนื่องจากรถบรรทุกได้ทับซากรถเก๋งที่มีร่างทั้งหมดติดอยู่ด้านล่าง จึงต้องเร่งระดมเครื่องตัดถ่างจากกู้ภัยจุดอื่น ๆ เข้ามาช่วย แต่ยังไม่สำเร็จ ด้วยน้ำหนักของรถบรรทุกที่อาจจะทับร่างของเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่ และร่างของพ่อและแม่เด็กได้ทุกเมื่อ จึงต้องนำรถเครนมาทำการยกและตัดถ่างซากรถดึงร่างออกมาที่ละคนอย่างระมัดระวัง โดยขณะนั้นก็มีแพทย์และพยาบาลจากโรงพยาบาลคลองขลุง รอให้การช่วยเหลืออยู่ในที่เกิดเหตุอย่างใกล้ชิด
ผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่างของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ ออกมาได้สำเร็จพร้อมนำตัวส่งโรงพยาบาลคลองขลุงทันที ต่อมาก็ได้นำร่างของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายผู้เป็นพ่อและแม่เด็กออกมาได้สำเร็จ ทราบชื่อผู้เสียชีวิต 2 ราย คือ นายณัฐวุฒิ อายุ 34 ปี และ น.ส.เฟื่องฟ้า อายุ 26 ปี ส่วนผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ ด.ญ.กันยารัตน์ อายุ 3 ขวบ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ชี้จุดที่ร่างของผู้โดยสารทั้งหมดขณะอยู่ในตัวซากรถก่อนช่วยออกมา พบว่าร่างของเด็ก 3 ขวบอยู่ในอ้อมอกของ น.ส.เฟื่องฟ้า ผู้เป็นแม่ และมีขวดนมตกอยู่ข้างตัว ทั้ง 2 อยู่บริเวณห้องผู้โดยสารด้านหลัง ส่วน นายณัฐวุฒิ ผู้เป็นพ่อ ร่างอยู่บริเวณที่นั่งคนขับ
ขณะที่กล้องหน้ารถของผู้ขับรถกระบะบนถนนที่ขับตามหลังรถเก๋งคันเกิดเหตุมุ่งหน้าขาขึ้นจาก ต.โค้งไผ่ อ.ขาณุวรลักษบุรี เข้าสู่ ต.คลองขลุง อ.คลองขลุง ก่อนถึงปั๊ม ปตท.โค้งวิไล ได้ขับตามมาพบว่ารถเก๋งมีอาการส่ายไปมาและเสียหลักลงเกาะกลางถนนจนข้ามเลนไปชนกับรถบรรทุกอีกฝั่งที่ขับสวนมาอย่างจังจนทำให้เกิดเหตุครั้งนี้
ขณะที่ นางวราภรณ์ อายุ 47 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถหน้าจุดเกิดเหตุที่เห็นเหตุการณ์ครั้งแรกและมีกล้องวงจรปิดในอู่ที่ส่องไปจุดดังกล่าวพอดี แต่ยังไม่สามารถเปิดกล้องดูได้เพราะสามีไปทำบุญบนดอยตนไม่ทราบรหัสกล้องวงจรปิด โดยก่อนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังสนั่นเลยวิ่งออกไปดูแต่ยังไม่เห็นรถเก๋ง ตนได้สอบถามคนขับรถบรรทุกก็บอกว่าบาดเจ็บที่ขา ซึ่งก็สังเกตเห็นว่ารถบรรทุกเหยียบทับรถเก๋งอยู่ด้านล่าง จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยก็มาที่เกิดเหตุ
ขณะที่ญาติของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาดูศพของทั้ง 2 ราย โดยให้ข้อมูลเบื้องต้นว่าเมื่อช่วงประมาณ 18.00 น. ผู้เป็นพ่อและแม่ได้พาลูกสาว 3 ขวบ ไปเดินเที่ยวหาอาหารกินในห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองกำแพงเพชร เนื่องในวันเด็กแห่งชาติอยู่เลย ยังแปลกใจว่ามาเกิดเหตุที่นี่ได้ยังไง ซึ่งก็ได้ข้อมูลจากตำรวจว่าพบตั๋วรถทัวร์ที่ฝ่ายหญิงชื้อไว้จะไปกรุงเทพฯ หรือจะกลับไม่ทันรถทัวร์จึงพากันมาหารถต่างอำเภอในพื้นที่ อ.ขาณุวรลักษบุรี แต่ไม่มีรถจึงวนกลับเข้าเมืองกำแพงเพชรจนมาเกิดเหตุจุดนี้
ขณะที่ ด.ญ.กันยารัตน์ อยู่ในอาการสาหัสแพทย์ต้องรีบส่งตัวเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำคนขับรถบรรทุก ที่อยู่ระหว่างการรักษาตัวในโรงพยาบาลคลองขลุง ขณะนี้เพื่อหาสาเหตุอุบัติเหตุครั้งนี้อีกครั้ง