เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568 นายโชติอนันต์ เลิศฤทธิ์ภูวดล หรือ "เสี่ยเป้ บางกรวย" ผู้ก่อตั้งเพจ "เป้ บางกรวย-นนทบุรีไม่ทิ้งกัน" ได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้ปกครองของเยาวชนผู้ก่อเหตุใช้มีดแทง นายภานุภาพ หรือ "โอ๊ค" อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นไรเดอร์ส่งอาหารจนเสีย ชีวิต เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมันในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยครอบครัวของผู้ก่อเหตุ 3 ราย ประกอบด้วย นายกาน อายุ 17 ปี นายฟัก อายุ 16 ปี และนายเติ้ล อายุ 17 ปี  ขอให้ช่วย ดูแลความปลอดภัยระหว่างการเดินทางเข้ามอบตัวเนื่องจากมีเหตุการณ์กลุ่มเพื่อนของผู้ตายกว่า 60 คนมาดักรอที่โรงพยาบาลหลังเกิดเหตุ

 

นายฟัก ผู้ก่อเหตุ กล่าวชี้แจงว่า วันเกิดเหตุตนได้ขับขี่รถจยย.มากับเพื่อน 3 คน จยย. 2 คัน  โดยตนขับขี่มากับนายกานต์  ส่วนอีก 1 คัน นายเติ้ลเป็นคนขับ ซึ่งวันเกิดเหตุตนได้ขับรถไปส่งรุ่นพี่หลังจากส่งเสร็จก็ได้ขับมาเติมน้ำมันที่ปั๊มจุดเกิดเหตุ ระหว่างที่เข้าไปที่ปั๊มกับพบผู้ตายกับเพื่อนของเขาขับขี่รถจยย.ซึ่งเติมน้ำมันเสร็จแล้วกำลังจะขับออกไป แต่เห็นว่าพวกเขากำลังมองมาที่ตนโดยใส่หมวกกันน็อกเต็มใบ 2 คน ปกปิดใบหน้า ซึ่งตนก็ไม่ได้อะไร จึงเข้าไปเติมน้ำมันตามปกติ ระหว่างตนกำลังเติมน้ำมัน ทางผู้ตายและเพื่อนของเขาได้ขับรถจยย.ออกจากป้อมแล้วย้อนศรกลับมาที่หน้าปั๊มอีกรอบแล้วมามองหน้าตน ตนจึงพูดกับเพื่อนว่า “มันมองหน้าอะไรเรา เขามีอะไรรึเปล่า” ซึ่งเขาไม่ได้ยิน  จากนั้นฝั่งผู้ตายก็ได้ขับวนมาถามกลุ่มพวกตนว่า “เมื่อกี้มึงมองอะไร” จากนั้นตนก็ไม่ได้ตอบอะไร เสร็จแล้วฝั่งผู้ตายก็พูดมาอีกทีว่า “มึงเบ๊าเหรอ”  ตนจึงเดินไปถามว่า “ทำไมมีอะไร” จากนั้นกลุ่มผู้ตายก็พูดว่า “ทำไมมึงจะเล่นป่าว” จากนั้นคนตายซึ่งเป็นคนซ้อนได้ทำท่าเหมือนจะชักมีดออกมาแล้วจะลงจากรถ ตนจึงเห็นท่าไม่ดีจึงคว้ามีดออกมาเช่นกันยาวประมาณ 11 นิ้ว ออกมาป้องกันตัวก่อน แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามกล้อง ส่วนคนที่พูดท้าทายฝั่งผู้ตายตนไม่ทราบว่าเป็นใครพูดเพราะใส่หมวกกันน็อกทั้งคู่ ตนยืนยันว่าได้ใช้มีดแทงไปครั้งเดียวเท่านั้น ก่อนจะถูกทางเพื่อนคนตายคาดว่าใช้เหล็กกุดชาร์ปแทงคืนจนได้รับบาดเจ็บที่ท้องน้อยด้านขวาเย็บ 2 เข็ม จากนั้นกลุ่มตนก็แยกย้ายโดยมีการจับรถจยย.ของฝั่งผู้ตายตั้งขึ้น แล้วเพื่อนตนก็ขับขี่รถจยย.พาตนไปรักษาตัวที่รพ.พระนั่งเกล้า ซึ่งตอนก่อเหตุเพื่อนตนทั้ง 2 คนไม่ได้ทำร้ายร่างกายฝั่งผู้ตายแต่อย่างใด มีแต่ตนที่มีอาวุธมีดเล่มเดียว ที่ไปทำร้ายผู้ตาย ส่วนเพื่อนตนไม่มีอาวุธ  มีแต่ฝั่งตรงข้ามที่มีอาวุธ 2 เล่ม โดยมีเล่มนึงคาดว่าเป็นของผู้ตายตกอยู่ที่พื้น โดยนายเติ้ลเพื่อนตนได้หยิบมาจากพื้นแล้วโยนทิ้งไป ส่วนอีกเล่มเป็นของเพื่อนผู้ตาย 

 

นายฟัก กล่าวต่ออีกว่า หลังจากทราบข่าวว่าทางคู่กรณีเสียชีวิต ตนรู้สึกเสียใจ และไม่มีเจตนาถึงขั้นจะทำให้เสียชีวิต เพียงคิดแค่ตอนนั้นต้องป้องกันตัวเท่านั้น ตอนนี้รู้สึกผิดและสำนึก และสุดท้ายก็กราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะเป็นความใจร้อน และโมโห อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ใจตนอยากจะไปกราบขอขมาศพ แต่กลัวฝั่งเพื่อนของผู้ตายทำร้ายในงานเลยไม่กล้าไป 

 

น.ส.ชดช้อย แม่นายเติ้ล เปิดเผยว่า ตนมาทราบข่าวจากตำรวจได้โทรหาพี่สาวแฟนว่า ลูกชายตนอยู่ในกลุ่มที่ไปก่อเหตุแทงไรเดอร์เสียชีวิต โดยรับแจ้งในวันถัดไปหลังเกิดเหตุ หลังจากทราบข่าวจึงเรียกลูกชายมาพูดคุยปรากฏว่าทางลูกชายร้องไห้ เครียดไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยเล่าให้ตนฟังว่า ไปเติมน้ำมันที่ปั๊มจริงกับเพื่อนๆ แต่ถูกฝั่งคู่กรณี มองหน้าและเข้ามาถามเรื่องมองหน้าก่อน แล้วน้องฟักเพื่อนลูกชายก็เข้าไปถามว่ามองหน้าอะไร จากนั้นฝั่งผู้ตายทำท่าจะคว้ามีดมาแทง น้องฟักจึงนำมีดจึงป้องกันตัว เลยเกิดเหตุการณ์ตามคลิปขึ้น 

ตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรุนแรงตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆ ตนเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียว่าเป็นอย่างไร ตนรู้สึกเสียใจจริงๆกับเรื่องนี้ แต่เรื่องมันเกิดไปแล้ว ทางตนจึงได้ประสานพูดคุยกับตำรวจตั้งแต่ตนทราบเรื่องไม่ได้มีเจตนาหนีตามข่าวที่ออกแต่อย่างใด ตนพูดคุยกับตำรวจทุกวันว่าจะพาน้องๆไปพบตำรวจ  ทั้งนี้ตนอยากแสดงความเสียใจและเจตนาของตนอยากจะเข้าไปร่วมพิธีงานศพของน้องโอ๊ค แต่ลูกชายและครอบครัวได้เตือนเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เกรงว่าทางครอบครัวผู้สูญเสียอยู่ระหว่างโศกเศร้าเสียใจ อาจเกิดเรื่องที่ไม่คาดคิดก็ได้ แต่ตนขอบอกผ่านสื่อว่ารู้สึกเสียใจอย่างจริงๆ และขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ไม่พอหลังจากทราบว่าผู้ตายกำลังจะมีลูกแฟนกำลังตั้งท้องทำให้ตนรู้สึกแย่เข้าไปอีก ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงๆ

 

ทั้งนี้ตนอยากแจงกับสังคมว่าน้องทั้ง 3 คนนี้ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น ที่ผ่านมาน้องๆก็อยู่ในมุมของเขาไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร ซึ่งเท่าที่ดูจากสื่อที่ลงหัวอกคนเป็นแม่ที่ได้ฟังข่าวก็เสียใจ แต่ตนไม่ได้ว่าใคร แค่อยากให้มองอีกมุมว่าฝั่งน้องก็ถูกกระทำเช่นกัน น้องฟักก็ถูกกุดชาร์ปเสียบเกือบเสียชีวิตเช่นกัน 

 

น.ส.สร้อยวลี แม่นายฟัก เปิดเผยว่าฟัก กล่าวว่า ตอนนี้ตนรู้สึกตกใจที่รู้ว่าลูกโดนแทง แต่พอรู้ว่าคู่กรณีเสียชีวิตก็รู้สึกตกใจกว่าเดิม ตนได้ตามไปที่รพ.ในคืนเกิดเหตุ แต่ตำรวจบอกให้ย้ายไปอีกรพ.หนึ่ง เนื่องจากฝั่งคู่กรณีประมาณ 40-50 คน มารออยู่หน้ารพ. กลัวลูกจะถูกทำร้าย โดยตำรวจได้ส่งเจ้าหน้าที่มาดูแลเพราะกลัวคู่กรณีจะตามมา ลูกชายของตนได้รับบาดเจ็บถูกเหล็กแทงเข้าที่ชายโครงด้านซ้าย หมอแจ้งว่าหากไม่ติดซี่โครงอาจจะถึงขั้นเสียชีวิต ตนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งรู้ว่าฝั่งคู่กรณีเสียชีวิตก็ยิ่งเสียใจ ซึ่งลูกชายของตนไม่ได้ต้องการให้เหตุการณ์รุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต ที่ผ่านมาตนจะคอยพูดคุยกับลูกชายตลอดว่าอย่าไปมีเรื่องกับใคร หรือมองหน้าใคร ซึ่งปกติลูกชายของตนจะเล่นเกมอยู่แถวบ้าน ยืนยันว่าจะพาลูกชายเข้าไปมอบตัว และไม่ได้หนีตั้งแต่วันแรก เพียงแต่ฝั่งลูกชายของตนก็ได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงให้ไปรักษาตัวก่อน

 

นายโชติอนันต์ หรือเสี่ยเป้บางกรวย กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับเรื่องประสานมาจากทางผู้ปกครองของของกลุ่มน้องผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คน ที่ก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงไรเดอร์เสียชีวิต โดยทางผู้ปกครองมาหาตนเนื่องจากอยากขอความเป็นธรรม อยากชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น และประเด็นหลักก็คือเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของน้องทั้ง 3 คน ซึ่งที่ผ่านมามีการประสานพูดคุยกับตำรวจว่าจะไปมอบตัว ตนจึงรับเรื่องและจะพากลุ่มของน้องไปเข้าพบให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งตนมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของความรุนแรงไม่อยากให้น้องๆวัยรุ่นทำพฤติกรรมแบบนี้ วันนี้จึงได้เตือนกับน้องๆทั้ง 3 คนว่า “ถ้าใจร้อนก็ต้องนอนที่แคบ” อะไรที่เราทำไปแล้วถ้าเป็นลูกผู้ชายก็ให้รับไป ซึ่งตนก็เข้าใจว่าไม่ได้มีเจตนาถึงขั้นให้เสียชีวิต แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องให้เป็นไปตามข้อกฏหมาย ส่วนตนจะดูแลเรื่องความปลอดภัยในเบื้องต้นให้ระหว่างเข้าสู่กระบวนการกฏหมาย