เมื่อวันที่ 12 ม.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดใจจากนายสมนึกอายุ 44 ปี พ่อของนายโอ๊ค ซึ่งมีอาชีพเป็นไรเดอร์ โดยนายสมนึกได้นำแชตและการโทรศัพท์ครั้งสุดท้ายกับลูกชายก่อนเกิดเหตุไม่ถึง 1 นาทีมาเปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวดู

 

นายสมนึกเล่าว่า ในวันเกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.23 น. ลูกชายได้ส่งข้อความทางไลน์มาขอเงินเติมน้ำมัน 50 บาท พร้อมบอกว่าจะวิ่งงานไรเดอร์ตอนดึก ด้วยความที่ตนเองก็กำลังทำงานไรเดอร์เช่นกัน จึงเปิดอ่านแชตในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ขณะติดไฟแดง หลังจากนั้นเพียง 2-3 นาที ตนได้โทรหาลูกชายเพื่อพูดคุย ลูกชายตอบว่า “ครับ เดี๋ยวผมคอยพ่อ”

 

อย่างไรก็ตาม หลังวางสายไม่ถึง 2 นาที น้องสาวของตนได้โทรมาแจ้งข่าวร้ายว่า ลูกชายถูกแทง ตนรู้สึกตกใจมากและรีบขับรถจักรยานยนต์ไปที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เมื่อไปถึง ลูกชายอยู่ในห้องฉุกเฉินและมีอาการสาหัส หมอพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากมีเลือดท่วมปอด ตนได้แต่มองลูกชายผ่านประตูห้องฉุกเฉินด้วยหัวใจที่แทบแตกสลาย

 

กระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น. หมอแจ้งว่าลูกชายเสียชีวิตแล้ว นายสมนึกเล่าว่า หัวใจของคนเป็นพ่อยืนแทบไม่ไหว ไม่คิดว่าสายโทรศัพท์ที่คุยกับลูกจะเป็นสายสุดท้าย พร้อมกล่าวทั้งน้ำตาว่า “ไม่คิดว่าเหตุผลเพียงแค่มองหน้าจะทำให้คนหนึ่งคนกล้าฆ่าอีกคนได้ลง”

 

นายสมนึกยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องว่า อยากให้เจ้าหน้าที่รัฐพิจารณาปรับเปลี่ยนกฎหมายเยาวชนให้มีบทลงโทษที่เทียบเท่าผู้ใหญ่ในกรณีที่ร้ายแรงแบบนี้ เนื่องจากหากยังปล่อยให้เยาวชนหลีกเลี่ยงโทษหนักได้ ก็อาจเป็นการเปิดช่องให้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญซ้ำอีก ตนขอวิงวอนให้ตำรวจเร่งตามตัวคนร้ายทั้ง 3 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

พ่อไรเดอร์ใจสลาย เปิดแชตคุยกับลูกครั้งสุดท้ายก่อนลูกถูกโจ๋แทงดับ