สำนักพุทธฯ สอบพระพล ครหาเสพเมถุน แม่ชีแฉ ครั้งแรกคาลานพญานาคในวัด ขณะที่ลูกศิษย์ พระสงฆ์ แม่ชีส่วนหนึ่งไม่เชื่อ มาให้กำลังใจ

วันที่ 14 ม.ค. 2568 ที่ห้องประชุมวัดเหล่าต้นยม ตำบลหนองแวง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร พระครูวชิรธรรมพินิต เจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย เป็นประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีปรากฏข่าวพระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือพระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ ตำบลร่มเกล้า อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร มีพฤติกรรมไม่สมควรแก่สมณวิสัย มีหลักฐานการสนทนาเชิงชู้สาวกับสีกาเป็นคลิปเสียงและการสื่อสารผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ สร้างความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระพุทธศาสนา ตามคำสั่งคณะสงฆ์จังหวัดมุกดาหาร ที่ ๐๒ / ๒๕๖๘ โดยมีเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดมุกดาหาร ตำรวจ สภ.นิคมคำสร้อย และฝ่ายปกครองอำเภอนิคมคำสร้อย ร่วมประชุมด้วย



ช่วงเช้าเป็นการสอบ น.ส.บุญญาพร อดีตแม่ชี ผู้เสียหาย ซึ่งยืนยันว่าพระพลได้มีเพศสัมพันธ์กับตนตั้งแต่ประมาณปี 2560 และเพิ่งมาเลิกยุ่งเกี่ยวกันในปี 2567 โดยครั้งแรกได้เสียกันที่บริเวณลานพญานาค ภายในวัดดานพระอินทร์ ในวันนี้ได้มาให้ปากคำ พร้อมด้วยพยานหลักฐานประกอบด้วยคลิปเสียงสนทนา เอกสารแชต line และหลักฐานสลิปการโอนเงินจากบัญชีพระพลมาเข้าบัญชีของตนจำนวนหลายครั้ง

พระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือ พระพล กล่าวว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรม ขอความชอบธรรมด้วย ผมถูกรังแก จึงต้องการมาแสดงความบริสุทธิ์

พระครูวชิรธรรมพินิต ประธานประชุมคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กล่าวว่า วันนี้ช่วงเช้าเป็นการเชิญ น.ส.บุญญาพร อดีตแม่ชี ผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำประกอบเอกสารหลักฐานพยานในฐานะเป็นพยานและเป็นผู้เสียหาย ส่วนในช่วงบ่ายมีพระครูวินัยธรอนุชา อธิปัญโญ หรือพระพล อดีตเจ้าอาวาสวัดดานพระอินทร์ มาให้การแก้ข้อกล่าวหา

ด้านร้อยโทสุวรรณศรี วงศ์จันทร์ รองหัวหน้าฝ่ายประสานการปฏิบัติ กลุ่มงานความมั่นคง กอ.รมน.จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า วันนี้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าปกครอง ตำรวจ คณะสงฆ์และเจ้าคณะอำเภอนิคมคำสร้อย ได้มาไตร่สวนคู่กรณีฝ่ายหญิงในช่วงเช้า ได้บทสรุปข้อมูลไปแล้ว ส่วนในช่วงบ่ายไต่สวนฝ่ายเป็นพระคู่กรณี ส่วนผลสรุปถ้าหลักฐานชัดเจน คณะกรรมการมีมติร่วมกันในการตัดสิน โดยไม่มีผู้ใดผู้หนึ่งตัดสินเอาเอง ถ้ามีหลักฐานเป็นการยืนยันเป็นการกระทำผิดจริง และมีการยอมรับในการกระทำผิด ขั้นต่อไปก็อาจลาสิกขาได้ แต่ยังไม่ฟันธง

ร้อยโทสุวรรณศรี กล่าวอีกว่า ส่วนการสอบปากคำฝ่ายหญิง ได้สอบว่าเริ่มต้นได้มาอยู่ในวัดได้อย่างไร และได้คบหากันในเชิงชู้สาวเมื่อไหร่ อย่างไร และทำอะไรครั้งแรก จนถึงปัจจุบันจนลุกลามไปจนถึงมีเพศสัมพันธ์กันลึกซึ้งกี่ครั้ง ครั้งสุดท้ายที่ไหนอย่างไร คือข้อมูลให้การด้วยวาจา ส่วนหลักฐานเอกสารได้มอบให้กับทางคณะกรรมการ ก็จะรวบรวมไปสรุปรอในช่วงบ่ายคู่กรณีฝ่ายชายมาให้การ แล้วสรุปหักล้างกันหาข้อเท็จจริงที่ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อตัดสินเป็นการสิ้นสุดการดำเนินการ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้ให้เจ้าหน้าที่คณะกรรมการผู้มีอำนาจออกจากห้องสอบสวนทั้งหมด ให้เหลือแต่พระกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งในคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการไต่สวนนั้น ไม่ได้มีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเลย แต่กลับมีอำนาจก้าวก่ายบทบาทเจ้าหน้าที่ที่มีคำสั่งแต่งตั้งในหนังสือ เห็นควรหรือไม่อย่างไร

ทั้งนี้ คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะรวบรวมคำให้การพยาน พร้อมพยานหลักฐานของทั้งสองฝ่าย มาทำคำวินิจฉัย ซึ่งหากพิสูจน์ได้ว่าเป็นการเสพเมถุน ก็จะมีโทษถึงขั้นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ต้องลาสิกขา ส่วนผลการพิจารณาวินิจฉัยจะเป็นอย่างไรนั้น ก็ต้องหลังจากเสร็จการสอบปากคำพยานทั้งสองฝ่าย จากนั้นคณะกรรมการจึงจะพิจารณาแล้วนำผลคำวินิจฉัยส่งให้เจ้าคณะจังหวัดมุกดาหารเพื่อพิจารณาสั่งการต่อไป