สาว PR ร้องเพจสายไหมฯ โดนอดีตแฟนหนุ่มทำร้ายสารพัด อัดคลิปอนาจาร โพสต์ประจานเสียหาย
วันที่ 15 ม.ค. 68 เวลา 10.30 น. ที่ทำการเพจสายไหมต้องรอด นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รับเรื่องช่วยเหลือจากสาวพีอาร์รายหนึ่ง หลังถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายและจับแก้ผ้าพร้อมถ่ายคลิปประจาน สาเหตุที่ถูกทำร้ายเนื่องมาจากสาวพีอาร์ทนพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงไม่ไหว จึงขอบอกเลิก ซึ่งหลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว แต่ยังกังวลเรื่องความไม่ปลอดภัย จึงเข้ามาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด
โดยสาวพีอาร์อายุ 18 เล่าว่า เธอคบกับฝ่ายชายอายุ 25 ปี ที่ไม่ได้ทำงาน ประมาณ 4-5 เดือน ที่ผ่านมาถูกทำร้ายมาโดยตลอด ทั้งตบ เตะ ต่อย แต่ฝ่ายหญิงไม่คิดจะเอาเรื่องเพราะไม่ได้รุนแรงอะไร จนกระทั่งเมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ฝ่ายหญิงขอคุยเพื่อขอเลิกเพราะทนไม่ไหว และต้องการกลับไปดูลูกอยู่บ้าน ฝ่ายชายเลยมาตามถึงที่ทำงานแล้วออกอุบายให้มาพูดคุยที่บ้านของฝ่ายชาย ท้องที่ สน.คันนายาว อ้างว่าจะได้พูดคุยบอกเลิกกันด้วยดี แต่สุดท้ายฝ่ายชายก็จับบีบคอ เอาปืนจ่อหัว จับฉีกเสื้อผ้า และทำร้ายร่างกาย แล้วถ่ายคลิปเพื่อข่มขู่ รวมทั้งฝ่ายชายยังกล่าวหาว่าเป็นเพราะฝ่ายหญิงจะไปมีคนอื่นเลยหึงหวง แล้วหลังจากนั้น ฝ่ายชายก็เอารหัส Facebook ของฝ่ายหญิงแล้วปล่อยคลิปทำร้ายร่างกายลงใน Facebook ของฝ่ายหญิง
ฝ่ายหญิงบอกอีกว่า ช่วงแรก ๆ ที่รู้จักกัน นิสัยดีมาก แต่เริ่มทำร้ายเดือนที่ 2 ทะเลาะกัน ทั้งตบหน้า โยนของใส่ แต่มักจะทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย จนกระทั่งมาหนักที่สุดก็เมื่อวันที่ 10 มกราคมที่ผ่านมา ฝ่ายชายไม่มีเรื่องของยาเสพติด มีแต่ดื่มน้ำกระท่อม ที่ผ่านมาก็เคยร้องขอว่า เวลาทะเลาะกันอย่าทำร้ายร่างกาย แต่เขาก็ไม่ฟัง เพราะเขาอ้างว่าเป็นคนอารมณ์ร้อน
ตอนนี้ตนจะไม่กลับไปคบกับชายคนนี้อีกแล้วเพราะกลัว เนื่องจากถูกทำร้ายแบบนี้หลายรอบแล้ว อยากให้เขามาเยียวยารับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไปกับตน ส่วนที่มาร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เพราะกังวลในเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากตอนนี้ตนไม่กล้าไปทำงาน เพราะฝ่ายชายยังไปดักเฝ้าที่ทำงานและเคยขู่ว่า "หนีไม่รอดหรอก" จะยังคงจ้องจะทำร้ายต่อเนื่อง
นายเอกภพกล่าวว่า หลังจากนี้จะประสาน ผกก.สน.คันนายาว ให้นำตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไปหรือให้ฝ่ายสืบสวนไปนำตัวมาปรับทัศนคติ เพราะไม่อยากให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ และกังวลว่าผู้เสียหายจะเป็นอันตรายมากกว่านี้ ซึ่งข้อหาความผิดของผู้ก่อเหตุนั้น ครอบคลุมทั้งเรื่องการทำร้ายร่างกายและตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์