ผู้เชี่ยวชาญ GPS เปิดข้อมูลพิรุธ 30 จุด ชี้ "แตงโม นิดา" อาจจะหายไปหลังกินข้าวร้านบ้านตานิด
นายเอกราช นามโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี(CTO) และผู้ก่อตั้งบริษัท เบตเตอร์ ซอฟต์ จำกัด บอกว่า วันนี้ได้นำข้อมูลข้อมูล GPS ของเรือลำนี้ตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงวินาทีสุดท้าย ไม่ว่าการแถลงข่าวหรือการให้สัมภาษณ์เราเห็นเพียง GPS บางส่วน รวมถึงการนำเรือไปเก็บสิ้นสุดที่อู่เรือ NBC แต่ยังมีความผิดปกติอีกไม่ต่ำกว่า 30 จุด ซึ่งข้อเท็จจริงที่ได้ขออนุญาตจากศาลฯ และนำมาเข้าโปรแกรม ซึ่งก่อนหน้านี้เราไม่มีข้อมูลนี้
นายเอกราช อธิบายข้อมูลหมายเลขลำดับเส้นทาง ที่ได้บันทึกข้อมูลไว้ ซึ่งเป็นวันเดือนปีและชั่วโมงเวลาที่เกิดขึ้นจริง วินาทีที่ใช้ในการเดินทาง และยังมีการบอกตำแหน่งต่างๆของการเดินทาง รวมไปถึงอุณหภูมิและความลึกของน้ำบริเวณนั้น ซึ่งใช้ตามมาตรฐานของโปรแกรมระดับโลก ข้อมูลทั้งหมดตั้งแต่เวลา 16:14 น. ของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 จนถึงเวลา 04.03 น. ของวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2565 มีข้อมูลทั้งหมดที่บันทึกได้ 6,351 ข้อมูล โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ใช้ซอฟต์แวร์และ AI มาช่วยตรวจสอบถึงความผิดปกติเรื่องของความลึกของน้ำที่หายไป 8 ตำแหน่ง ตรวจสอบจุดความเร็วเพิ่มขึ้นและลดลงในลักษณะกระชากไม่ใช่แค่เพียงจุดเดียวแต่มีถึง 11 ครั้งจากความเร็วมากกว่า 6 นอต และยังมีความเร็วเรือมากกว่า 25 นอต ถึง 6 จุด
นอกจากนี้นายเอกราช ยังแสดงภาพเส้นทางของการเดินเรือในวันนั้น จากจอภาพจะเห็นได้ว่าเส้นทางการเดินเรือมีการไขว้กันไปมายุ่งเหยิง โดยเริ่มตั้งแต่เวลา 16:49 น. ที่เรือเคลื่อนออกจากอู่ NBC จากการสังเกต เป็นลักษณะการวอร์มเรือ โดยเส้นทางขึ้นไปทางเหนือเพื่อไปเติมน้ำมัน ตรงจุดนี้ในเวลา 17:01 น. เรือเทียบท่าเพื่อเติมน้ำมัน "แตงโมกับกระติก" ถ่ายรูปคู่กันบริเวณจุดนี้
จากนั้นเวลา 17:13 น. ปอโอนเงินจ่ายค่าน้ำมันแล้วขับกลับมาอู่จอดเรือ NBC เพื่อรับแซน สอดคล้องกับภาพที่แซนก็ถ่ายรูปที่บริเวณอู่เรือ โดยช่วงแรกยังไม่มีอะไรที่ผิดสังเกต แต่ความผิดปกติเริ่มจากตั้งแต่เรือกลับมาจากร้านอาหารบ้านตานิด
โดยนายเอกราช บอกว่า ช่วงเวลาประมาณ 18:24 น. เรือมาจอดถึงร้านอาหารบ้านตานิด เพื่อรับรับประทาน และเรือออกจากร้านอีกทีในเวลา 20:08 น. จากนั้นเรือได้แล่นต่อเนื่องลงมาทางทิศใต้
โดยจะเริ่มมีจุดผิดปกติที่น่าสังเกตช่วงเวลาประมาณ 20:30 น. มีการถ่ายภาพของแตงโมบริเวณกลางแม่น้ำ ตามสัญญาณ GPS เรือจอด จากนั้นสัญญาณบริเวณจุดกลางแม่น้ำช่วงเวลาประมาณ 20:36 น. เรือหักหัว ช่วงนี้ความลึกน้ำหายไป โดยลักษณะเหมือนมีสิ่งของบางอย่างมาบดบังเซ็นเซอร์ สันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเรือขนาดใหญ่ ทำให้ไม่สามารถระบุความลึกได้ ซึ่งบริเวณนี้อยู่กลางแม่น้ำช่วงท่าเรือริเวอร์เดล สอดคล้องกับที่มีคลิปที่แตงโมร้องเพลงและมีแสงสว่างจากทางด้านหลังปรากฏในคลิป
หลังจากนั้นไม่เห็นภาพแตงโมอีกเลย จนมาเห็นภาพแตงโมอีกครั้ง คือ รูปคู่ที่ถ่ายคู่กับกระติก ที่มีการตั้งข้อสันนิษฐานว่าเป็นการแต่งรูป โดยสัญญาณ GPS ปรากฏเรือแล่นต่อลงมาทางทิศใต้ตั้งแต่ช่วงเวลา 20:39 น. มีช่วงหนึ่งของการแถลงข่าว ซึ่งจุดนั้นเรือวิ่งมาถึงบริเวณหน้าวัดค้างคาว เยื้องกับท่าเรือพิบูลสงคราม
นายเอกราชได้เปิดภาพจากสำนักข่าวช่องหนึ่งที่ได้มีการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ โดยใน GPS มีลักษณะมาวนบริเวณหน้าวัดค้างคาวประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่ถูกพูดถึงเลยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา
จากนั้น เรือได้แล่นต่อมาทางใต้ แล้วมาหยุดหันหัวเรือ ช่วงเวลาประมาณ 21:42 น.
สอดคล้องกับที่มีข้อความเข้ามาหาอาจารย์ปานเทพบอกว่า "แตงโม" เสียชีวิตเวลาประมาณ 22:45 น. ถึง 23:00 น. แตงโมตายแล้ว ตกน้ำ และขับวนหาโมมาเป็นชั่วโมงแล้วหาไม่เจอ โดยช่วงนี้อาจารย์ปานเทพ ได้ขยายความอธิบายว่าข้อความนี้เป็นเพื่อนของแซน ที่พยายามแจ้งบอกกับแอนนา
จากนั้น นายเอกราช อธิบายต่อว่า เรือวกหันหัว ก่อนจะมุ่งหน้าทางใต้ไปที่สะพาน พระราม 8 ช่วงเวลาประมาณ 21:56 น. เรือมาถึงสะพาน พระราม 8 และมีภาพกระติกถ่ายรูปคู่กับแตงโม(แต่ในภาพมีข้อสงสัยว่าการตัดต่อภาพแตงโมเข้ามา)
จากนั้น 22:06 น. ตอนนี้หัวเรือหันหัวมุ่งไปทางเหนือ ในลักษณะจอดนิ่ง และเป็นภาพเดี่ยวกระติก แต่ในภาพในกล้องกระติกระบุเวลา 22:13 น. ซึ่งขัดแย้งกับสัญญาณ GPS อยู่เลยสะพานซังฮี้ไปแล้ว (จึงมีการตั้งข้อสังเกตว่าแก้เวลา)
และกล้องวงจรปิดเวลา 22.18 น. เรือแล่นมาถึงบริเวณสะพานซังฮี้ แต่ในความจริงตามสัญญาณ GPS เรือผ่านสะพานซังฮี้ตั้งแต่ช่วง 22:11 น.
นอกจากนี้ยังมีการเปิดภาพ ตามเวลาจริงคือ 22:32 น. เป็นภาพที่ขยายออกมาจากกล้องวงจรปิด ซึ่งมีการวงกลมวัตถุในภาพโดยใส่หมายเลข 1-5 แต่วงกลมหมายเลข 6 ลักษณะเหมือนไม่มีเงาของวัตถุอยู่ในวงกลมนั้น โดยนายเอกราชอธิบายและให้สังเกตหากมีวัตถุอยู่ในภาพจริงๆเป็นลักษณะเงาดำดำ คือ บุคคลที่อยู่บนหัวเรือ 2 คนหลังพวงมาลัย 1 คน และกลางลำเรือ 2 คน ซึ่งจะปรากฏอยู่ทุกเฟรมของภาพเคลื่อนไหว และที่น่าสังเกต คือ มีบุคคลที่อยู่ท้ายเรือหรือมีวัตถุอยู่ท้ายเรือหรือไม่ โดยเปรียบเทียบให้เห็นในภาพทั้งกราบเรือซ้าย-ขวา และเบาะที่ตั้งขึ้น หากมีวัตถุที่นั่งอยู่ตรงนั้นกราบเรือด้านซ้าย ต้องถูกบดบัง เป็นข้อยืนยันว่าท้ายเรือไม่มีคนอยู่ ซึ่งวงจรปิดช่วงนี้ระบุบันทึกเวลา 22:32 น. เห็นได้ชัดเจนว่าแตงโมไม่อยู่บนเรือแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่มีการปรับแสงไม่มีการลดแสงเป็นภาพจากต้นฉบับเพื่อให้เห็นรายละเอียด และต้นฉบับอย่างชัดเจน
นายเอกราช กล่าวต่อ หลังจากบริเวณจุดใกล้กับท่าเรือพิบูลสงครามไปจนถึงช่วงเวลาที่คาดว่าจะเป็นช่วงที่แตงโมตกเรือตามสัญญาณ GPS ช่วงเวลา 23:00 น. เรือมีการจอดบริเวณท่าทราย ใกล้กับท่าเรือพิบูลสงคราม ซึ่งเป็นจุดที่นายอัจฉริยะไปเก็บตัวอย่างดินเพื่อส่งไปตรวจสอบ
จากตำแหน่งนี้ในเวลา 00.34 น. หลังจากเอาเรือไปเก็บแล้ว ได้มีการขับเรือออกมาที่บริเวณหน้าวัดค้างคาวอีกครั้ง โดยหัวเรือหันเข้าไปที่วัดค้างคาว และมีการชะลอความเร็วเรือเหลือประมาณ 2 นอต ก่อนเรือจะแล่นกลับไปที่อู่ NBC
จากนั้นเวลา 01:58 น. ได้มีการสตาร์ตเรือออกไปเล่นมุ่งหน้าทางเหนือด้วยความเร็ว 36 นอต มาจอดที่บริเวณอู่แห่งหนึ่ง ก่อนมุ่งหน้ากลับด้วยความเร็วเท่าเดิมมาที่อู่เอ็นบีซี ในเวลา 02:12 น.
ก่อนมีการนำเรือออกอีกรอบในเวลา 02:20 น. ขับมาที่บริเวณวัดศาลาลี มาขับวนอยู่และขับต่อไปที่วัดค้างคาว โดยลักษณะขับวนที่บริเวณหน้าวัดค้างคาวอยู่พักใหญ่ และขับต่อเลยมาอีกนิดเป็นทางเดินริมน้ำใกล้กับวัดค้างคาวติดกับประตูระบายน้ำ โดยปล่อยเรือไหลโดยไม่มีความเร็วบริเวณนี้ โดยความลึกจุดนี้อยู่ที่ 16 เมตร จึงมีการตั้งคำถามว่ามีการทำอะไรบนเรือและขับมาที่จุดนี้เพราะสาเหตุใด
จากนั้นในเวลา 04:03 น. ได้นำเรือกลับไปเก็บที่อู่ NBC และเรือไม่ถูกนำมาขับอีกเลย
นายเอกราช บอกว่า สำหรับข้อมูล GPS ทั้งหมดนี้ ได้ส่งมอบให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ เรียบร้อย แล้วเพื่อไปใช้ประโยชน์ในการทำการสืบสวนต่อไป