ฟังอีกมุม! แฟนหนุ่มคู่กรณี "แสตมป์" โพสต์โต้กลับอีกฝ่าย ยันไม่เป็นความจริง บอกอีกฝ่ายพยายามติดต่อแฟนตนมาโดยตลอด ท้าพิสูจน์ข้อเท็จจริง ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
จากกรณีดราม่าร้อนๆ "แสตมป์ อภิวัชร์" ของนักร้องชื่อดัง ที่หายจากวงการเพลงไปนาน เพิ่งจะกลับมาเล่นคอนเสิร์ต และปล่อยเพลงใหม่อีกครั้ง ช่วงปลายปีที่แล้ว ล่าสุด เมื่อ 3-4 วันก่อน เพิ่งไปเล่นคอนเสิร์ต ที่โรงละครเคแบงก์สยามพิฆเนศ จึงได้เล่าเหตุการณ์ช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ให้แฟนเพลงได้ฟัง ว่า มีสาวรายหนึ่ง คุกคาม สร้างเรื่อง และใส่ร้ายภรรยา จนเรื่องถึงศาล และ "แสตมป์" ชนะคดี และคู่กรณีก็รับปากว่า จะหยุดคุกคามภรรยา ปรากฎว่า ยังโพสต์ด่าไม่หยุด แถมพ่อของคู่กรณี ซึ่งเป็นนายพล ก็ข่มขู่จะยัดข้อหาทางการเมือง ถ้าแสตมป์ ไม่ยอมถอนฟ้องลูกสาวเขา ล่าสุดแฟนหนุ่มคู่กรณีของ แสตมป์ ออกมาชี้แจงผ่านไอจีส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า
"จากกระแสที่เกิดขึ้นบนโลกโซเชียลในขณะนี้ว่าแฟนผมเป็นซาแซง ร่วมกันกับผม ซึ่งทำหน้าที่เป็นทีมงาน FOH Engineer ของวงดนตรีวงหนึ่ง ร่วมกัน โกหก แต่งเรื่อง บุกไปตามที่ต่างๆ เพื่อดักเจอหรือคุกคามศิลปินคนหนึ่งกับภรรยานั้น ผมขอยืนยันว่าเรื่องที่ว่ามานั้นไม่เป็นความจริง สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ และยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายต่างหากที่เป็นฝ่ายพยายามติดต่อแฟนผมมาโดยตลอด ทั้งชักชวนไปทำงาน มอบหมายความรับผิดชอบในส่วนต่างๆให้ ผมขอยืนยันว่าเรื่องที่ว่ามานั้นไม่เป็นความจริง สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ และยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ก่อนหน้านี้อีกฝ่ายต่างหากที่เป็นฝ่ายพยายามติดต่อแฟนผมมาโดยตลอด ทั้งชักชวนไปทำงาน มอบหมายความรับผิดชอบในส่วนต่างๆให้ รวมถึงหน้าที่ที่ฝ่ายนั้นบอกว่าทางเราแอบอ้าง ส่งข้อความมาหาในเรื่องงาน จนลามไปถึงเรื่องส่วนตัวซึ่งยอมรับตามตรงว่าเราเองในฐานะแฟน ก็ไม่ได้พอใจที่มีการส่งข้อความแปลกๆ เหล่านั้นมาโดยตลอด
วันที่เจอหลังเวที งาน Monster Music Festival 2023 ผมได้ถ่ายคลิปไว้จริง ซึ่งเกิดจาก ณ เวลานั้น ผมอยู่ที่บริเวณนั้นคนเดียว ภรรยาอีกฝ่ายได้ตะโกนด่าผมด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย พร้อมกันนั้นตัวศิลปินคนนั้นเดินตรงเข้ามาผลักอกผมอย่างรุนแรง ผมจึงต้องหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายไว้เพื่อป้องกันตัว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่ไม่ออกมาเคลื่อนไหวหรือแถลงข้อเท็จจริง เพราะว่ากลัวว่าหากเราแสดงตัว เรื่องที่ไม่เป็นเรื่องนี้จะกระทบทุกคนที่อยู่รอบข้าง กระทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็น เพื่อน พี่น้อง ที่อยู่ข้างๆ วงดนตรีที่ผมรัก แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาทางเราเป็นฝ่ายที่ถูกคุกคามจากอีกฝ่าย ทั้งจากการเอาไปพูดตามที่ต่างๆ ใช้สื่อ หรือช่องทางอื่นๆ เพื่อหวังให้ต้นสังกัดเข้าใจตามที่ปรากฏในสื่อช่องทางต่างๆ ในแบบที่เค้าต้องการ เพื่อให้ผมถูกต้นสังกัดยุติการจ้างงาน และไม่สามารถร่วมงานกับใครได้อย่างที่เคย รวมถึงพูดให้น้องที่สนิทกับผมออกจากต้นสังกัด
ในเรื่องของคดีความที่ฝั่งเราถูกฟ้องร้องทุกคดี ปัจจุบันคดีความเป็นที่ยุติแล้ว โดยไม่มีการวินิจฉัยว่าเรากระทำการตามที่ถูกกล่าวหา ฝั่งเราก็คิดมาตลอดว่าคดีจบแล้วก็ควรจะต่างคนต่างอยู่ แต่ไม่ได้เป็นไปตามนั้นเลย อีกฝั่งยังคงคุกคามเราในหลากหลายช่องทางจนถึงปัจจุบัน
ทั้งนี้ ผมอยากจะขอโทษทุกๆคนที่ถูกพาดพิง และถูกอ้างอิงโดยไม่ได้เกี่ยวข้อง จนได้รับความเดือดร้อน ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยในส่วนของข้อกฎหมาย ตอนนี้กำลังปรึกษาทนายและจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไปครับ"