"อัจฉริยะ" พร้อมพยานสำคัญในคดี "แตงโม" เข้าให้ข้อมูล DSI ก่อนจำลองเหตุการณ์ 16 ม.ค. นี้
เมื่อช่วงเวลา 09.00 น. นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุบัติเหตุและบาดแผล และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือกับโปรแกรมเมอร์ รวม 4 คน เดินทางไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ อาคารเอ เพื่อเข้าให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีการเสียชีวิตของแตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ หลังเคยเข้ามายื่นเรื่องดังกล่าวกับกระทรวงยุติธรรมตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่านมา
โดยนายอัจฉริยะเปิดเผยกับสื่อมวลชนก่อนเข้าให้ข้อมูลว่า วันนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเพื่อเปิดคดีกับ DSI ซึ่งเป็นการนัดหมายกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตนได้นำพยานมา 4 ปากมาให้ข้อมูล ได้แก่ นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช และผู้เชี่ยวชาญเรื่องการขับเรือซึ่งเคยให้การเป็นพยานในชั้นศาลกับโปรแกรมเมอร์ รวม 4 คน รวมทั้งนำพยานหลักฐานที่ก่อนหน้านี้ทำให้ศาลเชื่อว่าแตงโมไม่ได้อยู่บนเรือและไม่ได้ตกจากท้ายเรือ และเหตุผลที่ว่าทำไมพยานหลักฐานเรื่องเส้นผมไม่ถูกนำมาพิจารณาในคดีกับทำไมบาดแผลดังกล่าวไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือมามอบให้กับ DSI
โดยนายอัจฉริยะขยายประเด็นเรื่องเส้นผมเพิ่มเติมอีกว่า เส้นผม 3 เส้นที่พบบนเรือ กลับไม่ถูกนำมาพิจารณาในคดี ทั้ง ๆ ที่ประเด็นเรื่องทรงผมนั้นเคยพลิกคดีลุงพลน้องชมพู่มาได้ รวมทั้งนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นผู้สั่งการในคดีลุงพลน้องชมพู่ก็เป็นคนเดียวกันกับที่สั่งการคดีแตงโมได้ แต่ทำไมเรื่องของเส้นผมถึงไม่นำมาเกี่ยวข้องหรือพิจารณาในคดีแตงโมเลย
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือวันที่ 16 มกราคม ที่จะมีการจำลองสถานการณ์การตกเรือ โดย DSI จะจัดชุดมาสังเกตการณ์ด้วย ซึ่งวันนี้ก็จะมีอาการพูดคุยหารือเกี่ยวกับประเด็นนี้ด้วยกับทาง DSI รวมทั้งในวันดังกล่าว ตนจะนำคลิปที่แสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลาประมาณ 22:30 แซน วิศาพัช ไม่ได้นั่งอยู่ที่ท้ายเรือตามที่กล่าวอ้าง แต่นั่งอยู่แถวกลางของเรือและจะพิสูจน์ข้อเท็จจริงในเรื่องของการตกเรือว่าจะถูกใบพัดเรือหรือไม่ โดยจะนำคลิปของยูทูปเบอร์ชื่อดังรายหนึ่งมาเปิดเปรียบเทียบและตนจะเปิดเผยอีกว่า ยูทูปเบอร์คนดังกล่าวมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับคนบนเรือ
นายอัจฉริยะระบุอีกว่า นี่ไม่ใช่เป็นการรื้อคดีใหม่ แต่เป็นการตั้งข้อหาดำเนินคดีใหม่กับคนบนเรือ ซึ่งอาจจะมีผู้ที่ถูกดำเนินคดีมากกว่านี้ นี่จึงถือเป็นการเดิมพันด้วยชีวิต เพราะตนไม่รู้ว่าจะถูกลอบสังหารเมื่อไหร่ และนี่จะเป็นคดีสุดท้ายที่ตนจะทำเพื่อช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เพราะหลังจากนี้ตนจะพอแล้ว สิ่งที่ตนทำโดยเฉพาะเรื่องของการจำลองสถานการณ์บนเรือ ไม่ได้ทำไปเพื่อหาแสงหรือเพื่อความสะใจส่วนตัว แต่เป็นการทำไปเพื่อทวงความยุติธรรมให้กับแตงโมและสะท้อนให้เห็นว่า กระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยนั้นมีปัญหาตั้งแต่ต้นทางที่ดำเนินคดีตามใบสั่งและไม่มีการสอบสวนตามข้อเท็จจริง จนเป็นเหตุทำให้นำข้อหาเรื่องประมาทมากลบเกลื่อนในคดีแตงโม คดีแตงโม นิดาจึงถือเป็นตัวอย่างคดีอัปยศของกระบวนการยุติธรรมประเทศไทย จึงมีความหวังว่า DSI จะสามารถทำคดีนี้ให้กระจ่างจนสามารถเอาผิดตัวการใหญ่ได้
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะยังระบุอีกว่า ตนเตรียมที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายตำรวจระดับสูงซึ่งรวมไปถึงอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วย และตำรวจคนอื่นๆที่เกี่ยวข้องในคดีแตงโมกว่า 40 นายที่ร่วมกันบิดเบือนสำนวนและไม่ทำให้ความจริงปรากฏ อันต่อให้เห็นว่ามีเจตนากระทำการทุจริตในหน้าที่ ซึ่งตนมั่นใจว่า ตนจะชนะคดีเพราะที่ผ่านมาตนเคยถูกตำรวจฟ้องดำเนินคดีถึง 6 คดี แต่ก็ชนะไปแล้ว 1 คดี จึงมั่นใจว่าอีก 5 คดีที่เหลือตนก็จะชนะเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ที่ผ่านมายังคงถูกตำรวจข่มขู่อยู่หรือไม่ นายอัจฉริยะระบุว่า นอกจากที่เคยระบุไปว่ามีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ตนเกรงใจมาร้องขอให้ตนยุติการช่วยคดีแตงโมแล้ว ยังมีนายตำรวจนอกเครื่องแบบไปข่มขู่ตามอู่เรือต่าง ๆ เพื่อไม่ให้เช่าเรือ รวมทั้งล็อบบี้กับกรมเจ้าท่าว่าไม่ให้อนุญาตจำลองสถานการณ์ได้
ด้าน นพ.ธวัชชัย เปิดเผยว่า จริง ๆ แล้วคดีแตงโมตนเคยให้กันกับเจ้าหน้าที่มาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ในวันนี้ตนได้นำประเด็นข้อมูลใหม่ ๆ โดยเฉพาะเรื่องของบาดแผลมามอบให้กับ DSI โดยยืนยันว่า แผลขนาดใหญ่บริเวณต้นขานั้น ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ 99.99% ซึ่งถ้าเกิดจากใบพัดเรือจริงตามที่มีคนกล่าวอ้าง ขอให้ออกมาแสดงตัวหน่อยว่า ใบพัดเรือจะไปก่อให้เกิดแผลดังกล่าวได้อย่างไร ขอให้คนที่ออกมาอ้างช่วยออกมาอธิบายทางนิติวิทยาศาสตร์หน่อย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีหมอคนไหนที่ออกมาอธิบายว่าแผลดังกล่าวเกิดจากใบพัดเรือจริง ๆ เป็นเพียงแค่การกล่าวอ้างจากตำรวจและหมอชันสูตร แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าแผลเกิดจากอะไร ขนาดแพทย์ที่ชันสูตรพลิกศพครั้งที่ 1 ก็อ้างว่าบอกไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร
หมอธวัชชัยยังตั้งข้อสังเกตกับสื่อมวลชนอีกว่า ที่ผ่านมาสื่อมวลชนไม่เคยเห็นรูปเดี่ยวของแตงโมหลังตั้งแต่ 20:30 เป็นต้นไปเลย โดยเฉพาะรูปที่ถ่ายบริเวณสะพานพระราม 8 นั่นก็เป็นรูปตัดต่อไม่ใช่รูปจริงและคนที่เป็นดาราก็ควรจะต้องมีภาพเดี่ยวสวย ๆ จึงอยากเรียกร้องให้ฝ่ายคนที่อยู่บนเรือเอารูปออกมาอ้างยืนยันว่า แตงโมอยู่บนเรือจริง ๆ หลังสามทุ่มเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวสอบถามหมอธวัชชัยว่า สรุปแล้วบาดแผลดังกล่าวเกิดจากของมีคมหรือใบพัดเรือ หมอธวัชชัยพูดแบบภาพรวมว่าต้องพิสูจน์โดยต้องนำเนื้อหมูมาทดลองถูกใบพัดเรือฟัน ซึ่งตนก็ขอไม่ตอบว่าสรุปแล้ว บาดแผลต้นขาของแตงโมเกิดจากอะไร แต่ตนขอยืนยันว่า ไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือแน่นอน แต่คาดว่าน่าจะเป็นวัตถุมีคม