พบพิรุธ 30 จุด เส้นทาง GPS เรือแตงโม "อัจฉริยะ" เปิดข้อมูลเด็ด 16 ม.ค.
เมื่อวันที่ 14 ม.ค. ที่ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากที่ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ผู้ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ให้ดำเนินการแสวงหาข้อมูล ข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานเพิ่มเติมจากกรณีการเสียชีวิตของ แตงโม น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ นักแสดงสาวชื่อดัง ได้สอบสวนปากคำพยานสำคัญทั้ง 4 ราย อันประกอบด้วย พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ หรือ อาจารย์หมอธวัชชัย อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า, นายธนวัฒน์ สุหัตถาพร ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับเรือมากว่า 20 ปี, นายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และวิเคราะห์ระบบ GPS เสร็จสิ้น
โดย นายเอกราช เปิดเผยว่า ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้รวบรวมข้อมูลตามสื่อต่างๆ รวมทั้งการแถลงข่าวของตำรวจไปจนถึงได้ทดลองลงเรือสำรวจที่เกิดเหตุ จนกระทั่งได้ GPS ของจริงมา ตนก็นำมาวิเคราะห์ซอฟต์แวร์และพัฒนาโปรแกรมอ่านข้อมูล จนได้พิกัด ตำแหน่ง และเวลาไทม์ไลน์อย่างละเอียด ตั้งแต่แล่นเรือออกจากอู่จนถึงเก็บเรือ แล้วนำเรือออกมาแล่นอีกครั้งจนถึงประมาณตี 4 ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งสามารถนำมาเปรียบเทียบได้กับข้อมูลและภาพถ่ายจากสื่อมวลชน ดังนั้น ในวันนี้จึงได้นำข้อมูลดังกล่าวมามอบให้กับทางดีเอสไอ และจะเปิดเผยพิกัดอย่างละเอียดแก่สื่อมวลชนในวันที่ 16 ม.ค.นี้
นอกจากนี้ ข้อมูลที่ตนนำมาให้ดีเอสไอ พบว่าพิกัดตาม GPS มีข้อพิรุธประมาณ 20-30 จุดที่ตั้งเป็นข้อสังเกตว่าผิดปกติ ซึ่งบางจุด GPS ที่เคยแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนของตำรวจนั้น ไม่ตรงกับ GPS ที่สามารถวิเคราะห์ได้จากซอฟต์แวร์อย่างน้อย 4-5 จุด เช่น จากที่ปรากฏภาพถ่ายบริเวณสะพานพระราม 8 ก็พบว่าไม่ตรงกับ GPS ส่วนอีก 20 กว่าจุดที่เหลือนั้น เป็นจุดพิรุธที่ไม่เคยเปิดเผยกับสื่อมวลชนมาก่อน ซึ่งจะเปิดเผยพร้อมกันในวันที่ 16 ม.ค.
นายเอกราช เผยอีกว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าซอฟต์แวร์ GPS ยังสามารถอ่านความเร็วสูงสุดของเรือได้ โดยพบว่าเรือลำเกิดเหตุมีค่าความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 36 นอตในช่วงระหว่างเดินทางออกจากอู่ไปบริเวณด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี โดยจอดสักระยะหนึ่งก่อนที่จะหันเรือกลับมาที่อู่เดิมอีกครั้งด้วยความเร็วเท่ากัน ซึ่งเป็นช่วงเวลาหลังเกิดเหตุและหลังจากที่ปรากฏว่านำเรือเข้าเก็บที่อู่แล้ว
นายเอกราช ยังอธิบายเกี่ยวกับการทำงานของโปรแกรม GPS เพิ่มเติมว่า ตนยังสามารถนำภาพถ่ายตามจุดพิกัดต่างๆ มาตรวจสอบเพื่อหาให้ได้ว่าภาพถ่ายกับ GPS ตรงกันจริงหรือไม่ ซึ่งข้อมูลซอฟต์แวร์เหล่านี้นั้นถูกพิสูจน์ความถูกต้องในชั้นศาลในคดีที่นายอัจฉริยะถูกฟ้องหมิ่นประมาทโดยตำรวจหมดแล้ว จึงยืนยันว่าข้อมูล GPS ที่สามารถวิเคราะห์ได้จากซอฟต์แวร์ตรงความเป็นจริง 100%
นายเอกราช ยังบอกอีกว่า ทุกวันนี้เราสามารถที่จะเอาสิ่งที่บางคนพูดมาดูที่ GPS ได้เลย เช่น ช่วงเวลาการหยุดเรือแล้วถ่ายรูป เพราะพอเรามาดูไทม์ไลน์จริงๆ ปรากฏว่าไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะฉะนั้น GPS มันจะบ่งบอกในสิ่งที่เราไม่เคยเห็นที่ปรากฏบนสื่อแค่นั้น ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า ซอฟต์แวร์ของเราจะวิเคราะห์มาให้ว่า จุดไหนพบความผิดปกติบนเรือ โดยเฉพาะจุดที่อาจารย์ปานเทพได้แถลงไปแล้ว คือ ที่วัดค้างคาว ซึ่งเราให้น้ำหนักกับวัดค้างคาว ใครเป็นคนขับเรือไปที่นั่น แล้วไปจอดอยู่ 1 ชั่วโมง แต่รายละเอียดรอแถลงว่าทำไมถึงเป็นจุดนั้น และเมื่อถามถึงความเร็วที่เรือวิ่งในช่วงนั้น นายเอกราช ตอบว่า ความเร็วสูงสุด คือ 36 นอต ที่จับได้ และเป็นช่วงที่เอาเรือไปเก็บแล้ว